ลูกหนี้ตามจ่ายเงินค่าซื้อสิบล้อ พอจะจ่ายครบ เจ้าหนี้หนี
นายวิชัย จักรกระโทก ซื้อรถยนต์สิบล้อจากนางสุพิศ เจ้าของรถในราคา 600,000 บาท โดยวางเงินดาวน์ 300,000 บาท เหลือเงินอีก 300,000 บาท ผ่อนชำระเป็นรายปีๆ ละ 100,000 บาท ครบกำหนดชำระเดือนเมษายน 2567
นายวิชัย ผ่อนชำระงวดแรกในเดือนเมษายน 2565 จำนวน 100,000 บาท ส่วนงวดที่สองเดือนเมษายน 2566 เลื่อนชำระไปเป็นเดือนกรกฎาคม 2566 จำนวน 100,000 บาท
เมื่อจะไปชำระงวดที่สองในเดือนกรกฎาคม 2566 นางสุพิศ ปฏิเสธการรับเงิน และปิดสายทุกครั้งที่นายวิชัยโทรหา
ต่อมา มีทนายความโทรมาหานายวิชัย แจ้งว่านางสุพิศยกเลิกสัญญาซื้อขายรถยนต์ เนื่องจากนายวิชัยผิดสัญญา โดยนายวิชัยอ้างว่ายังไม่สิ้นปี เนื่องจากสัญญาผ่อนชำระเป็นรายปี และเสนอที่จะตัดยอดที่ค้าง 200,000 บาท แต่ทนายความแจ้งว่าต้องจ่ายเพิ่มอีก 80,000 บาท เป็น 280,000 บาท หากไม่ทำตามจะยึดรถคืน
นายวิชัย เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าต้องการชำระหนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าหนี้ได้
ความคิดเห็น
นางสุพิศและทนายความมีท่าทีที่ค่อนข้างแข็งกร้าว ไม่ยอมเจรจากับนายวิชัย และเรียกร้องเงินเพิ่มโดยไม่มีข้ออ้างที่ชัดเจน การกระทำดังกล่าวอาจทำให้นายวิชัยเสียเปรียบและเสียโอกาสในการชำระหนี้ตามสัญญา
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีข้อเท็จจริงอีกหลายประการที่ยังไม่ทราบ เช่น สาเหตุที่นางสุพิศปฏิเสธการรับเงินจากนายวิชัย แท้จริงแล้วนางสุพิศต้องการยกเลิกสัญญาจริงหรือไม่ หากต้องการยกเลิกสัญญาจริง นางสุพิศมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาหรือไม่