ความเมตตา ไม่ต้องผ่านการทดสอบ
วันนี้ผู้เขียนได้ไปอ่านเรื่องเกี่ยวกับช่วงชีวิตในวัยเด็ก ของชีวิตนักแสดงท่านหนึ่งมา ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในชีวิต เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
ผู้เขียนอ่านแล้วก็รู้สึกชอบและอยากเอามาแบ่งปัญให้อ่านกันคะ ผู้เขียนอ่านแล้วมีความรู้สึกว่า " คนเราไม่ว่าจะมีความยากลำบากแค่ไหนในการใช้ชีวิต สำหรับคนคนหนึ่ง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนที่ไม่มีน้ำใจได้ "
" ความเมตตาของคุณ ไม่ต้องผ่านการทดสอบ " เรื่องจริงของเด็กขัดรองเท้า ที่ได้รับความเมตตาจาก ผู้กำกับ ชื่อดัง จนกลายเป็นดาราดังในที่สุด
ผู้กำกับชาวบราซิลชื่อดัง Walter Salles เป็นผู้มอบชีวิตใหม่แก่ Viniclus de Oliveira ดาราดังชาวบราซิล
ตอนนี้น ผู้กำกับชาวบราซิลชื่อดัง เขากำลังค้นหาตัวนักแสดงที่เหมาะสมสำหรับภาพนตร์เรื่องใหม่ของเขา มีผู้เข้ามาให้คัดตัวมากมาย แต่ก็ยังไม่ถูกใจ ผู้กำกับคนนนี้
วันหนึ่งระหว่างออกไปทำธุระผ่านสถานีรถไฟ มีเด็กผู้ชายวิ่งมาถามเขาว่า " ขัดรองเท้าไหมครับ ท่าน" เขามองดูรองเท้าตัวเอง ซึ่งก็เพิ่งขัดมาไม่นาน จึงตอบปฏิเสธไป
แต่เด็กน้อยก็เดินตามเขาไป พร้อมพูดกับเขาด้วยแววตาวิงวอนว่า " วันนี้ทั้งวันยังไม่มีเม็ดข้าวตกถึงท้องเลย อยากขอยืมเงินไปซื้อข้าวกินหน่อย ผมสัญญาว่าจะจ่ายเงินคืนให้ภายในหนึ่งอาทิตย์ครับ "
เขาเห็นว่ามันเป็นเงินเล็กน้อย และเหตุการณ์เด็กเร่ร่อนมาขอเงินก็เกิดขึ้นบ่อยๆ เขาจึงควักเงินให้เด็กน้อยไป
เวลาผ่านไปครึ่งเดือน เขาลืมเรื่องที่ให้เงินเด็กน้อยไปจนหมดสิ้นแล้ว ในวันหนึ่งเขาก็ได้ผ่านมาใช้สถานีรถไฟนั้นอีกครั้ง มีเด็กคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาแต่ไกลพร้อมกับตะโกนว่า " คุณครับ รอแป๊ปนึง " เมื่อเด็กน้อยวิ่งเข้ามาใกล้แล้ว เขาจึงจำหน้าเด็กที่เคยมาขอเงินคนนั้นได้
เด็กน้อยพูดอย่างกระหืดกระหอบว่า " คุณครับ ผมมารอคุณตั้งหลายวันแล้ว ขอบคุณที่ให้เงินผมยืมครับ " พร้อมกับยื่นเงินเหรียญหลายเหรียญคืนใส่มือของเขา เขามองดูเหรียญในมือ บังเกิดความรู้สึกดีๆ กับเด็กน้อยคนนี้
ผู้กำกับก้มมองดูหน้าเด็กน้อยอย่างพินิจพิเคราะห์ เกิดความรู้สึกว่า เด็กคนนี้ ช่างหมาะกับบุคลิก " เด็กน้อย " ในภาพยนตร์ของตนที่กำลังค้นหานักแสดงอยู่ เขาพูดกับเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มว่า " พรุ่งนี้หนูลองมาทดสอบหน้ากล้องที่บริษัทหน่อย อาจทำให้หนูมีโอกาสได้ดีใจครั้งใหญ่ในชีวิต "
รุ่งขึ้นตอนเช้า พนักงานขึ้นมารายงานกับ ผู้กำกับ ว่ามีเด็กกลุ่มใหญ่มารออยู่หน้าประตูบริษัท เขาออกไปดูเหตุการณ์ก็พบ เด็กน้อยวิ่งมาหาเขาด้วยความตื่นเต้นพร้อมพูดกับเขาว่า
" คุณครับ เด็กเหล่านี้ก็เป็นเด็กเร่ร่อนเหมือนผมที่ไม่มี พ่อ-แม่ ผมอยากให้พวกเขามีโอกาสได้ดีใจแบบเดียวกับผมบ้าง เลยชวนมาทั้งหมด ผมอยากขอโอกาสให้พวกเขาทุกคนด้วยครับ " ผู้กำกับรู้สึกตื้นตันในน้ำใจของเด็กคนนี้
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะได้เจอเด็กเร่ร่อน ที่มีจิตใจเมตตาปราณีได้ดีงามถึงเพียงนี้ ในเมื่อพวกเขาก็มาพร้อมกันอยู่ที่นี่แล้ว เขาจึงสั่งให้ลูกน้องจัดการทดสอบหน้ากล้อง พร้อมทดสอบการแสดงออกของเด็กทั้งกลุ่ม ในที่สุด เด็กหลายๆคนได้ถูกรับคัดเลือกออกมา พวกเขาดูมีความพร้อมและเหมาะสมกว่าเด็กน้อยคนนั้นของผู้กำกับเสียอีก
แต่สุดท้าย ผู้กำกับก็ตัดสินใจเลือกเด็กน้อยคนเดิมไว้ เขาบรรจงเขียนข้อคิดเห็นบนข้อมูลเด็กน้อยคนนั้นว่า " ความเมตตา ไม่ต้องผ่านการทดสอบ "
เด็กน้อยที่มีอายุแค่ประมาณสิบขวบ แม้ชีวิตจะอยู่ในภาวะขัดสน แต่กลับยอมนำเอาโอกาสดีๆ ของตนมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ นี่ช่างเป็นความเมตตาที่งดงามและยิ่งใหญ่จากมนุษย์ตัวน้อยๆคนนี้
เขาแน่ใจว่า เด็กน้อยคนนี้แค่ใช้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแสดงออกมา แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับบทบาท " เด็กน้อย " ในภาพยนตร์ของเขาโดยไม่ต้องมีการปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น และเด็กน้อยก็สามารถตีบทแตกอย่างสุดยอด เป็นบทบาทที่น่าประทับใจที่สุด
จากบทบาทในภาพยนตร์ที่เขาได้แสดงส่งผลให้ Viniclus de Oliveira กลายเป็นดาราดัง เพียงชั่วข้ามคืน และตัวภาพยนตร์ก็สามารถรางวัลไปได้กว่า 36 รางวัล พร้อมกับพลิกชีวิตของเด็กขัดรองเท้าคนหนึ่ง
มีแต่เสียงชื่นชมจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์ เด็กน้อยกลายเป็นนักแสดงที่ดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน และสามารถกลายเป็นนักแสดงยอดนิยมของประเทศบราซิลอยู่ยาวนาน
หลายๆ ปีผ่านไป เด็กน้อยที่บัดนี้โตเป็นผู้ใหญ่ ได้กลายเป็นนักแสดงระดับแนวหน้า และยังเป็นประธานบริษัทในวงการภาพยนตร์ เขาผู้นั้นคือ Viniclus de Oliveira
Viniclus de Oliveira ดาราดังชาวบราซิลผู้ถ่ายทอดชีวิตตนเองเองเอ่ยยกย่องและนึกถึงพระคุณของผู้กำกับ walter Salies
" ชีวิตการแสดงของข้าพเจ้า " คือหนังสือที่นักแสดงผู้นี้แต่งขึ้นมาเพื่อบันทึกชีวประวัติส่วนตัวของเขา เขาขอให้ ผู้กำกับ ที่มีพระคุณที่สุดในชีวิตของเขา เป็นคนให้เกียรติ เขียนคำนำสำหรับหนังสือเล่มนี้ของเขา
ผู้กำกับ Walter Salles บรรจงเขียนข้อความจากใจว่า " ความเมตตาของคุณ ไม่ต้องผ่านการทดสอบ
ความเมตตา ทำให้คุณพยายามยื่นโอกาสดีๆในชีวิตแบ่งปันให้กับคนอื่น
และก็คือความเมตตาของคุณเช่นเดียวกัน ที่ทำให้คุณได้รับโอกาสดีๆ มากมายไปเป็นรางวัลชีวิต "
Viniclus de Oliveira เขายังคงความเมตตาเหมือนสมัยเป็นเด็กน้อยไว้ไม่ขาดหาย และมีความเจริญรุ่งโรจน์ในเส้นทางชีวิตอย่างน่าชื่นใจ
คนที่มีใจเมตตาปราณี
ชะตาชีวิตมักจะไม่เลวร้าย
อาจจะตกต่ำไปบ้างในบางจังหวะชีวิต
แต่สุดท้ายโอกาสดีๆ ก็จะเข้ามาให้ได้ ประสบพบเจอในเส้นทางของชีวิตอย่างแน่นอน
LOMA🐬🐬