เรียนอีก....ก็อ่านหนังสืออีก😊
สวัสดีค่ะทุกคนเปิดผ่านมา...🙏
อายุล่วงเลยมาวัย 30+ ใครจะคิดว่าจะมาเรียนปริญญาเพิ่มอีกใบ...แต่แล้ววันนึงก็ตัดสินใจเรียนปริญญาตรีใบที่3 ...ใช่ค่ะ ตอนนี้พิมเรียนนิติศาสตร์อยู่ เปิดเทอมมาได้เดือนนึงแล้ว และจะสอบกลางภาคในอีกสองเดือนข้างหน้า...
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันต้องอ่านหนังสือ อ่านได้มากได้น้อยแค่ไหนก็ต้องอ่าน ชีวิตจะดราม่ายุ่งเหยิง ตบตีกับใคร หรืองานยุ่งแค่ไหน... ก็ต้องสงบจิตใจและอ่านหนังสือ และวันนี้พิมจะมาแชร์วิธีการอ่านหนังสือ แบบที่พิมใช้มาตลอด ตั้งแต่เรียนวิทยาศาสตร์ แพทยศาสตร์ และตอนนี้นิติศาสตร์ เทคนิคนี้เป็นของพิมคนเดียว ซึ่งคนอื่นอาจจะใช้วิธีพวกนี้ไม่ได้ผลก็ได้😅
1. การวางแผน เปิดปฏิทินค่ะ ฟิกวันที่จะสอบ เอาเนื้อหา เรื่องราวต่างๆที่ต้องใช้สอบ มีกี่เรื่องกี่หัวข้อ มาบรรจุลงไปในแต่ละวัน แนะนำให้แพลนแบบหลวมๆ อย่ากดดันมากจนเกินไป เผื่อใจและเผื่อเวลาด้วย
2. ลงมืออ่านหนังสือ อย่ารอช้าลงมืออ่านค่ะ มีคำพูดของ อ.แพทย์ท่านนึงพูดว่า "คุณจะไปรู้อะไร...ก็คุณไม่อ่านหนังสือ" จึ้กกก!!! เจ็บปวด อ่านค่ะอ่านไปตามแพลนที่เราวางไว้ในข้อ 1
3. เน้นเนื้อหาสักตรงซิ เราจะอ่านไปเรื่อยๆมันก็ทำได้แหละ แต่จะให้ดี ต้องพยายามหา key point นะ จะเน้นตรงไหน อ่านเยอะอ่านแยะมันไม่ได้จำได้หมดรึป่าว ...แล้วจะเน้นตรงไหน? ไม่ยาก ไปหาโจทย์/ ข้อสอบย้อนหลังมาดูควบคู่ไปด้วย ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เราจะรู้ว่าอันไหนสำคัญและเป็นข้อสอบ เน้นตรงนั้น ขีด/ไฮไลต์โล้ดดดด และยังมีอีกวิธีที่จะรู้ว่าตรงไหนสำคัญคือเวลาเข้าคลาส อ. นั่นแหละคนบอกค่ะ
4. สรุปด้วยค่ะ บางคนสรุปเป็น mind mapping บางคนลิสต์หัวข้อ แล้วแต่สะดวกเลย....ที่ทำแบบนี้เราจะได้เห็นองค์รวมของเนื้อหาทั้งหมด อาจจะเอาปากกาสีๆมาเขียนรายละเอียดเล็กๆไว้ก็ได้ แล้วแต่ความขยันนะคะอันนี้
5. วิธีคิด คนที่จะอยากอ่านหนังสือ ต้องเป็นคนที่มีวิธีคิดมาจากตัวเองนะ ไม่ควรต้องใครมาบอกหรือบังคับให้อ่าน ต้องอยากอ่าน อยากทำด้วยตัวเองนะคะ มีความอยากรู้อยากเห็น ความชอบ และความสนุกกับเนื้อหา
6. สุขภาพร่างกายและจิตใจ ...ร่างกายต้องพร้อม จิตใจต้องผ่องใส จะทำให้การอ่านมีประสิทธิภาพมาก ... พักผ่อนให้พอ วิตามินอาหารเสริม น้ำเปล่า น้ำหวาน ขนม ...จิตใจต้องแข็งแรงผ่องใส วางเรื่องทะเลาะตบตี การงานออกไปก่อน (ยากนะ แต่ถ้าทำได้ ดีมาก!!!)
7. สภาพแวดล้อม ห้ามนอนอ่านค่ะ หลับก่อนจบ ...แสงพอเพียงมั้ย โต๊ะที่อ่านปลอดโปร่งโล่งสบายแค่ไหน ส่วนเรื่องเสียงแล้วแต่คน บางคนชอบสงบเงียบ บางคนชอบให้มีเสียง back ground ...ส่วนตัวพิมชอบมีเสียงเพลงบรรเลงเพลงคลาสสิกค่ะ เพราะถ้าเปิดเพลงที่ร้องตามได้ จะไม่ได้อ่านค่ะ จะร้องเพลงแทน😆
ความจริงก็ยังมีทริกอีกมากนะ เช่นเรื่อง วิตามินอะไรที่กินบ้าง อ่านตอนเวลาไหนดี ปากกาอะไรสมุดอะไร เพลงอะไรที่ฟัง ดูแลสุขภาพยังไง ...ซึ่งกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ ก็ผ่านการลองผิด ลองถูก มาหลายอย่าง 7 ข้อข้างต้น คงเป็นแค่การตกตะกอนจากประสบการณ์ของพิมส่วนหนึ่ง ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆน้องๆที่กำลังเรียน หรือพี่ๆแม่ๆที่จะอยากให้ลูกหลานอาจหนังสือหรือตั้งใจเรียนมากขึ้น
ขอให้เป็นวันที่ดีของทุกคนค่ะ😊☺️