มิจฉาชีพ? สาวท้องกินข้าวกับน้ำตาล แท้จริงกินหรูอยู่สบาย ผัวไม่ได้ทิ้ง
กรณีจิตอาสาหนุ่มช่วยเหลือสาวท้องใกล้คลอด สุดท้ายคดีพลิกชาวบ้านแฉผัวไม่ได้ทิ้ง กินหรูอยู่สบาย โอดเสียความรู้สึก ชี้พฤติกรรมแบบนี้ เข้าข่ายมิจฉาชีพ
นายจักรกฤษณ์ แต่งตั้ง หรือ ปอน ผอ.สมาคมสายธารสะพานบุญ และมีโครงการส่งผู้เสียชีวิตฟรีทั่วประเทศไทย เปิดเผยว่า ในตอนแรกตนเองได้รับการติดต่อจาก น.ส.แก้ว ว่าอยากได้ความช่วยเหลือ เป็นเสื้อผ้า ของใช้ของเด็กแรกเกิด แต่ตนเองก็ได้บอกว่าตนเองไม่ได้ช่วยเหลือเคสแบบนี้ ตนเองทำโครงการส่งผู้เสียชีวิตฟรีทั่วประเทศไทย แต่ น.ส.แก้ว ก็พยายามสาธยายชีวิตสุดรันทดของตัวเองว่าต้องกัดฟันสู้ชีวิตใช้เงิน 4,500 บาท กินข้าวกับน้ำตาล หรือนมข้นประทังชีวิต
ได้นำเงินไปมอบให้ น.ส.แก้ว 20,000 บาท และดูแลในส่วนของลูกของ น.ส.แก้ว โดยให้เป็นเงินเดือนละ 5,000 บาท 5 เดือน เพื่อให้เขาประคองชีวิตไปได้
แต่ขณะเดียวกันชาวบ้านที่อาศัยในละแวกนั้น ก็ติดต่อมาหาหลายคนว่าเรื่องราวจริงๆ ไม่ใช่ตามที่ น.ส.แก้วเล่า อย่างเรื่องแฟนที่ น.ส.แก้วเล่าว่าถูกแฟนทิ้งไป 5 เดือน นั้นไม่จริง ที่จริงแล้วทั้งคู่อยู่ด้วยกัน แถมทะเลาะกันเสียงดังแทบทุกวัน จนข้างห้องนอนไม่ได้ ส่วนเรื่องเงิน 4,500 บาท ก็ไม่เป็นความจริง เพราะทั้งคู่ก็มีเงินกินใช้เข้าร้านสะดวกซื้อได้
นายจักรกฤษณ์ ได้โทรไปถามความจริงกับ น.ส.แก้ว ว่า “แก้วมีอะไรจะบอกพี่มั้ย” ถามหลายครั้ง แต่ น.ส.แก้วก็ไม่ยอมพูดความจริง ตนเองเลยพูดออกไปว่า “แก้ว เอ็งไม่คิดว่าพี่มีสายอยู่แถวนั้นบ้างหรอ” จากนั้น น.ส.แก้วก็เริ่มคลายออกมาทีละเรื่องๆ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับสารภาพได้ทั้งหมด
หลังจากนั้น นายจักรกฤษณ์ ก็ตัดการติดต่อ และการให้ความช่วยเหลือ น.ส.แก้ว แล้ว
นายจักรกฤษณ์ เผยว่า หลังจากนี้ตนเองคงจะเกิดความแขยง เพราะตนเองคิดด้วยซ้ำว่าตนเองจะรับลูก น.ส.แก้ว มาเป็นลูกบุญธรรม ตนเองจะส่งให้เรียนเอง
จากกรณีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่อาศัยความมีน้ำใจของผู้อื่นไปหลอกลวงเอาเปรียบ