ฉีดโบลดริ้วรอยคืออะไร ราคาเท่าไหร่ ฉีดโบริ้วรอยกี่วันเห็นผล
ในปัจจุบันเทรนด์เสริมความงามของคนยุคใหม่ต้องเน้นความสวยเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยซึ่งฉีดโบลดริ้วรอยกลายเป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มคนไทย ปัจจุบันวิวัฒนาการของฉีดโบลดริ้วรอยได้มีการคิดค้น พัฒนาเทคนิค และสูตรใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ ทำให้โบท็อกลดริ้วรอยได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้หลากหลาย เน้นความเป็นธรรมชาติ ซึ่งสูตรโบท็อกซ์ใหม่ ๆ ที่คิดค้นออกมายิ่งเพิ่มความมีประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงน้อย
ฉีดโบลดริ้วรอยคืออะไร ทำไมกลายเป็นเทรนด์ฮิตของคนรุ่นใหม่
ฉีดโบลดริ้วรอย คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เข้าไปยังบริเวณที่มีริ้วรอยบนใบหน้า มีกลไกการออกฤทธิ์ คือ โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดเกร็งส่งผลให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยระหว่างคิ้ว รอยหน้าผาก ดูลดเลือนลง
นอกจากนี้ ฉีดโบลดริ้วรอยยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย ข้อดีคือ เห็นผลเร็ว ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ข้อเสียคือ อาจเกิดผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น รอยแดง บวม เขียวช้ำ และฉีดโบลดริ้วรอยราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ จึงทำให้โบท็อกลดริ้วรอย กลายเป็นเทรนด์ฮิตของคนรุ่นใหม่
หลักการทำงานของโบท็อกลดริ้วรอย และขั้นตอนของการฉีด botox ริ้วรอย
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ชนิด A ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ซึ่งหลักการทำงานของโบท็อกซ์ริ้วรอย มี 5 ขั้นตอน
- การฉีดbotoxริ้วรอย แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์เข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณที่ต้องการ โดยใช้เข็มขนาดเล็ก
- โบท็อกซ์เข้าสู่เซลล์ประสาท โบท็อกซ์จะเข้าสู่เซลล์ประสาทปลายที่ทำหน้าที่ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ
- ยับยั้งการหลั่ง Acetylcholine โบท็อกซ์จะยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว
- กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อ Acetylcholine หลั่งออกมาน้อยลง กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดจะคลายตัว
- ริ้วรอยลดลง การคลายตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยระหว่างคิ้ว รอยหน้าผาก ดูลดเลือนลง
ซึ่งการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยมีกระบวนการฉีด 4 ขั้นตอน ง่าย ๆ คือ
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อซักถามประวัติสุขภาพ ตรวจสภาพผิว ประเมินความเหมาะสมในการฉีดโบท็อกซ์
อธิบายรายละเอียด ผลข้างเคียง ค่าใช้จ่าย และตอบข้อสงสัย
- เตรียมตัวก่อนฉีด แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการทานยาละลายลิ่มเลือด งดแต่งหน้าในวันฉีด
- ขั้นตอนการฉีด แพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีด ใช้ยาชาเฉพาะที่ทาหรือฉีด ฉีดโบท็อกซ์ด้วยเข็มขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
- หลังฉีดโบลดริ้วรอย อาจมีรอยแดง รอยบวม ควรประคบเย็น หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า งดออกกำลังกายหนัก งดดื่มแอลกอฮอล์ ติดตามผลกับแพทย์ตามนัด
ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอยที่ทำให้คนตัดสินใจbotoxริ้วรอย มากขึ้นในปัจจุบัน
หากกำลังสงสัยว่า ฉีดโบลดริ้วรอยดีไหม ฉีดโบลดริ้วรอยอยู่ได้กี่เดือนลองมาดูข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอยซึ่งในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีข้อดีหลายประการดังนี้
- ลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยระหว่างคิ้ว รอยหน้าผาก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เห็นผลรวดเร็ว โบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3-7 วัน และเห็นผลชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์
- ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน ผลลัพธ์ของการbotoxริ้วรอยสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน
- ปลอดภัย ฉีดโบลดริ้วรอยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ใช้เวลาพักฟื้นสั้นหลังฉีดโบท็อกซ์ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ไม่เจ็บปวดการโบท็อกลดริ้วรอยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย
- ในปัจจุบันโบท็อกซ์ริ้วรอยมีตัวเลือกหลากหลาย มีสูตรโบท็อกซ์หลายแบบ แพทย์จะเลือกสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของคนไข้
- botoxริ้วรอยผลข้างเคียงน้อย ผลข้างเคียงที่พบบ่อย คือ รอยแดง บวม หรือปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายไปภายในไม่กี่วัน
- ปรับรูปหน้าให้ได้รูป นอกจากลดริ้วรอยแล้ว โบท็อกลดริ้วรอยยังสามารถใช้ปรับรูปหน้าให้ได้รูป เช่น ยกคิ้ว ปรับรูปจมูก
- โบท็อกลดริ้วรอยเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เมื่อใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และไร้ริ้วรอย จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับบุคคลนั้น
บริเวณไหนบ้างที่นิยมฉีดโบลดริ้วรอย
บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย แพทย์จะเลือกบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ให้เหมาะสมกับความต้องการ และปัญหาผิวของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งในปัจจุบันจุดที่นิยมฉีดมีดังนี้
- ฉีดโบหน้าผาก ช่วยลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียน ซึ่งปัจจุบัน โบท็อกหน้าผาก ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะหน้าผากเป็นจุดที่ค่อนข้างเด่นบนใบหน้า แต่เพื่อไม่ให้การฉีดโบท็อกหน้าผากตึงมากเกินไปควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจ
- ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว ช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย
- botoxตีนกา หากฉีดตีนกาบริเวณหางตา จะช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบริเวณตีนกา หากโบท็อกหางตา
จะทำให้ดวงตาดูสดใสมากขึ้น กล้าที่จะยิ้มแย้มอย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องรอยเหี่ยวย่น การโบท็อกตีนกา เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมสูง
- ฉีดริ้วรอยใต้ตา ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา ทำให้ถุงใต้ตาแลดูยุบลง
- ร่องแก้ม ช่วยลดร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- คาง ช่วยลดรอยย่นบริเวณคาง ทำให้คางดูเรียวขึ้น
- จมูก ช่วยปรับรูปจมูก ให้ดูโด่งขึ้น
- ริมฝีปาก ช่วยยกกระชับริมฝีปาก ให้ดูอวบอิ่มขึ้น
นอกจากนี้ botoxริ้วรอยยังมีประโยชน์ และรักษาปัญหาและภาวะกวนใจต่าง ๆ ได้ดังนี้
- รักษาภาวะกรามขบกัน ฉีดโบลดริ้วรอยสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามดูเรียวขึ้น
- รักษาภาวะเหงื่อออกมาก โบท็อกซ์ริ้วรอยสามารถช่วยยับยั้งต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง
- รักษาและลดอาการไมเกรน
- โบท็อกซ์ริ้วรอยเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
การฉีดโบลดริ้วรอยเหมาะกับใคร
โบท็อกซ์ริ้วรอยเป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนบริเวณใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และใช้เวลาพักฟื้นน้อย ดังนั้น ฉีดโบลดริ้วรอยจึงเหมาะกับบุคคลหลากหลายกลุ่ม ดังนี้
- บุคคลที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น เริ่มมีรอยตีนกา ควรฉีดตีนกา หรือรอยระหว่างคิ้ว รอยหน้าผาก ก็สามารถฉีดโบหน้าผากได้
- บุคคลที่มีริ้วรอยลึก โบท็อกซ์สามารถช่วยลดริ้วรอยลึก ให้ดูตื้นขึ้น
- บุคคลที่ต้องการป้องกันริ้วรอย ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ สามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต
- บุคคลที่ต้องการปรับรูปหน้า โบท็อกซ์สามารถใช้ปรับรูปหน้าให้ได้รูป เช่น ยกคิ้ว ปรับรูปจมูก
อย่างไรก็ตามการฉีดโบลดริ้วรอย ไม่เหมาะกับทุกคน ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจซึ่งจะมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ควรฉีดโบลดริ้วรอย คือ
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพราะอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์หรือทารกที่กินนมแม่
- บุคคลที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคภูมิแพ้ โรคเลือด
- บุคคลที่กำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด
- บุคคลที่มีผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่ต้องการฉีด
- บุคคลที่มีความคาดหวังสูงเกินไป เนื่องจากbotoxริ้วรอยไม่ใช่ยาขนานเทพ ไม่สามารถลบรอยรอยได้ทั้งหมด
หลังฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล
ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล หลังจากที่ฉีดโบลดริ้วรอยโดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจน จะปรากฏให้เห็นภายใน 2-4 สัปดาห์ สาเหตุที่ต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะโบท็อกซ์ต้องใช้เวลาในการกระจายตัว และออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ซึ่งควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น โบท็อกลดริ้วรอยใช้กี่ยูนิต บริเวณที่ฉีด วัย สภาพผิว การดูแลหลังฉีด สำหรับบางคน อาจจะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง เช่น กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดตึงขึ้น ภายใน 1-2 วันหลังฉีด
แต่โดยทั่วไปควรสังเกตผลลัพธ์หลังฉีดโบลดริ้วรอยประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ หากหลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว 4 สัปดาห์ผ่านไป ยังไม่เห็นผลลัพธ์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ฉีดโบลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี และได้รับความนิยมสูง
หากสงสัยว่าฉีดโบลดริ้วรอยอันตรายไหม ปัจจัยที่จะปลอดภัยหรืออันตรายต้องขึ้นอยู่กับการเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการฉีดโบลดริ้วรอยแต่ละครั้งด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล งบประมาณ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ อย่างไรก็ตาม โบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพ จะต้องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) มีผลการวิจัยรองรับ และมีผลข้างเคียงน้อย ในประเทศไทยโบท็อกซ์ยี่ห้อที่นิยมใช้ มีดังนี้
- Allergan Botox (โบท็อกอเมริกา) เป็นโบท็อกซ์รุ่นแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA
- Dysport (โบท็อกอังกฤษ) กระจายตัวได้ดี เหมาะกับการฉีดแบบ dermolift
- Nabota (โบท็อกเกาหลี) ออกฤทธิ์ไว เหมาะสำหรับผู้ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน
- Aestox (โบท็อกเกาหลี) บริสุทธิ์สูง 99.5% เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย
- Xeomin (โบท็อกเยอรมัน) ไม่มีสารแต่งสี เหมาะกับผู้ต้องการความเป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจว่าฉีดโบลดริ้วรอยที่ไหนดี ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกซ์ถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะตัดสินใจโบท็อกลดริ้วรอยใช้กี่ยูนิตต่อการรักษาหนึ่งครั้งเพื่อให้แพทย์ทราบประวัติสุขภาพ อธิบายผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และประมาณการค่าใช้จ่ายอีกครั้ง
สรุปเกี่ยวกับฉีดโบลดริ้วรอย
สรุปแล้วจะเห็นว่าในปัจจุบันการฉีดโบลดริ้วรอยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ไม่เจ็บปวด มีตัวเลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง นอกจากนี้ botoxริ้วรอยยังสามารถใช้ปรับรูปหน้าให้ได้รูป เช่น ยกคิ้ว ปรับรูปจมูก และเพิ่มความมั่นใจได้อีกด้วย