หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ข้าวคลุกกะปิ พระกระยาหารทรงโปรดของ ร.5

โพสท์โดย varietyart

“ ข้าวคลุกกะปิ ของเสด็จยาย ”

“ข้าฝันไปว่าเสด็จยายทรงปรุงข้าวคลุกกะปิให้กินอร่อยมาก” พระราชดำรัชร.5ใน “บรรทึกความหิว”

“—ข้าฝันไปว่าเสด็จยายทรงปรุงข้าวคลุกกะปิให้กินอร่อยมาก ทำให้ข้าอยากกินข้าวคลุกกะปิ เจ้าเตรียมกะปิและเครื่องต่างๆ สำหรับปรุงไว้ให้ข้า พรุ่งนี้ข้าตื่นนอนข้าจะคลุกเอง—“

เป็นพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมหาเสวกเอก พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) เล่าไว้ว่า ตรัสกับตนเองขณะประทับอยู่ในเรือเมล์ชื่อ “พะม่า” ซึ่งบริษัทอีสต์เอเชียติกจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง เพื่อเสด็จประพาสเกาะต่างๆ ของอิตาลี เช่น เกาะซิซิลี ปาร์เลอร์โม และเกาะมอลตา คราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 พ.ศ. 2450 ขณะนั้นเรือ “พะม่า” กำลังแล่นอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างการเสด็จกลับอิตาลี เป็นวันที่ 207 นับจากที่เสด็จออกจากประเทศไทย มีพระราชหัตถเลขาในหัวข้อว่า “บรรทึกความหิว"
มูลเหตุที่จะเกิด “บรรทึกความหิว” นี้น่าจะเกิดจากการที่ไม่ได้เสวยพระกระยาหารไทยมานาน แม้อาหารในเรือ “พะม่า” นี้จะจัดว่าค่อนข้างดี แต่ก็เสวยไม่ได้บางอย่าง เช่น ไข่ และทรงเบื่อบางอย่าง เช่น ปลา ทรงบรรยายถึงพระกระยาหารเย็นวันหนึ่งไว้ในพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พระราชธิดา ความว่า

“—ดินเน่อร์ตามธรรมเนียม คือ ซุป ปลา เนื้อ นก ผัก ขนม ผลไม้ ของกินเล่น—การกินดีมีบริบูรณเช่นว่ามานี้ พ่อก็กินไม่ได้มาก ไม่ใช่เพราะเจ็บไข้อันใด แต่เป็นด้วยลำคอฤากระเพาะอาหารไม่บานรับอาหารที่แห้งแข็งแลรสเดียวเช่นนี้ กลืนลงไปก็แคบเสียเฉยๆ ต้องการหวายสักเส้นหนึ่งกระทุ้งเหมือนกรอกปรอทศพ แต่ถ้าข้าวต้มฤาข้าวสวยถูกลำคอเข้าดูมันแย้มโล่งลงไปตลอดถึงกระเพาะอาหาร—“

ด้วยเหตุดังที่ทรงบรรยายนี้ จึงเสวยพระกระยาหารเย็นได้น้อย ดังนั้นเมื่อเข้าบรรทมตื่นขึ้นตอนดึกทรงรู้สึกหิวดังที่ทรงเล่าไว้ว่า “—ไปตื่นขึ้นด้วยความหิว ได้ความว่า 10 ทุ่มครึ่ง นึกว่าจะแก้ได้ตามเคย คือดื่มน้ำลงไปเสียสัก 3 อึก จึงได้ดื่มและนอนสมาธิต่อไปใหม่—“ แต่ปรากฏว่าบรรทมไม่หลับเพราะไม่ทรงหายหิว ทำให้ทรงจินตนาการถึงอาหารต่างๆ ที่เคยเสวยเมื่อประทับอยู่ในประเทศไทย เช่น “—แลเห็นปลากุเราทอดใส่จานมาอยู่ที่ไนยตา ขับไล่กันพอจะจางไป ไข่เค็มมันย่องมาโผล่ขึ้นแทน แล้วคราวนี้เจ้าพวกแห้งๆ ปลากระบอก หอยหลอด น้ำพริก มาเปนแถว เรียกน้ำชามากินเสียครึ่งถ้วย เปิดไฟฟ้าขึ้นอ่านหนังสือ จะให้ลืมพวกผีปลา ผีหอยมาหลอก—“

แต่ก็ไม่ทรงหายหิว จึงตรัสให้หลวงฤทธินายเวรไปหาผลไม้มาให้เสวย ได้แอปเปิ้ลมา 1 ลูก เสวยไปได้ครึ่งลูกแล้วจึงเข้าบรรทม...

หนึ่งในพระกระยาหารทรงโปรดของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๕ และเป็นพระกระยาหารที่ทรงพระสุบินถึงเสด็จยาย

ข้าวคลุกกะปิ มีการกล่าวถึงในบันทึกความหิวของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ในขณะที่พระองค์ประทับในเรือพม่า เมื่อตอนเสด็จกลับจากประพาสยุโรปครั้งที่ ๒พ.ศ.๒๔๔๙ ทรงพระสุบินถึงเสด็จยาย (สมเด็จพระมไหยิกาเธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร) ความว่า......

"เช้าวันหนึ่ง ซึ่งบรรทมตื่นแล้ว มีรับสั่งแก่ข้าพเจ้า (พระยาบุรุษรัตน์ราชพัลลภ) ว่าข้าฝันไปว่าเสด็จยาย ทรงปรุงข้าวคลุกกะปิให้กินอร่อยมาก ทำให้ข้าฯ อยากกินข้าวคลุกกะปิ เจ้าเตรียมกะปิและเครื่องต่าง ๆ สำหรับปรุงไว้ให้ข้า พรุ่งนี้ตื่นนอนข้าจะคลุกเอง

มีข้าวสวย กะปิ น้ำตาล มะนาว พริกป่น เคล้าให้เข้ากัน แล้วโรยหน้าด้วยหมูแฮม เสวยแล้วตรัสว่าอิ่นเพลินสบายดี ยังคลุกให้พระยาบุรุษรัตน์ แล้วตรัสว่า

"เจ้าลองกินซิ อร่อยดี"

พระองค์ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ในเรื่องอาหารเป็นประจำตลอดพระชนมายุของพระองค์ ไม่ใช่เฉพาะเพียงเสวยเท่านั้น แต่พระองค์ทรงปรุงอาหารด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เองอีกด้วย
ข้าวคลุกกะปิ

เครื่องปรุง - กะปิดำเผาไฟ 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งป่นแล้ว ⅓ ถ้วย หมูหวาน (หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ สี่เหลี่ยม) 200 กรัม กระเทียมเจียว (ใช้กระเทียมซอยแล้ว) 2 ช้อนโต๊ะ ปลาดุกย่างทอดฟูทั้งตัว 1 ตัว ไข่กรอก (ม้วนแล้วหั่นฝอย) 1 ฟอง มะดันซอย 3-4 ผล (ให้เปรี้ยวด้วยมะนาวถ้าไม่มีมะดันให้ใช้มะม่วงดิบซอย) พริกเหลืองหั่นฝอย (เอากะปิใส่ถ้วย เติมกระเทียมเจียวและน้ำมันคนรวมกันให้กลิ่นกะปิระเหย

 

วิธีทำ -

1. เจียวกระเทียมให้เหลืองแล้วใส่กะปิ คนไปสักครู่พอกลิ่นกะปิระเหย

2. เติมน้ำมันหมูในหมูหวานลงไปในกะปิคนให้กะปิเข้ากัน

3. เอาน้ำกะปิที่ผสมแล้วคลุกกับข้าวให้เข้ากัน

4. เติมน้ำปลาดีเล็กน้อย แล้วใส่หมูหวานเคล้าให้เข้ากัน

5. ปลาดุกย่างที่ทอดไว้ แกะเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงแล้วคลุกกับข้าว

6. ใส่กุ้งแห้งป่น และมะดัน ชิมรส ถ้าไม่เปรี้ยวใช้มะนาว

7. จัดลงจานให้พูน โรยด้วยไข่ฝอยและพริกเหลือง

โพสท์โดย: varietyart
อ้างอิงจาก: thai food master, cookpad
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
varietyart's profile


โพสท์โดย: varietyart
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: varietyart
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เพจดังเปิดภาพพระสงฆ์ ควงแขนผู้ชาย ชาว เน็ตวิจารณ์ยับน้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่นโบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบ"เหมือนเป๊ะ! แตงโมจัดเต็มโคฟเวอร์ 'เจ๊มิ่ง' แซ่บเวอร์ทุกดีเทล"Baby V.O.X เกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของเกาหลี คัมแบ๊กในรอบ 14 ปี นำโดย 'ยุนอึนเฮ'ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสีย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!อย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลาสั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"ร่วมส่งใจ อาเป็ด เชิญยิ้ม แอดมิตด่วน เจอพิษ “โนโรไวรัส” ยังไม่มียา-วัคซีน ชวนป้องกัน กินสุกลดเสี่ยง ล้างมือบ่อย #ลดเสี่ยงโรค
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?
ตั้งกระทู้ใหม่