คืนหนึ่งค่ำนั้นกับรถเมล์สาย ๙๗
คืนหนึ่งค่ำนั้นกับรถเมล์สาย ๙๗
โดย : อักษราลัย
เสียงนกร้องยามเช้า ชำแรกแทรกผ่านเข้ามาในโสตประสาท ฟังน่ารื่นรมย์ ขับไล่ความโดดเดี่ยวที่โอบกอดไว้ตลอดค่ำคืน ให้พลันมลายหายไปตามไออุ่นของแสงแห่งอรุณรุ่ง เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือทำให้หลุดจากภวังค์
“สุขสันต์วันเกิดอายุครบ ๒๙ ปี”
ข้อความที่แสดงโชว์บนหน้าจอมือถือ ไม่ใช่ถ้อยคำอวยพรจากใครอย่างที่หวัง หากแต่คือการแจ้งเตือนวันเกิดตัวเองในปฏิทินที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่ปีก่อน
“๒๙ แล้วสินะเรา” รำพึงเบา ๆ ก่อนลุกไปปฏิบัติภารกิจยามเช้า เตรียมไปทำงานตามปรกติ
“แกร๊ก ๆๆๆๆ” เสียงที่ดังออกมาจากเครื่องรถคันเล็กที่ใช้มานาน บอกความเกเรให้หงุดหงิดใจ
“ซวยฉิบหาย วันเกิดแท้ ๆ” บ่นอุบอิบในลำคอ แม้ไม่อยากพูดคำหยาบในวันดี ๆ เช่นนี้ แต่ความหงุดหงิดที่เกิดทำให้อดไม่ได้ ก้าวลงพร้อมปิดประตูรถเสียงดังหวังดับความพลุ่งพล่านในใจ เดินอย่างเร่งรีบเพราะต้องพึ่งรถโดยสารเพื่อไปเข้างานให้ทันเวลา รถเมล์คันแล้วคันเล่าที่ผ่านหน้าไป มีผู้โดยสารเบียดเสียดแน่นเหมือนยัดทะนาน หลังจากละล้าละลังอยู่นาน ผมตัดสินใจโบกแท็กซี่คันที่ดูใหม่เอี่ยมอย่างจำยอมรับสภาพ เพราะไม่ชินกับการขึ้นรถเมล์มานาน รถคันเล็กที่ใช้อยู่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ ก่อนหนีไปบวช เพราะหมดห่วงเมื่อผมเรียนจบปริญญาตรี
“เมี้ยว ๆๆๆๆ” เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือ ทำเอาพี่โชเฟอร์หันรีหันขวาง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นผมเอาโทรศัพท์แนบหู แกคงเห็นจากกระจกมองหลัง ที่ผมก็มองเห็นเสี้ยวหน้าแกเช่นกัน
“วันนี้ครบ ๒๙ แล้วสิ เดินทางไปไหนมาไหนระมัดระวังไว้บ้างนะ อาตมาเป็นห่วง” หลวงพ่อโทรมาแบบนี้ นอกจากจะไม่อวยพรตามปรกติเหมือนเช่นทุกปี ถ้อยคำนั้นทำเอาผมใจหายไปเหมือนกัน
“ครับ หลวงพ่อ” ท่านวางสายไปหลังผมพูดจบ เป็นเช่นนั้นเองระหว่างเราสองคน คำน้อยที่ออกจากปากไม่ใช่เพราะขุ่นเคืองกัน แต่เพราะความไม่ช่างพูดของพ่อ โดยเฉพาะเมื่อแม่จากไปตอนผมเรียนชั้นมัธยม ๖ ท่านยิ่งเงียบไปกว่าเดิม ภารกิจในบ้านที่เคยเป็นของแม่ ท่านก็ดูแลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เว้นเรื่องส่วนตัวที่หลวงพ่อหัดให้ผมทำเอง เช่น การซักเสื้อผ้า กวาดถูห้องนอนตัวเอง ท่านว่าเผื่อต้องอยู่คนเดียวจะได้ทำเป็น คิดแล้วเหมือนท่านวางแผนไว้มากกว่า เมื่อผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ พ่อให้ผมไปอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย ให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง โดยไม่เข้ามาก้าวก่ายทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการดำเนินชีวิต
หลังวางสายจากหลวงพ่อ ใจผมแกว่งอย่างประหลาด ความรู้สึกเปรมปรีดิ์ในวันคล้ายวันเกิดมลายหายไปสิ้น คงเหลือแต่ความวิตกกังวล เพราะรู้ว่าคำเตือนนี้ไม่ใช่คำพูดเล่น ๆ ลางสังหรณ์ของพ่อค่อนข้างแม่น ดูจากวันที่แม่เดินทางไปดูงานกับบริษัทฯ พ่อค้านหัวชนฝาไม่ให้แม่ไป ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โตทั้งที่ปรกติแล้วแทบไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน แม่ว่าพ่อเอาแต่ใจไร้เหตุผล แต่สุดท้ายแล้วลางสังหรณ์ของพ่อก็ทำหน้าที่ได้อย่างแม่นยำ รถคันที่แม่เดินทางไปเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงเหว จากหมอกหนาและความไม่ชำนาญทางของคนขับ
ตลอดวันผมทำงานด้วยความเหม่อลอย ทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง ใจคิดถึงแต่คำเตือนของหลวงพ่ออยู่ตลอด จำต้องอยู่แก้งานจนมืด เมื่อออกมานอกสำนักงานเป็นเวลาที่นกกากลับรังหมดสิ้นแล้ว ท้องฟ้ามืดดำคล้ายฝนจะตก อากาศอึมครึม หม่นเศร้า มีผู้คนเพียงนิดหน่อยอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น รถสาย ๙๗ มาในเวลาไม่นานนัก รถคันนี้จะวิ่งผ่านใกล้บ้านแถวกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นรถไปแล้ว แม้ผู้คนไม่เบียดเสียดเหมือนเมื่อเช้าที่เห็น แต่ก็มีผู้โดยสารนั่งอยู่เต็มเกือบทุกที่นั่ง กวาดสายตามองหาเก้าอี้ว่าง เจอบริเวณท้ายรถ มีชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตสีขาววัยทำงานนั่งริมหน้าต่างอยู่ก่อนแล้ว ผมรีบเดินไปนั่งเพราะเหนื่อยล้าเต็มทน ดีที่ยังได้นั่งหากต้องยืนผมคงไม่ไหวแน่
เมื่อนั่งลงแล้ว ผมก็มองสำรวจไปทั่ว ๆ อย่างสนใจ ผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมามีหลายช่วงวัย ด้านหน้าที่นั่งตรงข้ามคนขับที่เป็นเบาะยาวมีวัยรุ่นชายใส่ชุดอาชีวะเสื้อขาวกางเกงขายาวสีน้ำเงิน บางคนก็ใส่เสื้อคลุมเหมือนเสื้อช็อป คงเป็นนักเรียนอาชีวะทางผ่านของรถเมล์สายนี้ พวกเขาพูดคุยกันเสียงดัง โดยไม่มีใครสนใจ คงเป็นภาพชินของคนเดินทางเป็นประจำของรถเมล์คันนี้ บางที่นั่งคงเป็นคู่รักกันฝ่ายหญิงบางคนเอนซบไปกับไหล่ของฝ่ายชาย นั่นทำให้คนโสดอย่างผมอดอมยิ้มไม่ได้ ภาพนั้นทำให้โลกดูสว่าง สดชื่น ดูมีความหวัง สักวันผมคงมีใครมาซบไหล่ให้ไออุ่นแบบนั้นบ้าง ก่อนจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปมากกว่านั้น รถเมล์จอดเข้าป้ายพอดี วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกรูกันขึ้นมาบนรถทางบันไดด้านหลัง ใจผมเต้นระทึกพยายามคิดไปในแง่ดีว่าคงเป็นการขึ้นรถเมล์ตามธรรมดา
“เฮ้ย ๆ พวกมันนั่งอยู่ด้านหน้า” หนึ่งในกลุ่มที่ขึ้นมาใหม่พูดขึ้น ลางสังหรณ์ของผมเป็นจริงขึ้นมาทันที ในกระเป๋ากางเกงยีนของบางคนมีคัตเตอร์ขนาดใหญ่เสียบอยู่ บางคนถือไม้ทีแกว่งอาด ๆ ด้วยมาดกวน ๆ ทุกคนในกลุ่มที่ขึ้นมาทางท้ายรถหันไปทางหน้ารถ คนทางนั้นก็หันมามองคนกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน ผมว่าบรรยากาศมันส่อเค้าไม่ค่อยดี แต่พวกเราทุกคนบนรถเหมือนถูกกักขังให้อยู่ร่วมชะตากรรมกันโดยไม่มีทางหลบเลี่ยง
มีบางคนในกลุ่มท้ายรถเดินรุดไปด้านหน้า ยังไม่ทันถึง เขาหยิบบางอย่างออกมาจากช่วงเอว ขณะที่คนในกลุ่มหน้ารถลุกขึ้นยืนกันพรึ่บอย่างพร้อมเพรียงกัน มีคนหนึ่งเดินก้าวออกมาจากกลุ่ม ประจันหน้ากับคนที่กำลังเดินไป
วัยรุ่นชายคนนั้นหันปากกระบอกปืนมายังด้านหลังรถ สีหน้าและแววตาราวกับไม่ใช่คนอายุน้อย ๆ มันกร้าว กระด้าง จนน่าขนลุก ก่อนที่ผมจะทันคิดอะไรต่อ เสียงกัมปนาทก็แผดเสียงขึ้น
“เปรี้ยง ๆๆ” เสียงดังลั่นราวประทัดแตก จับทิศทางไม่ได้ว่ามาจากทางใดกันแน่
เสียงนั้นดังสะท้านเข้าไปถึงหัวจิตหัวใจ เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ รินออกมาจากบาดแผล ซึมออกมาจนเสื้อเชิ้ตสีขาวด่างเป็นดวง ผมกุมหน้าอก ใจสั่นระริก มือไม้พานเย็นเหมือนเลือดไหลออกไปจากตัวจนหมดสิ้น เหงื่อผุดพราย เสียขวัญ กล่าวโทษวันอภิมหาซวยอยู่ในใจ ร่างกายผมตอนนี้มีอาการกระปลกกระเปลี้ยเหมือนวิญญาณกำลังจะออกจากร่าง รถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว เซถลาราวนกปีกหัก เสียงคนด้านหน้าตะโกนลั่น
“คนขับถูกยิง”
คงมีคนยิงพลาดไปโดนคนขับ รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วเซล้มตะแคง ครูดไปกับท้องถนนเสียงดังลั่น ก่อนจะไปหยุดด้วยการชนเข้ากับเสาไฟฟ้าริมถนน เสียงวี๊ดว้ายเซ็งแซ่ดังไปทั่วรถ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ความรู้สึกของผมวูบไป ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีด้วยการลุกขึ้นมายืนอยู่กลางคันของรถ
ภาพที่มองเห็นนั้นเหมือนยืนมองฉากจากจอโทรทัศน์ คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าบางคนมีบาดแผลเลือดไหลย้อย น่าแปลกที่ผมไม่ได้กลิ่นคาวเลือดเลยสักนิด ทั้งที่มีคนมีแผลอยู่เต็มไปหมด มองไปทางด้านหลัง คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ร่างนั้นคอพับทรุดลงไปพิงกับขอบกระจก มีรอยถูกยิงตรงช่องท้อง เสื้อขาวเหมือนถูกย้อมด้วยสีแดง ผมรีบก้มลงมองตัวเอง ไม่พบบาดแผล หรือร่อยรอยความเจ็บปวดบริเวณไหนของลำตัวแขนขา นอกจากอาการปวดที่คอ เอามือคลำไปรู้สึกว่ารอยนั้นมันบุ๋มอ่อนยวบแปลก ๆ ใจมีสัมผัสสังหรณ์บางอย่างทำให้ผมหันกลับไปบริเวณด้านหน้าของรถ ที่นั่นผมเห็นเงาลาง ๆ ของหลวงพ่อ ท่านไม่ควรจะอยู่บนรถคันนี้ หรือแค่ดวงจิต หรือแค่มโนภาพความคิดของผมกันนะ ท่านเอามือแปะที่หน้าอกด้านซ้าย อย่างที่ทำเสมอเวลาเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ มีเงาหม่นทาบลงในดวงตาคู่นั้น ริมฝีปากนั้นขมุบขมิบถ้อยคำบางอย่าง ที่ผมอ่านปากได้ว่า
“โธ่!!! ลูก”
ผมหันหลับมาอีกทีเห็นอีกร่างข้าง ๆ หนุ่มคนที่ถูกยิงตาย ร่างนั้นใส่ชุดขาว ในมือมีกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊ค ร่างนั้นคอพับตาเหลือกไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่ามีชีวิต ที่สำคัญใบหน้านั้นช่างเหมือนผมราวกับแกะพิมพ์ออกมาทีเดียว…
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
เลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
ทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือ
"รูบิโอ" หวังว่าไทย-กัมพูชา จะหยุดยิงได้ภายในวันจันทร์ไม่ก็อังคาร
สุดสลดกลางกรุง สาววัย 36 ปีเสียชีวิตจากการตกจากคอนโดชั้น 35 ในเขตบางนา กทม.
วินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยว
วินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยว
เพื่อนชิ่งบิล 1,262 หยวน ทิ้งให้ “นายจาง” จ่ายคนเดียว เรื่องจริงที่สอนว่า กินข้าวต้องมีสติ ไม่ใช่แค่สั่งเมนู
ทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือ
"รูบิโอ" หวังว่าไทย-กัมพูชา จะหยุดยิงได้ภายในวันจันทร์ไม่ก็อังคาร
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ



