นักเปียโน บทที่ 2 เด็กชายผู้น่าสงสาร
บทที่ 2 เด็กชายผู้น่าสงสาร
ครูของเขาชื่อ มิสเตอร์เกรย์ เขาดูอึมครึม หม่นหมอง เหมือนกับชื่อของเขา เขาดูแก่และเหนื่อยตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเขาดูหม่นหมอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, ผม, ใบหน้าผอมยาว เมื่อเขายิ้ม เด็กๆ มักจะเห็นฟันยาวสีเทาของเขา แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยยิ้มหรอก มิสเตอร์เกรย์ไม่ชอบเด็ก เลยทำให้เขาไม่ชอบอาชีพครูไปด้วย
“แล้วเขามาเป็นครูทำไมกันล่ะ ในเมื่อเขาไม่ชอบพวกเรา” เด็กคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“แต่เขาชอบวันหยุดยาวของโรงเรียนต่างหากล่ะ” โทนีพูด เด็กคนอื่นเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ต่างพากันหัวเราะชอบใจ พวกเขาคิดว่า นั่นเป็นคำตอบที่ถูกใจพวกเขามากๆ แต่โทนีเป็นเด็กที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย เขาตัวใหญ่ เชื่องช้า และค่อนข้างเงียบ เขาไม่มีความสุขกับการเรียน ปกติแล้ว เขาจะนั่งที่โต๊ะ และ รอคอยเวลาให้ถึงสี่โมงเย็นอย่างเงียบๆ เพราะนั่นคือเวลาเลิกเรียน
แต่เช้าวันอังคาร เป็นช่วงเวลาที่แตกต่างออกไป เพราะเป็นวันที่เด็กๆ ได้เรียนวิชาดนตรี ทุกๆ เช้าวันอังคาร มิสซิสลาค จะมาสอนที่โรงเรียนเป็นประจำ มิสซิสลาค เล่นเปียโน และ เด็กๆ จะร้องเพลง
เธอไม่ได้เป็นนักเปียโนที่ดีนักหรอก แต่เธอรักเด็กๆ และ เธอก็สนุกกับงานที่เธอทำ เธอสามารถเล่นเพลงได้หลายเพลง ทุกเช้าวันอังคาร นิ้วอ้วนๆ เล็กๆ ของเธอขยับขึ้นลงไล่ไปตามคีย์บอร์ด เหมือนนกบินขึ้นบินลง เด็กๆ ก็ร้องเพลงประสานเสียงเหมือนกับนกเหมือนกัน เมื่อนาฬิกาตี
บอกเวลาเที่ยงวัน มิสซิสลาคก็บอกลา และ ไม่ลืมที่จะล๊อคเปียโนทุกครั้ง
ไม่บ่อยหรอกที่โทนี จะได้ยินเสียงเพลง เพราะครอบครัวของเขายากจน และ คนยากจนส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้ฟังเพลง ไม่ว่าทีวีหรือวิทยุ พวกเขาก็ไม่มี แน่นอน มันมีคอนเสริต์มาแสดงในเมือง แต่คนจนอย่างพวกเขาไม่มีโอกาสได้ไปดู บางครั้งมีนักดนตรีข้างถนนชาวอิตาเลียนมา
เล่นดนตรีให้ฟัง เขามีเปียโนเล็กๆ ที่มีล้อ พร้อมกับลิงผอมๆ นั่งอยู่บนเปียโนนั้น ผู้คนต่างก็ออกจากบ้านมาฟังเพลงที่เขาเล่น และ หลังจากนั้น ลิงก็เดินรอบๆ กระป๋อง
“ขอบริจาคสัก 1 เพนนีครับ” นักดนตรีร้องขอ
น่าเสียดาย กระป๋องก็ยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม นักดนตรีส่ายหัว และ ก็เดินจากไปพร้อมกับเปียโนของเขา
ครอบครัวอีแวนมีลูก 6 คน และ โทนีเป็นพี่คนโต พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กมากๆ ซึ่งตั้งอยู่บนสุดปลายถนน ห้องน้ำอยู่ด้านนอกตรงสนามหญ้า ไม่มีห้องน้ำ ทุกคนอาบน้ำซักผ้ากันในห้องครัว
ในคืนวันเสาร์ทุกคนจะผลัดกันอาบน้ำ ในถังอาบน้ำเก่าๆ ที่ทำจากดีบุก ซึ่งตั้งอยู่หน้าเตาผิง พวกเขาใช้เวลาทั้งคืนกว่าจะอาบน้ำกันครบหมดทุกคน ทุกๆ วันจันทร์ มิสซิสอีแวนจะซักเสื้อผ้าของทุกคนในถังอาบน้ำนั้น แต่เสื้อผ้าของทุกคนก็ดูสะอาด นอกจากนั้นครอบครัวอีแวนก็มีอาหารเพียงพอสำหรับทุกคน โทนีไม่รู้สึกว่าเขายากจน เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ของเขาก็ยากจนเหมือนๆกัน
ในสมัยนั้น โดยปกติเด็กยากจนจะออกจากโรงเรียน เมื่อพวกเขาอายุได้ 13 ปี ส่วนใหญ่เพื่อนๆของโทนีจะรับจ้างทำงานในร้านค้าหรือ
โรงงานในเมือง แต่โทนีไม่ต้องการทำงานแบบนั้น เขาต้องการทำงาน เพราะครอบครัวของเขาต้องการเงิน
หลังจากวันเกิดของโทนีสองสามวัน โทนีก็ออกจากโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขาเริ่มที่จะมองหางานทำ แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเขา ทั้งร้านค้าและโรงงานต่างไม่ต้องการเขา วันหนึ่งแม่ของเขาก็ออกความเห็นว่า “แล้วงานในฟาร์มละ เธอสนใจมั้ย”
บ่ายวันหนึ่งในฤดูร้อน เธอตัดสินใจพาลูกชายไปสมัครทำงานในฟาร์มซึ่งอยู่นอกเมืองออกไป
“แม่เคยทำงานในฟาร์มของ มิสเตอร์วูด สมัยแม่ยังสาว และ แม่ก็ได้พบกับพ่อของลูก หลังจากนั้น เราก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ในเมือง แม่มีความสุขมากที่ได้ทำงานในฟาร์มของมิสเตอร์วูด และ แม่ก็คิดว่า ลูกน่าจะชอบเหมือนกัน แม่ได้เขียนจดหมายไปหามิสเตอร์วูด และ ของานให้ลูกทำที่นั่น ซึ่งแม่ว่า มันดีกว่าทำงานในโรงงานนะ”
ที่มา: oxford bookwarm