มนตราเพลิงพ่าย ตอนที่ 31
"ผมแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นเจ้าของคุณคนเดียวเท่านั้นเพตา"
"ยังไงฉันก็ไม่แต่งงานกับคุณเป็นอันขาด ไม่มีวัน"
"ถ้าคุณไม่แต่งงานกับผม ผมจะเอาคลิปที่คุณมีอะไรกับใครต่อใครไปประจานให้ทั่วเลย" วิทยาหยิบมือถือมาให้ดู
"ไอ้บ้า ไอ้วิทยาบ้านายจะเอายังไงกันแน่" เพตาร้องวี้ดใหญ่ และจำต้องพ่ายแพ้แก่วิทยา
"ก็ได้ฉันจะแต่งงานกับนาย แต่นายต้องลบคลิปพวกนั้นออกไปให้หมดนะ"
"งั้นไปเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่คอนโดเอง"
"ไม่ต้องฉันขับรถมาเอง นายกลับไปได้แล้ว" เพตาไล่วิทยาให้กลับไป
วิทยาส่งจูบให้กับเพตาแล้วขับรถกลับไป เพตาคิดหาทางออกให้ตัวเอง เพราะไม่อยากแต่งงานกับวิทยา
อีกด้านชลทิศพาฝันกลับบ้านและได้หาทางบอกรักฝัน แต่ไม่สำเร็จนมอุ่นมาเห็นเสียก่อนจึงเดินไปส่งประตูหน้าห้อง แล้วเข้าห้องไปทันที ฝันได้รับโทรศัพท์จากพี่จีจี้ให้กลับมาญีปุ่นด่วนชั่วคราวเพราะมีงานละครให้เล่นเป็นละครพีเรียตโบราณ แล้วเป็นละครฟอร์มยักษ์ ฝันจึงต้องบอกโกหกทุกคนว่างานที่ญีปุ่นติดต่อมาให้ไปช่วยทำงานให้
"แล้วหนูฝันจะไปเมื่อไรจ้ะ" คุณหญิงกอแก้วถาม
"คงราวๆ อาทิตย์หน้านะคะ" ฝันบอกทุกคนให้ได้รู้
"งั้นงานแต่งงานเลื่อนไปเป็นปีหน้าจะได้ไหมคะ" ฝันขอร้องทุกคน
"น่าจะได้นะเพราะตอนนี้ก็เหลืออีกตั้งหลายเดือนอยู่ ดีเหมือนกันหนูฝันจะได้ไปเที่ยวก่อนแต่งงานกัน"
"ผมไปด้วยได้ไหมครับ" ชลทิศรีบเสนอ
"ไม่ได้นะคะฝันไปทำงานไม่ได้ไปเล่นๆ "
"พ่อว่าชลอย่าไปเลยดีกว่า ปล่อยให้ฝันไปทำงานอย่างสบายใจเถอะ" ชเยนต์ช่วยพูดให้
"ก็ได้ครับ แต่โอกาสหน้าผมจะไปด้วยแน่นอนครับ" ชลทิศยิ้มทันที ฝันกับชเยนต์โล่งอกขึ้นมาทันที ที่จริงทั้งคู่กลัวความแตกแทบแย่
ฝันมาสนามบินสุวรรณภูมิและมีครอบครัวชลทิศมาส่งกัน ชลทิศแอบมองฝันอย่างไม่อยากให้ไปแต่ห้ามไม่ได้ ฝันต้องไปทำงานแต่ไม่นานฝันจะกลับมาตนจะเป็นฝ่ายรอฝันเอง
หลังจากที่มาส่งฝันเสร็จแล้วทุกคนต่างคนก็ต่างคิดถึงฝันทั้งบ้าน ชลทิศก็เช่นเดียวกันแต่ไม่มีใครรู้ ความในใจของชลทิศได้ดีเท่าชเยนต์อีกแล้ว
ฝันนั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินโตเกียวและเห็นพี่จีจี้รอตนอยู่
"พี่จีจี้รอนานไหมเอย....." ฝันทักทายพี่จีจี้
"ไม่นานหรอกจ้ะอย่างหนูฝันจะให้พี่รอนานเท่าไรพี่ก็จะรอ"
"รู้งี้น่าจะปล่อยให้รอซะให้เข็ด" ฝันแกล้งแซว
"ไปเรากลับกันดีกว่าเดี๋ยวพวกนักข่าวมาเห็นเข้าจะเป็นเรื่อง"
แล้วทั้งคู่ก็นั่งรถมากันบ้านพักของฝันที่ญีปุ่น แม่บ้านทำอาหารไว้รอฝัน้รียบร้อยแล้ว และทั้งหมดนั่งกินอุดงกันอย่างอร่อยกันน่าดู จากนั้นก็อาบน้ำนอนหลับพักผ่อนกัน พรุ่งนี้เช้าต้องไปกองละครแต่เช้า
รุ่งเช้าพี่จีจี้ขับรถพาฝันมากองถ่ายละครและรอรับกลับไป ผู้จัดให้ฝันแสดงเป็นนางเอกนามว่ามิยูโกะ คาชิมะ สาวสวยผู้ไม่ย่อท้อต่อชีวิต เผชิญปัณหาทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญีปุ่น
การถ่ายทำละครเรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยดี ฝันตั้งใจเล่นเป็นอย่างดี ไม่นานเดือนหนึ่งก็ถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์รอการตัดต่อและลำดับภาพ ฝันเมื่อถ่ายทำเสร็จแล้วจึงได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที โดยมีลุงแสนมาคอยรับและกลับบ้าน
"มาแล้วเหรอหนูฝัน" ชเยนต์กล่าวต้อนรับแล้วชวนกันไปนั่งทานข้าวกันวันนี้ชลทิศนัดลูกค้าไว้ไม่สามารถมากินพร้อมกันได้ แต่สัญญาว่าจะทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันในมื้อต่อไป
ทรงกลดโทรศัพท์มาหาฝันบอกว่าฝันพร้อมที่จะทำงานเมื่อไรก็มาได้เลย ฝันขอบคุณทรงกลดที่ยังรับตนเข้าทำงานอยู่ แล้วบอกไปว่าจะไปวันจันทร์หน้า ส่วนชลทิศเห็นฝันกลับมาก็ดีใจ และได้เร่งวันเร่งคืนจะได้แต่งงานกับฝันไวๆ จะได้ครอบครองตัวฝันทั้งกายและใจ ฝันได้อาบน้ำออกจากห้องมาหานมดื่มก่อนนอนชลทิศลงมาเจอพอดี โชคดีที่คราวนี้ฝันใส่แว่นตาอยู่ ชลทิศร้องหิวขึ้นมาทันที
"ผมหิวข้าวจังทำอะไรให้ทานหน่อยสิ" ชลทิศพูดพลางลูบท้องตัวเอง
"แล้วคุณจะทานอะไรละคะ ฉันจะได้ทำถูก"ฝันถามไป
"เอาอะไรก็ได้ขอไวๆ หน่อยแล้วกัน"
"งั้นก็นี้เลย มาม่าต้มยำกุ้งสูตรฉบับฝันๆ คะ" แล้วฝันก็ยิ้มขึ้นมา
ชลทิศยิ้มค้างทันทีและมองฝันตาหวานทันที ฝันมัวแต่ต้มมาม่าใส่กุ้งสองตัว ตัวใหญ่ๆ ไม่นานก็เสริฟถึงมือของชลทิศ ชลทิศดมแล้วจ้องจะกินทันที
"เอามาสิผมหิวแล้วนะ" ชลทิศประท้วงเสียงดังลั่นเลยทีเดียว
"ได้เลยคะคุณชาย" ว่าแล้วฝันก็นำมาให้ชลทิศทาน
"แล้วคุณไม่ทานด้วยกันหรอกเหรอ"
"ฉันอิ้มแล้วคะ คุณทานไปเถอะ"
"งั้นผมไม่เกรงใจใครแล้วนะ" ชลทิศนั่งกินเอากินเอาใหญ่เลยทีเดียว ฝันมองอย่างขำๆ ไม่ได้ เวลาผ่านไป ชลทิศทานเสร็จแล้วฝันล้างจานให้ และชลทิศก็ขอบคุณที่ทำให้กิน ฝันไม่ว่าอะไรและขอตัวไปนอนก่อน ชลทิศได้แต่มองตามหลังด้วยความรักเปี้ยมล้นใจ
หลานวันถัดมามีโทรศัพท์มาหาฝัน พี่จีจี้โทรศัพท์มาบอกว่ามีนิตยสารพราวอยากจ้างฝันถ่ายภาพคู่กับเพตานางเอกสาวสวยของเมืองไทย ฝันจะไม่รับงานนี้แต่พี่จีจี้ขอร้องไว้ ฝันจึงต้องรับงานนี้ไปทำกัน