ความต้องการ
ความต้องการ
โดย : อักษราลัย
.
เช้านี้อากาศช่างสดชื่น ทุกสิ่งช่างน่าอภิรมย์ แสงยามเช้าของแดดทอแสงอ่อนรำไรดูเป็นประกายวิบวับ ลมพัดโชยระเรื่อให้ความสดชื่นต่อทุกสรรพชีวิต ใบหญ้าไหวเอนตามแรงลมอย่างเริงระบำ เป็นเช้าที่ทุกชีวิตบนผืนดินต่างตื่นมารับอรุณด้วยความสดใสและมีความหวัง
เจ้าช้างตัวโตเดินสะบัดงวงออกหาอาหาร เมื่อเดินมาถึงกอกล้วยขนาดใหญ่ก็แปลกใจ ที่พบกับผีเสื้อตัวน้อยที่ควรจะอยู่ที่ทุ่งดอกไม้ จึงเอ่ยปากสอบถามด้วยความสนใจ
"ทำไมมาหน้าเศร้าอยู่ตรงนี้ล่ะเพื่อนเอ๋ย" เจ้าช้างตัวใหญ่ใจดีเอ่ยถามเจ้าผีเสื้อแสนสวยที่เกาะกอกล้วยทำหน้าเศร้าเอาปีกหุบลงข้างลำตัวด้วยท่าทีอ่อนล้า
"ฉันอยากเป็นผีเสื้อที่ไม่หลงรักดอกไม้ แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ก็เหมือนไม่อาจต้านความปรารถนานั้นได้" ผีเสื้อกล่าวตอบ
ช้างสะบัดหัวไปมา ทำสีหน้างุนงง "ผีเสื้อที่ไม่หลงรักดอกไม้ ทั้งที่เจ้าต้องดูดดอมดมเกสรดอกไม้นี่น่ะ"
"ใช่ ... ฉันอยากสูดดอมดม อยากชอนไชน้ำหวานของดอกไม้ ต้นแล้วต้นเล่า แล้วแล้วจากไปอย่างไม่ใยดี แต่ทำไมฉันถึงทำไม่ได้"
"นั่นเพราะเจ้ามีความรัก มีความอ่อนโยน มีความห่วงหาอาทรน่ะซิ" ช้างผู้เกิดมานานและมีประสบการณ์กล่าวตอบ
ผีเสื้อหลุบตาลงครุ่นคิด และกล่าวตอบ
"ความรัก? ห่วงหาอาทร เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ ฉันเพียงแต่ทำตามหน้าที่ เราต่างแลกเปลี่ยนประโยชน์ซึ่งกันและกัน ฉันได้อาหารจากดอกไม้ ดอกไม้ได้การผสมพันธุ์จากฉัน เราต่างพึ่งพากันและกัน" ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
"เจ้ารู้เหรอว่าความรักคืออะไรถึงได้ปฏิเสธ" ช้างเอ่ยถามยิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู สีหน้าของผีเสื้อดูว้าวุ่นแกมสับสน
"ฉันไม่รู้หรอก ฉันไม่เคยรักใคร ความรักไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิต ฉันเพียงสนใจน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้เท่านั้น" ผีเสื้อกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
.
ช้างนิ่งมองดูผีเสื้ออยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้นเจ้าหลบมาอยู่ที่ดงกล้วยนี่ทำไม ที่นี่ไม่มีดอกไม้ ไม่มีน้ำหวานให้เจ้าสูดกิน มีแต่ที่ให้เกาะพักเท่านั้น หรือเจ้าต้องการแหล่งพักพิง"
"ฉันก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน ตอนอยู่กับดอกไม้นั้นช่างแสนสุขอิ่มเอม แต่ฉันกลับอึดอัด ดอกไม้บางดอกตัดพ้อที่ฉันไม่แวะเวียนไปหา บางดอกก็ปรีดาที่เห็นฉันจนไม่ยอมให้ไปไหน หุบกลีบดอกขังฉันไว้ภายใน ขณะที่บางดอกกลับหุบกลีบดอกไม่ยอมให้ฉันเข้าไป ดอมดมสูดน้ำหวาน ฉันทำตัวไม่ถูก เลยลองแวะมาที่กอกล้วยดูบ้างว่ามันแตกต่างกันไหม" น้ำเสียงที่ตอบมาจากผีเสื้อนั้นแผ่วเบา ด้วยอารมณ์ในใจ
"แล้วมันแตกต่างกันไหม" ช้างถามด้วยความอยากรู้
"อยู่ตรงนี้ฉันก็สุขสบายดีนะ กอกล้วยใหญ่เป็นที่ให้ฉันพักพิงทิ้งตัวได้อย่างเต็มที่ กับดอกไม้ฉันต้องคอยระมัดระวังไม่ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไป ไม่งั้นดอกไม้คงเฉาและโรยรา หากดอกไม้เฉาโรยราฉันก็จะไม่มีดอกไม้ไว้ดอมดมอีก" ผีเสื้อกล่าวตอบพลางถอนหายใจแล้วแล้วพูดต่อว่า
"แต่ในความมั่นคงของกอกล้วยนี้ ฉันได้แต่ความสบาย ตอนนี้ท้องของฉันหิวจนแสบไปหมดแล้ว"
ช้างส่ายงวงเบา ๆ ยิ้ม และตอบเจ้าผีเสื้อไปอย่างเอ็นดู
"บางทีคำตอบก็อยู่แค่ตรงหน้า ความต้องการจากภายในคือสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธ ตัวตนของแต่ละชีวิตล้วนมีที่มาที่ไป ไม่อาจฝืน คงทำได้แค่ยอมรับ เจ้าว่า ... จริงไหม ... "
ยังไม่ทันที่ช้างจะกล่าวจนจบประโยค ผีเสื้อก็บินจากไปตั้งแต่ได้ยินคำว่า 'ความต้องการจากภายในคือสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้' มันเข้าใจอย่างกระจ่างแล้วในตอนนี้ ว่าจริง ๆ แล้วชีวิตมันต้องการสิ่งใดกัน ...
ช้างนิ่งคิด ... แม้ที่นี่จะเป็นดินแดนที่ทุกสรรพชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเสรี ไร้การเข่นฆ่า ไร้การเอาเปรียบ ไร้การแข่งขัน อันเป็นดินแดนในฝันของทุกชีวิต แต่ไม่เคยมีอะไรดีพอสำหรับทุกชีวิตกระนั้นหรือ ยังมีการไขว่คว้า ดิ้นรนค้นหา หรือความต้องการไม่เคยมีที่สุด ... แล้วมันก็เดินเข้าไปใช้งวงปลิดกล้วยเข้าปากอย่างสบายใจ ... •