มาช็อปปิ้งลดภาษีกันเถอะ
การลดหย่อนภาษีในช่วงต้นปี 67 เริ่มวันแรกเลยคือวันนี้ วันที่ 1 มกราคม 2567 ลากยาวไปจนถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยรัฐบาลจัดมาตรการ Easy E-Receipt เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีที่ให้สิทธิ์ประชาชนผู้เสียภาษีทุกคน สามารถนำค่าใช้จ่าย ค่าซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศตลอด 45 วันมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทในปีภาษี 2567 ยื่นรายการในปี 2568 ซึ่งกำหนดการยื่นแบบจะอยู่ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 31 มีนาคม 2568
ถ้าดูในรายละเอียด Easy E-Receipt แทบจะเหมือนกับมาตรการช็อปปิ้งลดหย่อนภาษีที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วอย่างช็อปดีมีคืน แต่สิ่งที่จะแตกต่างไปคือวงเงินการซื้อสินค้าเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้น แต่จะลดหย่อนภาษีได้ต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (กรณีจด VAT) หรือ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (กรณีไม่จด VAT) ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น ไม่สามารถใช้ใบเสร็จ ใบกำกับภาษีที่เป็นแบบกระดาษในการลดหย่อนภาษีตามมาตรการEasy E-Receiptได้
จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากมาตรการEasy E-Receiptต้องทำยังไงค่าใช้จ่ายอะไรเอาไปลดหย่อนได้-ไม่ได้ ซื้ออะไรบ้างถึงจะได้ลดหย่อนภาษี มาดูกัน
1.ค่าสินค้าและบริการที่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ จะต้องเป็นสินค้าและบริการที่ซื้อจากร้านค้าของผู้ประกอบการ ที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษี vat ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน
2.การซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสารทั้งรูปแบบเล่มกระดาษหรือว่า e-book ก็ได้
3.การซื้อสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีตามมาตรการดังกล่าวได้
การใช้สิทธิ์สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทโดยให้สังเกตสัญลักษณ์ที่ร้านค้า ถ้ามีสัญลักษณ์ Easy E-Receipt หรือ E-TAX INVOICE & RECEIPT ก็สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้
สินค้าอะไรบ้างที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีตามมาตรการนี้ได้
- การซื้อเหล้า เบียร์ ไวน์ ยาสูบ
- การซื้อรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์
- การซื้อทองคำแท่ง
- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ต
- ค่าบริการระยะยาวที่เริ่มต้นก่อนหรือสิ้นสุดหลังมาตรการ Easy E-Receipt
- ค่าเบี้ยประกัน
- ค่ารักษาพยาบาล
ข้อสำคัญที่ต้องย้ำและเช็คให้ดี คือบนใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จ ต้องระบุเลขประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย ดังนั้นเมื่อออกใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จแล้ว เช็คให้ดีก่อนออกจากจุดบริการลูกค้าหรือว่าจุดออกใบเสร็จ ถ้าเจอข้อผิดพลาดจะได้แก้ไขทันและไม่เสียสิทธิ์ลดหย่อน