เรื่องต้องรู้ "กระท่อม" สรรพคุณทางยา ประโยชน์เเละโทษ
เรื่องต้องรู้ "กระท่อม"
กระท่อมในประเทศไทยมีการนำมาใช้เป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง และปวดมวนท้อง และบางพื้นที่กล่าวกันต่อมาว่าสามารถบรรเทาโรคเบาหวานได้ ชาวนานิยมบริโภคโดยการเคี้ยวใบสด หรือเอาใบมาย่างให้เกรียมและตาผสมกับน้ำพริกรับประทานเป็นอาหาร เพื่อให้มีแรงทำงานและสามารถทนตากแดดอยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ชาวมลายูใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต ตลอดจนใช้กระท่อมเพื่อทดแทนฝิ่นในท้องที่ซึ่งหาฝิ่นไม่ได้ และบ่อยครั้งมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อควบคุมการติดฝิ่น โดยเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mitragyna speciosa Korth. วงศ์ Rubiaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง สูง 10 -15 เมตร อยู่ในตระกูล Mitragyna speciosa ใบคล้ายใบกระดังงา มีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่าผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 8-14 ซม. ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อตุ้มกลมขนาด 3-5 ซม. แหล่งที่พบ ในบางจังหวัดของภาคกลาง เช่น ปทุมธานี พบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูลพัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตอนบนของ ประเทศมาเลเซีย
สารสำคัญที่พบในใบกระท่อม
ใบกระท่อมประกอบด้วยแอลคะลอยด์ทั้งหมดประมาณร้อยละ ๐.๕ ในจำนวนนี้เป็นมิตราไจนีน (Mitragynine) ร้อยละ ๐.๒๕ ที่เหลือเป็น สเปโอไจนีน (Speciogynine) ไพแนนทีน (Paynanthine) สเปซิโอซีเลียทีน (Speciociliatine) ตามลำดับ ซึ่งชนิดและปริมาณแอลคะลอยด์ที่พบแตกต่างกัน ตามสถานที่ และเวลาที่เก็บเกี่ยว ซึ่งแบ่งตามสูตรโครงสร้างได้สารประกอบ ๔ ประเภท คือ
1. อินโดลแอลคะลอยด์ (Indole Alkaloids)
2. ออกอินโดลแอลคะลอยด์ (Oxindole Alkaloids)
3. ฟลาวานอยด์ (Elavanoids)
4. กลุ่มอื่น ๆ เช่น ไฟโตสเตอรอล (Phytosterol), แทนนิน (Tannins)
สรรพคุณทางยา
สมัยโบราณกระท่อมเป็นพืชที่ใช้เข้าเป็นตัวยาในตำรับพวกประเภทยาแก้ท้องเสีย ปวดเบ่ง ปวดเมื่อย ตามร่างกาย ท้องเสีย ท้องเฟ้อ ท้องร่วง ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท ในมุมมองของแพทย์แผน ไทยส่วนใหญ่ จะนำพืชใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง ในสูตรยาของหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนโบราณ เช่น ตำรับยาประสะกระท่อม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาขนาดนี้แล้ว เพราะมียาแผนปัจจุบันและแผนโบราณให้ผลเท่าเทียมหรือดีกว่าอีกทั้ง แม้ใบกระท่อมให้ผลการออกฤทธิ์ที่อาจมีประโยชน์ทางยาได้ แต่ทำให้เสพติดและมีผลเสียต่อสุขภาพ หากใช้ติดต่อกันนานๆการนำใปใช้ในทางที่ผิด ปัจจุบันใบกระท่อมมีปัญหาการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียน อาจเนื่องมาจากมีราคาถูกและทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มได้เช่นเดียวกับสารเสพติดอื่น โดยมักนิยมนำน้ำกระท่อมต้ม ผสมกับโค้ก ยากันยุง และยาแก้ไอ (4×100)
โทษของใบกระท่อม
เนื่องจากใบกระท่อมถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษมาก่อน การใช้อย่างผิดวิธีหรือไม่ระมัดระวังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรรู้ว่าโทษของใบกระท่อมนั้นมีอะไรบ้าง
1. ผลข้างเคียงจากใบกระท่อม
การใช้ใบกระท่อมนั้นอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ในระยะสั้นอาจทำให้มีอาการปากแห้ง ลิ้นชา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะบ่อยครั้ง ท้องผูก ง่วงซึม ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หลอน วิตกกังวล หรือกระสับกระส่าย
ในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี ทำให้มีผิวแห้งคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ริมฝีปากคล้ำ ซูบผอม เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง ตัวสั่น มีอาการป่วยทางจิต และอาจเกิดการอุดตันในลำไส้เนื่องจากร่างกายไม่อาจย่อยก้านและใบของกระท่อมได้
ในกรณีที่มีการใช้ใบกระท่อมในปริมาณสูงมากอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอย่างภาวะหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง อัตราการหัวใจเต้นผิดปกติ และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอยู่แล้วอาจมีอาการแย่ลง
นอกจากนั้นอาจมีปัญหาเกี่ยวกับตับ ไต สมอง ความทรงจำ การนอนหลับ รวมถึงปัญหาทางจิตและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในผู้ที่ติดสุราเรื้อรังหรือมีปัญหาทางจิตอยู่เดิม
2. อาการถอนยา
อาการถอนยาเป็นอีกหนึ่งปัญหาในหมู่ผู้เสพติดใบกระท่อมที่หยุดใช้ใบกระท่อมอย่างกะทันหัน ผู้ใช้มักไม่มีแรง ทำงานไม่ได้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตัว นอนไม่หลับ หงุดหงิด หวาดระแวง ซึมเศร้า อ่อนเพลีย ท้องเสีย น้ำมูกไหล น้ำตาไหล เหงื่อออกมาก ร้อนวูบวาบ มีไข้ แขนขากระตุก ชัก และอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวร่วมด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ใบกระท่อมในระหว่างการตั้งครรภ์ยังอาจเป็นโทษต่อทารกในครรภ์ โดยทารกที่คลอดออกมาอาจต้องเผชิญกับอาการถอนยาเช่นกัน ทำให้เด็กต้องเข้ารับการบำบัดอย่างถูกวิธีด้วย
3. การใช้ใบกระท่อมร่วมกับยาหรือสารชนิดอื่น ๆ
แม้เราจะใช้ใบกระท่อมหรือผลิตภัณฑ์จากกระท่อมได้โดยไม่มีความผิดใด ๆ หากยึดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2564 แต่การนำใบกระท่อมไปผสมกับยาหรือสารอื่น ๆ เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด บางครั้งอาจมีส่วนผสมของยานอนหลับ ยาแก้แพ้ หรือยากันยุงด้วย ซึ่งเรียกกันว่า สี่คูณร้อย (4x100) ยังคงมีความผิดทางกฎหมายเช่นเดิม
โดยผู้ใช้หรือเสพติดสี่คูณร้อยจะมีอาการเคลิบเคลิ้ม มึนเมา รู้สึกสนุกสนาน และขาดสติ ซึ่งจะคล้ายคลึงกับการใช้สารเสพติดชนิดอื่น ๆ และหากใช้ในปริมาณสูงมากอาจเกิดภาวะกดประสาทและชัก เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้
แม้โทษของใบกระท่อมจะมีให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่บ่อยครั้ง แต่การใช้ใบกระท่อมก็ยังอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยจำนวนไม่น้อย อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับใบกระท่อมอย่างเพียงพอ จึงไม่ควรใช้เพื่อจุดประสงค์ทั้งการรักษาหรือป้องกันโรคใด ๆ
สำหรับใครที่ใช้ใบกระท่อมหรือผลิตภัณฑ์จากกระท่อมแล้วเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์หรือต้องการเลิกใช้กระท่อมถาวร ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ขอคำแนะนำ และรับการบำบัดที่เหมาะสม
ที่มาข้อมูล : https://www.oncb.go.th pobpad.com