"จอกหูหนูยักษ์" เอเลี่ยนสปีชีส์!! ที่ยังมีขายกันเต็มโลกโซเชียล
จอกหูหนูยักษ์ เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว รูปไข่หรือรูปหัวใจ ขอบใบหยัก สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว ลอยอยู่บนผิวน้ำ มีระบบรากที่แข็งแรง ขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและแบบไม่อาศัยเพศ
จอกหูหนูยักษ์เป็นวัชพืชน้ำที่รุกรานชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ในสภาพที่เหมาะสม สามารถเพิ่มปริมาณได้ 2 เท่า ภายในเวลา 2-4 วัน เพิ่มมวลได้ 2 เท่า ภายในเวลา 7-10 วัน หรือจากหนึ่งต้นจะเจริญเติบโตปกคลุมพื้นที่ 64.750 ไร่ ในเวลาเพียง 3 เดือน ได้น้ำหนักสดถึง 64 ไร่
จอกหูหนูยักษ์ก่อให้เกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ดังนี้
-
ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขินและเน่าเสีย จอกที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำจะบดบังแสงแดดส่องถึงพื้นน้ำ ทำให้พืชน้ำที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง สัตว์น้ำขาดออกซิเจนและตายลง ประกอบกับการย่อยสลายของจอกหูหนูยักษ์ที่ตายทับถมลงสู่ท้องน้ำ จะทำให้แหล่งน้ำเกิดการตื้นเขินและเน่าเสีย
-
ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ จอกที่หนาแน่นจะบดบังแสงแดดส่องถึงพื้นน้ำ ทำให้พืชน้ำที่อยู่ด้านล่างขาดแสงแดสสำหรับเจริญเติบโต ส่งผลให้ความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำลดลง
-
ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางน้ำ จอกที่หนาแน่นจะบดบังทัศนวิสัย ทำให้ยากต่อการสัญจรทางน้ำ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น การขนส่ง การประมง การพักผ่อนหย่อนใจ
-
เป็นอุปสรรคต่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จอกที่หนาแน่นจะบดบังทัศนวิสัย ทำให้ยากต่อการมองเห็นและประเมินสถานการณ์ ส่งผลกระทบต่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เช่น การป้องกันและบรรเทาอุทกภัย การป้องกันและบรรเทาอัคคีภัย
สำหรับในประเทศไทย จอกหูหนูยักษ์ถูกจัดเป็นศัตรูพืชกักกัน ห้ามนำเข้ามาในประเทศ หากพบเห็นการระบาดของจอกหูหนูยักษ์ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กรมวิชาการเกษตร
วิธีการกำจัดจอกหูหนูยักษ์ มีดังนี้
- การกำจัดด้วยวิธีทางกายภาพ เช่น การถอน การตัด การใช้เครื่องจักรกล
- การกำจัดด้วยวิธีทางเคมี เช่น การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช
- การกำจัดด้วยวิธีชีวภาพ เช่น การใช้แมลงศัตรูธรรมชาติ
การกำจัดจอกหูหนูยักษ์จำเป็นต้องใช้วิธีการที่หลากหลายและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ