แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลหมอวินิจฉัยผิดพลาด สุดท้ายเส้นเลือดในสมองแตกเป็นผู้ป่วยติดเตียง
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 น.ส.ธัญวรินทร์ อายุ 38 ปี เข้าร้องเรียนกับทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจาก น.ส.บุศกร อายุ 57 ปี คุณแม่ของตนป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ แล้วหมอวินิจฉัยโรคผิดพลาดทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียง
กลางปี 2563 พาแม่ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อไปถึง คุณหมอได้ให้แม่ของตนแอดมิตเป็นผู้ป่วยใน มีพยาบาลมาสอบถามอาการและวัดไข้ แม่มีอาการปวดท้องอาเจียนทานอะไรไม่ได้ โรงพยาบาลจึงได้พาแม่ของตนไปสแกนท้อง เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคนิ่วในท้อง วันรุ่งขึ้นทางหมอมาตรวจ แจ้งอาการกับตนว่าไม่น่าจะเป็นอาการของโรคนิ่วในท้อง คาดว่าน่าจะเป็นไข้เลือดออก เลยเจาะเลือดแม่ไปตรวจ
กระทั่งวันที่ 18 มิ.ย. มีอาการปวดหัวรุนแรง พยาบาลบอกว่าเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุ ตอนเย็นแม่ไปเข้าห้องน้ำ ขณะเดินกลับมาที่เตียงคนไข้ได้ล้มหมดสติ จนตกใจจึงได้รีบเรียกหมอกับพยาบาลให้มาดู ซึ่งหมอที่มาดูเป็นหมอเวรไม่ใช่หมอที่รักษาก่อนหน้านี้ หมอคนดังกล่าวถามตนว่าแม่เป็นอะไรทำไมถึงป่วยรุนแรงขนาดนี้ หลังจากนั้นได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หมอได้สแกนสมอง พบว่าเส้นเลือดในสมองซีกซ้ายแตก ทางหมอได้ออกมาถามตนว่าทำไมปล่อยให้แม่เป็นหนักขนาดนี้ถึงพามารักษา ซึ่งตนตอบหมอไปว่าตนไม่รู้ คุณหมอเลยถามพยาบาลที่มาด้วย พยาบาลตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน
หมอได้ถามตนว่าจะผ่าตัดแม่ไหม มีความเสี่ยงสูงถึง 70% ตนเลยอนุญาตให้ผ่าตัด หลังเข้าผ่าตัด หมอว่าแม่เป็นเส้นเลือดสมองแตก วันรุ่งขึ้นจึงได้เดินทางกลับไปที่โรงพยาบาลคู่กรณี สอบถามคุณหมอว่าเป็นเส้นเลือดแตกในสมองทำไมทางโรงพยาบาลวินิจฉัยโรคไม่ถูก
จากนั้นตนจึงได้เดินทางร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ซึ่งทาง สสจ.จังหวัดนนทบุรี ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 เป็นจำนวนเงิน 240,000 บาท โดยมีข้อแม้ว่าทางผู้เสียหายจะต้องเซ็นสัญญาไม่ฟ้องร้อง และไม่ดำเนินคดีต่อ เนื่องจากตนไม่มีเงินมารักษาจึงได้ตกลงรับเงิน
แม่กลับต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนถึงทุกวันนี้ ต้องให้อาหารทางท่ออาหาร ทุกวันนี้ต้องจ้างคนมาดูแลแม่เดือนละ 30,000 บาทไหนจะอุปกรณ์ ในการรักษา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง จึงได้ติดต่อกลับไปที่ผอ.โรงพยาบาลบางใหญ่เพื่อให้เพื่อให้ช่วยเหลือเพิ่มเติม ทาง ผอ.โรงพยาบาล บอกว่าเพิ่งรับตำแหน่งได้ 2 เดือน ยอมรับว่าลูกน้องของตนทำงานบกพร่อง ขอร้องไม่ให้ตนไปฟ้องร้องดำเนินคดีต่อ ฟ้องร้องไปทางโรงพยาบาลก็ไม่มีเงิน