หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 จุดชมวิวทะเลมอกของไทย

โพสท์โดย wmc559

               1.ภูชี้ดาวจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์ ม.11 ต.ปอ จ.เชียงใหม่ มีลักษณะเป็นสันเขาแคบๆตรงจุดชมวิวได้แบบพาโนรามา จุดเด่นของที่นี่ที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น "ภูชี้ดาว" นั้นคือวิวของยอดเขาที่ชี้ไปยังท้องฟ้า โดยวิวที่นักท่องเที่ยวเห็นคือจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่มีภูเขาสูงๆต่ำสลับกันเป็นฉากหลัง ซึ่งทำให้เห็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ในการเดินทางจะต้องใช้บริการรถท้องถิ่น 4*4    จากชาวบ้านเท่านั้น โดยคิดค่าบริการคนละ 70 บาท เมื่อถึงจุดจอดรถจะต้องเดินเท้าต่อไปบนยอดภูชี้ดาวอีกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ    20 นาที

2. บ้านป่าบงเปียง แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

              นาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียง วิวทิวทัศน์สวย อากาศบริสุทธิ์ แถมยังมีที่พักให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ทุกอย่างของที่นี่คือลงตัวหมด ไม่ว่าจะเป็นนาขั้นบันไดที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ตัดกับวิวภูเขาและป่าไม้ที่สุดแสนจะอุดมสมบูรณ์ นั่นทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำเมื่อมาเที่ยวที่นี่ คงหนี้ไม่พ้นการชมทะเลหมอกในยามเช้า โดยทุกท่านสามารถชมวิวจากที่พักได้เลย ยิ่งช่วงที่ก่อนไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้นจะเป็นภาพที่สวยที่สุด ถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเลยทีเดียว โดยการเดินทางมาที่นี่ แนะนำให้เดินทางกับผู้ชำนาญเส้นทางจะดีกว่า เนื่องจากเส้นทางเป็นเส้นทางที่ขับขี่ค่อนข้างยาก โดยส่วนมากจะใช้บริการกับคิวรถสองแถวจอมทอง - แม่แจ่ม หรือใครจองที่พักที่บ้านป่าบงเปียง สามารถแจ้งที่พักให้รถมารับได้ จะสะดวกและปลอดภัยกว่า

3. ผาชะนะได จ.อุบลราชธานี

เมื่อพูดถึงจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว หลายท่านคงทราบกันดีกว่าจังหวัดนี้จะพบแสงอาทิตย์เป็นที่แรก ซึ่งลักษณะโดดเด่นของที่นี่ ที่ทำให้เป็นที่จดจำและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามานั่นก็คือผาที่ยื่นออกมา สามารถมานั่งถ่ายรูปเช็คอินได้ พร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นป่าสนสองใบที่ขึ้นอย่างหนาแน่น อีกทั้งยังมีภูเขาขึ้นสลับที่ดูสวยแปลกตาอีกด้วย ซึ่งถ้ามาถึงที่นี่แล้ว ก็ห้ามพลาดที่จะมาชมทะเลหมอก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาจับจองพื้นที่สำหรับชมทะเลหมอกในช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพราะมีความเชื่อที่ว่าท่านใดที่มีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ เปรียบเสมือนการเพิ่มพลังชีวิตและลบล้างพลังงานลบๆ ออกไป ใครที่จะมาแนะนำมาช่วงตุลาคม-กุมภาพันธ์ จะได้ชมทั้งทะเลหมอกและได้ชมดอกไม้ที่เบ่งบานในช่วงนี้ด้วย สำหรับท่านใดที่จะเดินทางมาที่นี่ จะแบ่งการขึ้นผาชะนะได เป็น 2 รอบ คือรอบเช้าและรอบบ่าย โดยในแต่ละรอบจะมีการจำกัดจำนวนคน แนะนำว่าให้ไปรอตั้งแต่ตอนเช้า เพราะไม่มีการจองคิวล่วงหน้า ทั้งนี้จำเป็นต้องมีการวางแผนดีๆ

4. ผาหำหด จ.ชัยภูมิ

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำหรับชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ จุดเด่นของที่นี่จะเป็นบริเวณผาที่มีชะง่อนผายื่นออกไป สามารถไปยืนถ่ายรูปได้ แต่ก็มีข้อควรปฏิบัติอยู่ เพราะสถานที่ตรงนี้มีความอันตราย สามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ทุกท่านต้องระมัดระวังในการขึ้นไปยืนกันด้วย ปกติโดยทั่วไปช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเหมาะกับการมาที่นี่เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าได้ช่วงเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสม ทุกท่านจะสามารถเห็นทะเลหมอกไปทั่วบริเวณที่ปกคลุมทั้งชัยภูมิเลยทีเดียว ในการเดินทางมาที่นี่จากตัวเมืองชัยภูมิ ใช้ทางหลวงชัยภูมิ-นครสวรรค์ ประมาณ 70 กิโลเมตร หลังจากนั้นให้เลี้ยวขวาบ้านท่าโป่งและตรงไปยังที่ทำการอุทยานฯ อีก 7 กิโลเมตร

5. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย

เป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงโด่งดังและนักท่องเที่ยวปักไว้เป็นจุดมุ่งหมายในการมาเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศเลย ด้วยความที่มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ซึ่งถ้าใครจะมาที่นี่ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะจำเป็นต้องมีการเดินทางเท้าที่มีความชันถึง 9 กิโลเมตร แต่ก็มีจุดให้แวะพักเหนื่อยตลอดเส้นทางอีกด้วย เมื่อเดินทางถึงจุดชมวิวแล้ว ทุกท่านสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เย็นสบาย พร้อมกับช่วงเวลาเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะเหมาะแก่การชมทะเลหมอกมากที่สุด โดยจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตก็จะเป็นผานกแอ่น ช่วงเวลาก็เริ่มตั้งแต่ 5.00 น. เป็นต้นไป โดยการเดินทางมาที่นี่จากตัวเมืองจังหวัดเลย ขับรถไปตามทางหลวงเลย-ขอนแก่น จากนั้นให้แยกไปตามทางหลวงหมายเลข 2019 จะพบทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

6. ดอยหัวหมด อุ้มผาง จ.ตาก

เป็นยอดดอยภูเขาหินปูน ที่มีจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่นี่นั่นก็คือบนดอยจะมีอุณหภูมิค่อนข้างเย็นและมีลมพัดตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถชมวิวได้ 180 องศา นั่นทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลหมอกและเห็นอำเภออุ้มผางทั้งหมดอยู่ด้านล่างได้แบบชัดเจน ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการชมทะเลหมอกคือ ตั้งแต่ 05.00 - 06.00 น. ในการเดินทางมาที่นี่จากตัวอำเภออุ้มผางใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1090 มุ่งหน้าไปบ้านปะละทะ ขับต่อไปเรื่อยๆ ผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ก็จะถึงบริเวณที่จอดรถเชิงดอยแล้ว

7. ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหนที่เดินทางมาที่นี่ จะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามเหมือนไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวใกล้เข้ามาถึง ใบเมเปิลสีแดงก็จะขึ้นเต็มต้น จนทำให้ที่นี่เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางในการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศเช่นกัน ด้วยความที่อากาศเย็นตลอดทั้งปี จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมเยือนได้ทุกเมื่อ จึงทำให้ทะเลหมอกของที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วิวทิวทัศน์ตรงหน้าจะเห็นหมอกไหลไปตามช่องว่างระหว่างภูเขา สวยเพลินตา กับบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ซึ่งจุดที่คนนิยมมาชมทะเลหมอกกันจะอยู่บริเวณผารักยืนยง เป็นเนินเขาลาดชันมองเห็นทุ่งหญ้าแบบสไลด์ ได้ภาพสวยที่สุด โดยการเดินทางมาที่นี่จากทางตัวเมืองพิษณุโลก ก็สามารถใช้เส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 68 เลี้ยวซ้ายที่บ้านแยง เพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ขับต่อไปอีกประมาณ 28 เมตรจะถึงอำเภอนครไทย ท้ายที่สุดให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2331 แล้วขับไปประมาณ 31 กิโลเมตรก็จะเห็นจุดหมาย

8. ภูลังกา จ.พะเยา

มาเที่ยวเมืองรองของภาคเหนือกันบ้าง เพราะมาที่นี่แล้วจะได้สัมผัสทั้งทะเลหมอกและชมพืชพรรณธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม โดยลักษณะภูมิประเทศของที่นี่เป็นยอดเขาที่สลับซ้อนกัน ช่วงเดือนพฤศจิกายนแบบนี้เหมาะกับการมาเยี่ยมชมมากที่สุด เพราะจะได้ชมความงามของทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และกิจกรรมหลักๆ ของที่นี่จะเป็นการเดินขึ้นดอย กางเต็นท์นอนดูดาว อีกทั้งที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งลานจอดรถ ลานกางเต้น จุดชมวิว และป้อมยามไว้ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ท่านใดที่สนใจมาเที่ยวที่นี่ก็อุ่นใจได้เลย ในการเดินทางมาที่นี่จากตัวเมืองพะเยาใช้ถนนสายพะเยา-ปง เมื่อถึงอำเภอเชียงคำให้เดินทางต่อไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ตามถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 1148 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือ ขับต่อไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็ถึงที่หมายแล้ว

9. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีบรรยากาศดี ภูเขาสวย และเป็นหนึ่งใน UNSEEN THAILAND ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวนอกจากวิวสวยแล้ว อากาศที่เย็นตลอดปี แถมยังสามารถมาเที่ยวพักผ่อนช่วงไหนก็ได้ ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย อีกทั้งที่นี่ยังมีจุดชมทะเลมากนับสิบแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกภาพที่ต้องการเห็นได้แล้วปักหมุดไปยังแต่ละจุดชมวิวได้เลย จุดเด่นของที่นี่จะมีทุ่งกะหล่ำปลี สวนดอกไม้เมืองหนาว จึงส่งให้บรรยากาศดูอบอวลไปด้วยความโรแมนติก แล้วทะเลหมอกที่นี่ผืนใหญ่สุดลูกหูลูกตามาก สวยสมคำร่ำลือจริงๆ ในการเดินทางจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ขับตามทางหลวงหมายเลข 21 ตรงไปอำเภอหล่มสัก เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเลี่ยงเมืองหล่มสัก มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ตรงไปสักระยะ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2372 ขับตามป้ายบอกทางไปอุทยานภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2331 เมื่อไปถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตรงนี้จะมีแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวเพื่อไปยังภูทับเบิกอีกประมาณ 6 กิโลเมตร

10. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

สถานที่ชมหมอกใกล้กรุงเทพฯ เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศคนละขั้วกับตัวเมือง ได้ความสงบ ผ่อนคลาย และชมวิวทิวทัศน์ไปพร้อมๆ กัน อากาศที่นี่ก็จะมีลมเย็นพัดผ่านตลอดเวลา ยิ่งช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศสุดแสนจะเย็นสบาย พร้อมกับทะเลหมอกที่กระจายตัวสุดลูกหูลูกกตา อีกทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกได้อีกด้วย เป็นวิวที่อยากแนะนำ เพราะจะทำให้ได้เห็นทะเลหมอกสีทองสวย และได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า มีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ในการเดินทางจากถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิตประตูน้ำพระอินทร์ และจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ก่อนถึงอำเภอปากช่อง บริเวณกิโลเมตรที่ 23 จะพบศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศาลเจ้าพ่อ และเดินทางต่อไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 205 กิโลเมตร

มาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่ยังลังเลว่าจะดูทะเลหมอก ที่ไหนดี ก็คงจะได้ไอเดียในการจัดทริปท่องเที่ยวชมทะเลหมอกกันแล้ว นอกจากการวางแผนการเดินทาง 

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่:ท่องเที่ยวไทย,ทุกทิศทั่วไทย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
wmc559's profile


โพสท์โดย: wmc559
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Netflix เกาหลีทำหลุด! เผยวันฉายก่อนรีบลบคลิปทีเซอร์ Squid Game ซีซั่น 3รักนี้หวานมาก! ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เปิดตัวแฟนหนุ่มที่แท้คือคนนี้ดื่มหนัก สังสรรค์ทั้งคืน มาพักตับกันด้วยวิธีดูแล ฟื้นฟู “ตับ” ง่าย ๆห้องน้ำรวมของแทร่ แค่ไม่มีผนังกั้น..เข้าไปก็รู้สึกเขินทันที จะกล้าขี้มั๊ยเนี่ย!เปิดอาณาจักรความรวย นายกแพทองธาร มีทรัพย์สินเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาทค้างคาวยักษ์แห่งแทนซาเนีย สัตว์ป่าเสี่ยงสูญพันธุ์ย้อนรัก 12 ปี "โก๊ะตี๋-กวาง" ถึงทางตัน เลิกทั้งที่ยังรัก หลังวิวาห์เพียงปีเดียวว้าว! ปาฏิหาริย์รับปีใหม่ สาวดวงเฮงถูกหวย 12 ล้าน หลังไปขอพร "องค์ปู่" ที่วัดดัง!ของขวัญปีใหม่จากอวกาศ วงแหวนโลหะลึกลับตกใส่หมู่บ้านมูคูคู เขตมากวานี ประเทศเคนยาชกมวย มวยไทย ประโยชน์ดี ๆ ของการชกมวยจริงดิ?! ยากันยุง "ไร้ควัน" แค่น้ำส้มสายชู ไล่ยุงได้จริงเหรอ? อ.เจษฎ์ มาเฉลยแล้ว!เกาหลีใต้สะเทือน: ออกหมายจับประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ท่ามกลางการล้อมบ้านพักและการประท้วงใหญ่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เกิดเหตุเครื่องบินตกใส่ตึก ในแคลิฟอร์เนีย4 อันดับพยาธิปรสิตสุดสยอง ที่ซ่อนตัวในร่างกายคุณของขวัญปีใหม่จากอวกาศ วงแหวนโลหะลึกลับตกใส่หมู่บ้านมูคูคู เขตมากวานี ประเทศเคนยาห้องน้ำรวมของแทร่ แค่ไม่มีผนังกั้น..เข้าไปก็รู้สึกเขินทันที จะกล้าขี้มั๊ยเนี่ย!เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เตรียมควบคุมตัวประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
ห้างสรรพสินค้า One Stop Service ของคนไทย เหตุผลที่คนไทยชอบเดินห้างพีระมิดแห่ง El Pueblito: มรดกเมโสอเมริกาอันทรงคุณค่าแห่งเกเรตาโรบันไดกระเบื้องเซลารอน: ศิลปะสีสันสดใสแห่งริโอเดอจาเนโรเที่ยวเชียงราย แวะชมความงามของสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของ วัดร่องขุ่น
ตั้งกระทู้ใหม่