ประโยชน์ของโอเมก้า 3 ที่ร่างกายเราขาดไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างๆของร่างกายมากมายมหาศาล
หากเพื่อนๆท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับไขข้อ ความจำที่ไม่ค่อยดี แล้วก็มีปัญหาเกี่ยวโรคตาแห้งลองเพิ่มเมนูอาหารจานปลาที่มีโอเมก้า 3 เข้าไปในเมนู อาการของโรคจะค่อยๆเบาเนื่องมาจากการที่ร่างกายของเรานั้นอาจจะขาด กรดไขมันอิ่มตัวหรือโอเมก้า 3 นั่นเอง
แซลมอน เป็นปลาทะเลที่มีโอเมก้า 3 สูงมากเมื่อเทียบกับปลาประเภทอื่นในปริมาณที่เท่าๆกัน แต่แน่นอนว่าแซลมอนก็เป็นปลาที่มีราคาที่สูงมากเช่นกัน
11 อันดับปลาไทย ที่มีโอเมก้า 3 สูงในปริมาณ 100 กรัมเท่าๆกัน
- ปลาสวาย ให้โอเมก้า 3 : 2,111 มก.
- ปลาทู ให้โอเมก้า 3 : 1,636 มก.
- ปลาช่อน ให้โอเมก้า 3 : 1,052 มก.
- ปลาอินทรีย์ ให้โอเมก้า 3 : 882 มก.
- ปลาน้ำดอกไม้ ให้โอเมก้า 3 : 765 มก.
- ปลาเนื้ออ่อน ให้โอเมก้า 3 : 622 มก.
- ปลาดาบเงิน ให้โอเมก้า 3 : 516 มก.
- ปลากระพงแดง ให้โอเมก้า 3 : 459 มก.
- ปลาจะละเม็ดขาว ให้โอเมก้า 3 : 430 มก.
- ปลากระพงขาว ให้โอเมก้า 3 : 360 มก.
- ปลาดุกอุย ให้โอเมก้า 3 : 258 มก.
โอเมก้า 3 : สารอาหารสำคัญเพื่อสมองหัวใจ และดวงตาที่แข็งแรง โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) เปรียบเสมือนอาหารชั้นเลิศของร่างกาย ทำหน้าที่เสริมสร้างและหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ ไม่ว่าจะเป็นสมอง หัวใจ และดวงตา
โอเมก้า 3 คืออะไร
โอเมก้า 3 คือกรดไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน ( PUFAs ) ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิดได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหารภายนอก
ประโยชน์ของโอเมก้า 3
- บำรุงสมอง : ช่วยเพิ่มความจำ การเรียนรู้ และลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม
- บำรุงสายตา : ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคตาแห้ง และโรคต้อกระจก
- บำรุงหัวใจ : ช่วยลดความดันโลหิต ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดความเสียงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ลดอาการอักเสบ : ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และ โรคหอบหืด
- บำรุงสุขภาพจิต : ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศ้า และโรคไบโพล่ร์
- ควบคุมระดับน้ำตาล : ช่วยลดความเสียงต่อโรคเบาหวาน