หลานสะใภ้อดีตรองนายกฯ ตุ๋นลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม สูญกว่า 100 ล้านบาท
10 ม.ค. เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน มาที่ศูนย์รับแจ้งความ หลังถูกสาวโปรไฟล์ดี หลานสะใภ้ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี โกงเงินลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 100 ล้านบาท
นางสาวจิตฐิติกาญจน์ ถิรเดชาภาพ และนางสาวชาริณี อยู่ไสว 2 ผู้เสียหายขอเปิดหน้าสู้ ผู้ก่อเหตุมีหน้าที่การงานที่ดี เป็นถึงลูกสะใภ้ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี
- ผู้ก่อเหตุมาชวนลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมและขอให้ผู้เสียหายร่วมกันลงเงินไปซื้อ เพื่อเอาไปขายต่อแล้วเอาเงินที่ได้มาแบ่งกำไรกัน
- ช่วงแรกก็เริ่มลงทุนกับกระเป๋าที่ราคาไม่สูงมาก จนกระทั่งช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 เริ่มมีปัญหากับการลงทุนซื้อขายกระเป๋าที่มีราคาสูง จากนั้นก็เริ่มมีปัญหาจ่ายเงินไม่ครบ จ่ายล่าช้า แถมยังขอให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- มีผู้เสียหายอีกถึง 30-40 ราย ซึ่งความเสียหายทั้งหมดน่าจะเกือบ 100 ล้านบาทแล้ว
- เคยบุกไปตามถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเอาแต่ร้องไห้และบอกว่าเป็นความผิดพลาดทางธุรกิจ แต่เมื่อสืบค้นความจริงกลับกลายเป็นว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ในกลุ่มลงทุนแชร์ทองหลายกลุ่ม และยังเคยถูกดำเนินคดีเพราะเป็นเท้าแชร์แล้วล้มแชร์ เมื่อ 5-6 ปีก่อน
- สามีปฏิเสธความเกี่ยวข้องทั้งหมดและบอกว่าไม่รู้เรื่อง แถมเจ้าตัวก็ยังโดนหลอกลงทุนไปกว่า 6 ล้านบาทเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ได้หย่ากับผู้ก่อเหตุแล้วเรียบร้อย
ทางโรงพยาบาลบีบให้ผู้ก่อเหตุลาออกไปแล้ว เนื่องจากมีบุคลากรทางการแพทย์หลาย 10 คน ที่ถูกหลอก เคยรวมตัวกันมาร้องทุกข์ที่กองปราบตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย
หลังจากที่ตนรู้ตัวว่าโดนหลอกก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอคิดเงินค่าทำคดีจากผู้เสียหายคนละ 10,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายไม่ได้มีใครจ่ายเงินไป หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนมองว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเงินจากผู้เสียหายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และส่วนตัวตนเชื่อว่า ผู้เสียหายยังมีมากกว่านี้ จึงอยากให้มารวมตัวกันแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ