ห้าม Miss Universe เข้าประเทศบ้านเกิด
ดราม่าอะไรกันอี๊กกก!!! ดราม่าไม่หยุด ดราม่าไม่พัก ดราม่าชนิดที่ยิ่งกว่าละครหลังข่าวจริง ๆ สำหรับสาวนิส หรือ Sheynnis Palacios, Miss Universe Nicaragua 2023 และ Miss Universe คนล่าสุด
เพราะทันที่จบการประกวดก็เกิดกระแสดราม่าไม่สมมง ค้านสายตา ใช้ล่ามในการตอบคำถามเพื่อยื้อเวลาในการตอบคำถาม ไม่เพียงแต่แฟน ๆ นางงามชาวไทยเท่านั้นที่ไปถาโถมใส่เธอ แม้แต่แฟน ๆ นางงามต่างชาติก็ว่าค้านสายตาเช่นกัน บางรายถึงขั้นปาหน้าจอทีวีแตก แต่สาวก็โนว์สนโนว์แคร์ สตรอง! สตรอง! สตรอง! ปฏิบัติหน้าที่ Miss Universe ของเธอต่อไป
แต่ล่าสุดเหมือนจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือปีนี้เป็นปีชงของสาวนิสก็ไม่รู้ ผ่านดราม่าหลังรับมงกุฎไปได้ไม่นาน ดราม่าลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามาใส่เธอแบบจัดหนักจัดเต็ม เมื่อหลังจากเสร็จภารกิจของจักรวาลที่ประเทศเม็กซิโก เจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe ในปีหน้า สาวนิสก็ได้นิวัตกลับสาธารณรัฐนิการากัวของเธอ
แต่เดชะบุญตรวจคนเข้าเมืองกลับไม่ยอมให้เธอผ่านเข้าประเทศบ้านเกิดของเธอเสียอย่างนั้น และได้ให้เธอตีตั๋วกลับไปยังเม็กซิโกแทน
ซึ่งชนวนเหตุของเรื่องนี้ในเฟซบุ๊ก บุญรอด เนล ปีเตอร์ จิระอนันต์ ก็ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ดราม่าแบนนางงามของประเทศตัวเองนี้มีมาตั้งแต่ตอนแข่งขันแล้ว เพราะในปี 2018 สาวนิสของเราเคยลงถนนประท้วงต่อต้านรัฐบาลซึ่งเหมือนจะเป็นรัฐบาลเผด็จการ และปัจจุบันก็ยังคงมีอำนาจอยู่ จึงได้แบนเธอเพราะกลัวประชาชนลุกฮือมาต่อต้านอีก แต่พอเธอมีแววจะได้มงก็ได้ถอนแบน แต่จู่ ๆ เลือดจะไปลมจะมาเป็นไบโพล่าหรืออย่างไรไม่รู้ ก็กลับมาแบนเธออีก แม้แต่ในประเทศก็ห้ามวาดรูปที่เกี่ยวกับเธอ ห้ามตอนรับเธอกลับบ้าน ด้วยกลัวประชาชนจะลุกฮือมาต่อต้านอีก อิหยังวะ!
ซึ่งชนวนเหตุก็ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะในวันประกวดรอบชิงมง สาวนิสของเราก็ได้ปราฎตัวในชุดราตรีสีขาว ฟ้าคลุมสีฟ้า ตอนแรกพวกเราก็เข้าใจว่าเป็นสีบนธงชาติของสาธารณรัฐนิการากัว แต่ที่แท้สีฟ้าขาวนี้ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ทางการเมืองที่ต่อต้านสีขาวแดงประจำรัฐบาลทหารของนิการากัว โอ๊ย! เป็นเอามากแท้เนาะ อีลุงบ้านฉันว่าหนักแล้วนะ นี่หนักกว่าอี๊กกก! ถ้าแกมาอยู่บ้านฉันมีตั้ง 5 6 สีแกไม่อกแตกตายเอารึตาเฒ่า
ปัจจุบันสาธารณรัฐนิการากัวอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล José Daniel Ortega Saavedra โดยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐนิการากัวมาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2007 (ลุงกูแพ้ไปเลยจ้า)
โดยในวันที่ 19 เมษายน 2018 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และคณะกรรมาธิการระหว่างชาติอเมริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนขององค์การรัฐอเมริการะบุว่า ออร์เตกามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรง ในขณะที่เจ้าหน้าที่และสื่อของรัฐบาลได้ปฏิเสธการกระทำดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นมีทั้งผู้คนที่ล้มตาย ลี้ภัย ถูกเทรเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่รอดชีวิตก็ได้เป็นกำลังในสาวนิสคว้ามงแรกมานิการากัวให้ได้ ทางรัฐบาลเลยผีเข้าอีกออกนั่งไม่ติดกลัวว่าประชาชนจะลุกฮือมาต่อต้านตัวเองอีก จึงได้แบนสาวนิสและทีมงานห้ามเข้าประเทศเป็นที่เรียบร้อย
เฮ่อ! อ่านแล้วก็เห็นใจสาวนิสเหมือนกันนะ ยังไงก็เธอเป็นกำลังใจให้เธอผ่านพ้นเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปให้ได้นะคะ ถ้าให้ดีคว้ามงมาได้แล้ว คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงมาเลยจะเป็นไร สู้ ๆ นะคะ