แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น
แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น
หนังสือ แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น
เขียนโดย ใบพัด นบน้อม
ปกหนังสือแมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น ตามด้วยข้อความ "บทสนทนาว่าด้วยรอยขีดข่วนของยุคสมัย" เป็นเรื่องสั้น ในหนังสือใช้ตัวละครคนกับแมวพูดคุยกัน เห็นปกหนังสือตอนแรก ขาว-ดำ กับชื่อหนังสือ คิดไปเองว่าเนื้อหาน่าจะชวนเศร้า แล้วทำให้เราเห็นใจใครสักคนประเภทที่ใจบาง มีความสุขง่าย และใจสลายเป็น แต่! นั่นเป็นเพียงสิ่งที่คิด
เมื่อได้อ่านแล้วพบว่าเป็นบทสนทนาที่มีเนื้อหาเข้ากับยุคสมัย สะท้อนประเด็นสังคมเอาไว้อย่างเรียบง่าย อ่านแล้วคลายเครียดได้ค่อนข้างดี เนื่องจากบทสนทนาที่เป็นสำนวนภาษาของคุณใบพัดนั้น ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง อ่านแล้วรู้สึกชวนให้อมยิ้ม และตลกขบขันอยู่เป็นระยะๆ มากกว่าจะเป็นรสของความเศร้า
ชื่อหนังสือแมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น เมื่ออ่านโดยรวมแล้วถ้าให้เดาที่มาของชื่อหนังสือน่าจะเป็นเพราะ เรื่องราวที่เขียนนั้นทำเราแอบยิ้ม แอบขำในความตลกร้ายในช่วงตอนแรกๆ จนจวนจะจบเล่มก็มีเรื่องความสัมพันธ์ที่ต้องพบกับการจากลา ทำให้ใจแทบแตกสลาย แอบเศร้าอยู่ภายใน
ได้สัมผัสถึงความผูกพันที่มีให้กับแมว มีมุมความน่ารัก ความห่วงหาอาทรที่คนมีต่อแมว และแมวมีต่อคน และให้ความรู้สึกว่าแมวในหนังสือเล่มนี้เสมือนมนุษย์คนหนึ่งที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตร่วมสังคมปัจจุบันด้วยกันกับเรา
เชื่อว่าคนที่ได้อ่านเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะมีความสุข สนุก ผ่อนคลายแล้ว ยังได้แง่มุมดีๆ ให้นำไปคิดต่อได้ด้วยค่ะ
มุมมองแนวคิด การดำเนินเรื่องในบทสนทนาเล่มนี้ที่คุณใบพัดได้หยิบยกมา อาทิ
• พูดถึงมาตรฐานความงามมนุษย์ ว่าความสวยนั้นเป็นเรื่องปัจเจก
• พูดถึงความเป็นมนุษย์ทาสทุนนิยม
• ชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าด้วยการเป็นคนกลางๆ
• ชวนให้ตั้งคำถามกับชีวิต ระหว่างความคิดที่ว่า วิ่งไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น อย่าหยุด กับวิ่งช้าลงบ้างก็ได้ อย่าใจร้ายกับตัวเอง ระหว่างนั้นก็เห็นคนอื่นวิ่งแซงหน้า พอวิ่งช้าลงก็เกิดความกลัว แท้จริงแล้วเราเป็นคนที่วิ่งเพราะคนอื่นวิ่ง แต่ไม่รู้เส้นชัยหรือเปล่า ว่าจริงๆแล้วนั้นเราวิ่งเพื่ออะไร
• พูดถึงกับดัก Productivity Trap ทำไมทำตัวว่างแล้วต้องรู้สึกผิด
• สนทนากันถึง Sexual harassment ว่าเป็นเรื่องเปราะบางมากสำหรับบางคน
• นำธรรมะมาเล่าผ่านบทสนทนากับแมวได้อย่างชวนขัน
• ความน่ารักของการเล่านิทานก่อนนอนที่อบอุ่น และสร้างเสียงฮา
• การใช้ชีวิต ชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น มีความสุขในแบบของตนเอง และเคารพความสุขของคนอื่น ไม่ว่ากัน
• แมวไม่ต้องมีวันจันทร์และเฝ้ารอวันศุกร์ ไม่นึกถึงอดีต ไม่กังวลกับอนาคต ปัจจุบันมันจึงเป็นอิสระ แมวไม่ขายความสุขวันนี้เพื่อใช้ในอนาคต อะไรสุขก็ทำ แมวไม่มีการเปรียบเทียบแข่งขัน ใช้ชีวิตค่อยๆไปในแต่ละวัน ไม่เร่งรีบ และมีความสุขกับอะไรง่ายๆ
• ไม่ว่าเราจะเป็นยังไง หรือโลกจะใจร้ายแค่ไหน แมวเป็นเสมือนเพื่อนผู้รับฟัง ไม่ตัดสิน ถ้าพบเพื่อนแบบนี้ก็คงดี
• ถ้าเรารักตัวเองพอ เราจะเข้าใจคนอื่น ว่ามีทั้งวันที่เราน่ารัก และไม่น่ารัก วันที่เราผิดพลาด และควรให้อภัย คนอื่นก็เช่นกัน
• ถึงคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่น อย่าลืมแคร์หัวใจตัวเองด้วย
• คนที่เข้มแข็งจริงๆก็อ่อนแอ และบอบบางเกินกว่าจะมีใครเห็น บางครั้งการแสดงความอ่อนแอ คือการแสดงความเข้มแข็งอย่างหนึ่ง อย่าใจร้ายกับตัวเองเกินไป เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ปลอบประโลมบ้าง
• การเลี้ยงแมว หรือสิ่งมีชีวิตนั้นไม่ง่าย ต้องใส่ใจและมีเวลาให้
• การเป็นวัยรุ่นเป็นเรื่องปกติที่จะหมกมุ่นเรื่องตัวตน วัยนี้ชอบคิดว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองยังไง โตขึ้นจะรู้ว่า ทุกคนต่างมีสงครามส่วนตัวของตัวเองที่ต้องสะสางกันทั้งนั้น
• เมื่อวันที่โดนชีวิตหวดจนพัง อยากให้รู้ว่ายังมีพ่อรออยู่ที่บ้าน บ้านที่ไม่ประเมินเราด้วยสายตาว่าสำเร็จ หรือล้มเหลว แค่กลับบ้าน บ้านของเรา
• เห็นแง่มุมของความเป็นแมวประเภทที่ว่าหวงเนื้อหวงตัว ไม่ค่อยเรียกร้องความสนใจ ไม่ทำทีว่าเราจะชอบอย่างที่แมวตัวอื่นทำกัน แต่นั่นแหละบางครั้งทำให้เราชอบมัน
• พูดถึง Instagramable เปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ "บางคนคบใครเพราะภาพลักษณ์ ไม่ได้มองว่าใครดีต่อใจ ใครเหมาะสมที่จะอยู่ในชีวิต" แต่กลับกลายเป็นว่าใครบ้างจะปรากฏในสเตตัสของตัวเองจะดูดี อวดชาวบ้านได้ไม่อายคนอื่น คนรักจึงมีสถานะเป็นเพียงแบคดรอป หรือไม่ก็พรอพประกอบภาพในอินสตาแกรม
• วิธีฆ่าคนที่ไม่ชอบคือการออกไปใช้ชีวิตดีๆให้พวกเขาเห็น ยิ่งชีวิตดีมากเท่าไหร่ คุณก็เล่นกับอารมณ์ความอิจฉาริษยาของเขาได้มากขึ้นเท่านั้น แต่! วิธีนี้ไม่เวิร์กหรอก เราฆ่าเขาได้ แต่เราจะไม่ชนะตัวเอง เพราะเราไม่ก้าวข้ามเขาไป คนที่ไม่ชอบยังมีอิทธิพลกับใจเราอยู่ เราต้องปล่อยมันไป และ"ใช้ชีวิตตัวเองให้ดีในแบบที่ควรจะเป็น โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ใคร หรืออะไร เรามีความสุขเพราะว่าเรามีความสุข ไม่ได้มีความสุขเพื่อจะอวดหรือฆ่าใครอีกต่อไป วินาทีนั้นเราเป็นอิสระ"
คุณใบพัดเขียนอวยพรทิ้งท้ายไว้หลังเล่มด้วยว่า
"ขอให้ได้เจอคนที่แอปพริเอทในตัวคุณ
คนที่อยู่ด้วยแล้วไม่ต้องพรีเซนต์ตัวตนเยอะๆ
คนที่นั่งเงียบๆ แต่ไม่รู้สึกอึดอัด
ไม่ต้องพยายามทำให้เขาสนุกเพื่อความประทับใจชั่วครู่ แต่กัดกินพลังไปตลอดทั้งวัน
คนที่บอกว่าเหนียงคุณน่ารักดี
คนที่ทำให้คุณรับบทเป็นตัวของตัวเอง ได้เปล่งแสงสว่างอย่างที่คุณเป็น
ขอให้คุณได้เจอความสัมพันธ์ที่เหมือนอยู่บ้าน
บ้านที่รู้สึกอบอุ่น วางใจ ปลอดภัย
จะนั่งจะนอนก็ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องเขียนคิ้ว
เป็นวันที่ได้เปลือยหน้าสด ใบหน้าได้พักจากเครื่องสำอาง
เป็นวันที่ได้สวมเสื้อยืดตัวเก่า
สีซีด ไม่สวย แต่เนื้อผ้านุ่มนิ่มใส่สบาย"
อ่านสนุก ชวนมาอ่านเล่มนี้ด้วยกันค่ะ