ที่มาของเห็ดที่แพงสุดในโลก
เห็ดทรัฟเฟิล (Truffle) เป็นเห็ดที่มีส่วนดอกอยู่ใต้ดิน มักขึ้นอยู่ใกล้กับรากของต้นโอ๊กและต้นเอล์ม ลักษณะของมันคล้ายกับขิงที่มีหูดและมีผิวตะปุ่มตะป่ำ ด้วยมีกลิ่นหอมละมุนเฉพาะตัว ทำให้คนนิยมนำมาประกอบอาหาร เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติและรสสัมผัสให้ดีมากขึ้น จนได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งเห็ด”
เห็ดทรัฟเฟิลมีประวัติยาวนานกว่า 5,000 ปี โดยชาวสุเมเรียนเป็นชนชาติแรกที่รู้จักเห็ดทรัฟเฟิลและนำมาบริโภค ต่อมาชาวกรีกและโรมันโบราณก็นิยมรับประทานเห็ดทรัฟเฟิลเช่นกัน โดยเชื่อว่าเห็ดทรัฟเฟิลเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและช่วยบำรุงร่างกาย
ในยุคกลาง เห็ดทรัฟเฟิลกลายเป็นอาหารที่มีราคาแพงและหายาก เนื่องจากมีปริมาณน้อยและหายาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น ต่อมาในศตวรรษที่ 16 เห็ดทรัฟเฟิลเริ่มเป็นที่รู้จักในทวีปยุโรปและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เห็ดทรัฟเฟิลมีถิ่นกำเนิดในยุโรปและเอเชีย โดยสามารถพบเห็ดทรัฟเฟิลได้หลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ เห็ดทรัฟเฟิลขาว (Tuber magnatum) และเห็ดทรัฟเฟิลดำ (Tuber melanosporum) ซึ่งพบได้เฉพาะในอิตาลีและฝรั่งเศสเท่านั้น
เห็ดทรัฟเฟิลมีราคาแพงเนื่องจากมีปริมาณน้อยและหายาก เห็ดทรัฟเฟิลขาวมีราคาแพงที่สุดในโลก โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 20,000-50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเห็ดทรัฟเฟิลดำมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000-3,000 ดอลลาร์สหรัฐ
เห็ดทรัฟเฟิลมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เกิดจากการรวมตัวของสารประกอบฟีนอลหลายชนิด กลิ่นหอมของเห็ดทรัฟเฟิลมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับกลิ่นของหัวหอม กระเทียม น้ำผึ้ง โกโก้ ถั่ว กาแฟ และรา
เห็ดทรัฟเฟิลมีรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน มักถูกนำไปใช้ประกอบอาหารฝรั่งเศสและอิตาลี เช่น พาสต้า พิซซ่า ซอส และสตูว์
เห็ดทรัฟเฟิลอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และทองแดง
เห็ดทรัฟเฟิลมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยบำรุงระบบประสาท ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
เห็ดทรัฟเฟิลเป็นเห็ดที่มีราคาแพงและหายาก แต่ก็มีรสชาติและกลิ่นหอมที่โดดเด่น ทำให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณทางยา