7 ภูเขาไฟที่ดับแล้วในประเทศไทย
ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตวงแหวนแห่งไฟ ซึ่งเป็นเขตที่มีภูเขาไฟหนาแน่นและปะทุอยู่ตลอดเวลา แต่จะว่าไปแล้ว ในไทยเราก็มีภูเขาไฟอยู่หลายแห่ง วันนี้เราจะนำทุกท่านมาพบกับภูเขาไฟทั้ง 7 แห่งในประเทศไทย ถ้าพร้อมแล้วมารับชมกันได้เลย
1. ภูเขาไฟหินพนมรุ้ง สถานที่เขาพนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
ภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่ที่ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นภูเขาไฟหินบะซอลต์แบบกรวยลาวา จุดสูงสุดอยู่ที่ 386 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และสูงจากที่ราบโดยรอบประมาณ 180 เมตร ปากปล่องอยู่ที่ศูนย์กลางเนินภูเขาไฟ กว้างราว 300 เมตร รูปร่างคล้ายชามและมีความลึกจากขอบปล่องประมาณ 70 เมตร บนเขายังประกอบไปด้วยอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง คาดว่าภูเขาไฟลูกนี้ดับมาแล้ว 1.2ล้านปี
2. ภูเขาไฟหินหลุบ และภูเขาไฟคอก จ.บุรีรัมย์
“ภูเขาไฟหลุบ” อยู่ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ “ภูเขาไฟเขาคอก” ตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย ภูเขาไฟทั้งสองแห่งนี้ เเม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านธรณีวิทยาในเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไฟของไทยได้เป็นอย่างดี
“ภูเขาไฟหินหลุบ” อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ มีร่องรอยปากปล่องปฝเป็นรูปโค้งยาว ขนาดกว้าง 2 ก.ม. ยาว 4 ก.ม. ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 6 ตารางกิโลเมตร ยอดสูงราว 235 เมตรจากระดับน้ำทะเล
“ภูเขาไฟคอก” อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากเพราะสภาพไม่ชัดเจน แต่มีความสำคัญเพราะเป็นต้นกำเนิดห้วยเสวและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยา
3. ภูเขาไฟอังคาร สถานที่ภูพระอังคาร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
ตั้งอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ใกล้ภูเขาไฟพนมรุ้ง เป็นเนินเขาแผ่กว้างประมาณ 12 ก.ม. ยาว 15 ก.ม. ยอดเขาสูง 15 เมตร เนินเขาที่สูงที่สุดเรียกว่าเขาป่าช้า ยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระอังคาร ศาสนสถานสวยงามและแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ
4. ภูเขาไฟกระโดง เขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว มีปากปล่องทะลุเห็นได้ชัดเจน รอบบริเวณแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็ก โดยเฉพาะนกนานาชนิด บนเขากระโดงยังมีโบราณสถานสมัยขอม รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะของคนในท้องถิ่น
5. ภูเขาไฟไบรบัด จ.บุรีรัมย์
เนินภูเขาไฟเกิดจากการทับถมของเศษหินภูเขาไฟ(Pyroclastic Materials) เศษหินภูเขาไฟเหล่านี้เป็นมวลหินหลอมละลายที่ถูกดันประทุขึ้นไปและเย็นแข็งตัวในอากาศ มีขนาดต่าง ๆ กัน และมีชื่อเฉพาะเรียกแตกต่างกัน
6. ภูเขาไฟดอยผาดอกจำปาแดด จ.ลำปาก
ภูเขาไฟจำปาแดดเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทไม่มีการระเบิดอีกแล้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 630 เมตร ปากปล่องด้านเหนือกว้าง 150 เมตร มีต้นไม้ยืนต้นหลายชนิด ไม่มีทางรถขึ้นหลักฐานที่เป็นข้อมูลยืนยันว่าสถานที่นี้เป็นซากภูเขาไฟ ได้มาจากข้อมูลที่ ดร.เปียร์ ซอเรนซน ผู้อำนวยการสถาบันสแกนดิเนเวียได้ทำการค้นคว้าร่องรอยก่อนประวัติศาสตร์ไว้
7. ภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู จ.ลำปาง
ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกผาฟู ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน โดยอยู่คนละฝั่งถนน ชื่อของภูเขาไฟทั้งสองได้มาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น เป็นคำง่ายๆ ที่มีความหมายสอดคล้องกับลักษณะของปล่องภูเขาไฟภู เขาไฟทั้งสองลูกนี้สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลจากเส้นทางสายลำปาง-เด่นชัย ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 14 ที่กลางสะพานข้ามทางรถไฟ โดยให้มองไปทางเหมืองแม่เมาะจะเห็นภูเขายาวต่อเนื่องกันตั้งตระหง่านขวางหน้า ให้สังเกตภูเขาลูกเล็กยอดแหลม ซึ่งโดดเด่นกว่าบริเวณข้างเคียงตรงกลางเทือก จุดนี้เป็นจุดแบ่งระหว่างภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดที่อยู่ทางซ้ายและภูเขาไฟดอยคอกผาหินฟู ที่อยู่ทางขวา มีระยะห่างกันในแนวเหนือใต้ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร