อาชีพเมียเช่าในสมัยสงครามโลก
เพลงของเพลง “จดหมายรักจากเมียเช่า” จากปลายปากกาของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ สะท้อนสังคมไทยในช่วงปี 2504 – 2519 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ‘มะกัน’ นำทหารจีไอ (Government Issue) จำนวนมากเข้ามาประเทศไทยเพื่อตั้งฐานทัพสู้รบระหว่างสงครามเวียดนาม
ห้วงเวลานั้นทหารอเมริกันไม่ได้มารบด้วยตัวเองโดดๆ หากยังมีพลเรือนที่สนับสนุนการรบหรือมีกิจการการค้าเกี่ยวกับทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้มีสถานบริการเพื่อรับรอง ทั้งทหารและพลเรือนในพื้นที่ใกล้ฐานทัพอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นสนามบินดอนเมือง กทม. สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี จ.นครราชสีมา จ.นครสวรรค์ จ.อุบลราชธานี จ.นครพนม รวมไปถึง จ.อุดรธานี
บ้านโนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ในช่วงนั้นจึงคราคร่ำไปด้วยชาวตะวันตกที่นำวัฒนธรรมเข้ามาผ่านผับ บาร์ โรงแรม ร้านอาหาร กิจการแท็กซี่ โรงหนัง เป็นต้น
“เมียเช่า” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นของ จ.อุดรธานี จนถูกนำไปเล่าเป็นบทเพลงสุดแสนอมตะ “จดหมายรักจากเมียเช่า” ประพันธ์โดย อาจินต์ ปัญจพรรค์
“เมียเช่า” ตามพจนานุกรมฉบับมติชน 2547 ให้ความหมายว่า เป็นถ้อยคำเรียกหญิงที่รับจ้างเป็นเมียชั่วคราว
ชีวิตสาวบาร์ในเมืองอุดรฯ บรรจง บุญกิจ วัย 69 ปี ชาว จ.อุดรธานี เคยทำงานในบาร์ระหว่างที่ทหารอเมริกันมาตั้งฐานทัพที่บ้านโนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี “ตอนนั้นทำงานตามร้านอาหารและทำงานเสิร์ฟในช่วงจีไอลงด้วย แขกฝรั่งจะดีกว่าแขกคนไทยตรงที่ได้ทิปดี อยู่โนนสูงพวกเราก็เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน 3-4 คน ตกเย็นก็ไปหาแขก กลางวันก็นอน” เธอเล่าถึงประสบการณ์การทำงานในช่วงนั้น
บรรจง บุญกิจ ชาวจังหวัดอุดรธานี ผู้เคยทำงานในบาร์ช่วงที่ทหารอเมริกัน (จีไอ) มาตั้งฐานทัพใน จ.อุดรธานี เศรษฐกิจรุ่งเรือง-เงินดอลล่าร์เต็มมือ
เธอเล่าว่า เมื่อทหารอเมริกันเข้ามาในจังหวัดอุดรธานีก็มีผู้คนจากจังหวัดอื่นๆ ย้ายเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดี ส่วนสภาพสังคมเมืองอุดรฯ ในยุคนั้นก็ครึกครื้น อำเภอกุมภวาปีที่อยู่ใกล้ อ.เมือง มีความเจริญตามไปด้วย “ตอนนั้นทหารฝรั่งจะอยู่แฟลตเป็นห้องๆ ผู้หญิงไทยก็จะไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ เพราะตรงนั้นมีทุกอย่างที่เป็นความบันเทิง ทั้งผับ บาร์ โรงแรม โรงหนัง ร้านอาหาร” เธอเล่าด้วยใบหน้ายิ้ม