ปีหนึ่ง เพื่อนกัน และวันหัวใจว้าวุ่น
ขึ้นชื่อว่านักศึกษาใหม่ปีหนึ่งนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องเล่าสนุกๆกันทุกคน....มาต่อกันจากตอนเดิม >> หอพักหรรษาและบรรดาเพื่อนร่วมหอกันค่ะ
สำหรับช่วงหลังจากที่ความวุ่นวายในหอพักได้กลายเป็นเรื่องปกติของทุกคนไปแล้ว สิ่งที่นอกจากพวกเราจะต้องเรียนรู้กันละกันก็ไม่น้อยกว่าการที่ต้องตั้งใจเรียน อันที่จริงแล้ว สำหรับเด็กปีหนึ่ง ถึงแม้ต้องปรับตัวเรื่องการเรียนจากแบบแนวมัธยมมาแนวมหาลัยแล้ว ถ้าย้อนมองจากตอนนี้ก็ไม่ได้หนักหนามาก แถมเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆนาๆที่ทั้งรุ่นพี่และฝ่ายกิจการนักศึกษาพยายามจัดให้ทุกคนเข้าร่วมเสมอ ความสนุกของคณะที่พวกเราเรียน จะเพิ่มเข้ามาตรงนี้ เราต้องลงเรียนวิชาปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นวิชาดนตรีไทย วิชารำไทย วิชาทำอาหาร และวิชาผสมเครื่องดื่ม ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับการโรงแรมทั้งนั้น ก็เลยทำให้ผ่อนคลายความเครียดจากการเข้าเรียนกับอาจารย์ต่างชาติที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
แต่กระนั้น ก็ยังไม่พ้นเรื่องความรักเสมอ.....
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ก็ประมาณสองเดือนที่ฉันไม่ได้กลับบ้านเลย มีเพียงแค่โทรที่บ้านบ้างตามตู้หยอดเหรียญ สมัย พ.ศ.2544 ก็ไม่ใช่ทุกคนจะมีโทรศัพท์มือถือ ถ้าจะมีก็คงเป็นโนเกียรุ่นแรกกระมัง แต่ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะฉันกำลังสนุกกับชีวิตในมหาลัยนั่นเอง กลุ่มเพื่อนของฉันนอกจากจะเป็นเพื่อนร่วมโซน เพื่อนร่วมคณะ ก็จะมีอีกกลุ่มนึงที่จัดตั้งโดยเด็กโข่งคนนึง ชื่อว่า มาโนช มาโนชเป็นเพื่อนนักศึกษาที่มาจากจังหวัดเดียวกันแต่คนละโรงเรียนกับฉันและเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดที่ฉันรู้จักดีแต่เพียงเพราะฉันไม่ได้มีบุญวาสนาได้เรียนที่นั่น มาโนชและผองเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันก็สอบติดเข้ามาหลายคน เลยจัดตั้งกลุ่มจังหวัดขึ้นมา ประมาณว่ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือคนบ้านเดียวกัน มาโนชมักจะเป็นหัวโจกในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าการออกจากหอช่วงกลางคืน แล้วขับมอเตอร์ไซด์เป็นกลุ่ม หรือที่คนภูเก็ตเรียกว่า เหวน ไปตามหน้าหาด ในเมือง หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของภูเก็ต แถมยังชอบรวบรวมรายชื่อคนที่ต้องการกลับบ้านช่วงวันหยุดไปซื้อตั๋วรถบัสกลับ เพียงเพื่อจะได้ไปกลับพร้อมกัน ในส่วนหลังนี้ฉันใช้บริการมาโนชน้อยมาก เพราะฉันไม่ค่อยคิดถึงบ้านและยังสนุกกับชีวิตมหาลัยนั่นเอง
กิจกรรมอย่างนึงที่สร้างความสนุกให้สาวๆ โดยเฉพาะสาวๆโซนฉันนั่นก็คือ การจับฉลากบัดดี้ บัดเดอร์ นั่นเอง ซึ่งจะเอารายชื่อเด็กปีหนึ่งทุกคณะมาให้จับฉลาก หากจับได้ชื่อใครก็ถือเป็นบัดดี้ เราต้องไปเทคแคร์ ดูแลเค้าแบบลับๆ และจะไปเฉลยในงานรับน้องที่ทางมหาลัยจะจัดขึ้นอีกเดือนถัดไป และเราเองก็จะมีคนแอบมาดูแลนั่นก็คือบัดเดอร์นั่นเอง นี่คือจุดเริ่มต้นของการเกี๊ยวผู้ชายอย่างแท้ทรู โดยเฉพาะเมื่อเราจับได้รายชื่อที่เป็นนักศึกษาผู้ชาย
เริ่มต้นจากมินนี่.....มินนี่ผู้คลั่งใคล้รุ่นพี่ศิลปินคนนึงอยู่และพยายามใช้ความไร้เดียงสาเข้าหารุ่นพี่ปรึกษาต่างๆนาๆ ทั้งๆที่มินนี่นั้นเป็นคนเฉลียวฉลาดและหัวไวที่สุดในกลุ่ม การใช้รุ่นพี่เข้าไปเทคแคร์ดูแลบัดดี้ที่หล่อนจับฉลากได้มาซึ่งเป็นผู้หญิง ถือเป็นความพลาดอย่างมหันต์ เมื่อมาทราบภายหลังว่ารุ่นพี่คนนี้ได้ควงกับบัดดี้หล่อนเอง และเมื่อถึงวิชาผสมเครื่องดื่มวันนึง และฉันคือผู้นั่งเรียนข้างมินนี่
มินนี่: อาจารย์ พูดไรว่ะ เราฟังไม่รู้เรื่องเลยว่ะ เมื่อไหร่อาจารย์จะให้ชิม
ฉัน: เป็นไรเนี๊ยะ นอนไม่พอหรืองัย เบลอๆนะ
มินนี่: เราอกหักว่ะแก
ฉัน: ตลก มาเดือนนึงอกหัก ใครหักอกแก
มินนี่: ก็พี่โก้ปีสองงัย เมื่อวานเราเห็นเดินกับบัดดี้เรากะหนุงกะหนิงเลย
ฉัน: บัดดี้แก ใครอ่ะ แล้วทำไมเค้าไปเดินด้วยกัน
มินนี่: เซ็งโว้ยยย เมื่อไหร่อาจารย์จะให้ชิม
ฉันยิ่งงงงวยกับอาการของหล่อนแต่พยายามหยิกมินนี่ให้ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายจนกระทั่งนาทีที่หล่อนรอคอยก็มาถึง....
อาจารย์: (พูดภาษาไทย) เอาละครับนักศึกษา เด่วเราลองมาชิมเครื่องดื่มตระกูลต่างๆ กันนะครับ นี่เริ่มต้นด้วย รัม นะครับ
แล้วอาจารย์ก็รินลงในแก้วช้อต ส่งมาเพื่อให้ชิม .....ถ้าใครไม่อยากชิมแค่ดมๆ เอาก็พอนะครับ
มินนี่: ดมมันจะรู้อะไรว่ะ ส่งมาเลยๆ แก
กึ๊บบบบ หล่อนกระดกหมดเลย โดยที่ไม่มีใครได้สังเกตุ ยกเว้นฉัน
ฉัน: เอ้ยยย เบาๆแก เคยกินด้วยหรอ
มินนี่: ชั้นอยากเมา!
ฉัน: เบาแกเบาก่อนนนนนน เด๋วอาจารย์เห็น
ในช่วงเวลานั้นฉันไม่ได้ฟังที่อาจารย์บรรยายเลยเพราะมัวแต่พยายามห้ามมินนี่ไม่ได้กระดกเหล้าเข้าไป อันที่จริงก็ไม่ได้มากมายแต่คงเพราะเป็นเหล้าหลายขนาน ตาของหล่อนก็เริ่มแดงออกมา
เอาละครับวันนี้ ขอเลิกคลาสเท่านี้ครับ
ทุกคนเก็บข้าวเก็บของเดินออกไป เหลือแต่มินนี่ที่ยังคงนั่งบนเก้าอี้ จนอาจารย์เดินเข้ามา
อาจารย์: นักศึกษาครับ เลิกคลาสแล้วครับ
ฉัน: อ่าาาา อาจารย์คะ คือเพื่อน น่าจะไม่ไหวค่ะ
อาจารย์: หือออ ทำไมครับเค้าดื่มเยอะตอนใหน
ฉัน: ตอนที่อาจารย์ส่งมานั่นแหละค่ะ ไม่มีใครกล้าดื่มเลยค่ะ นอกจากเค้า
อาจารย์: โหววววว
หลังจากนั้นฉันก็ไปเรียกมาโนชมาอีกคน เพื่อช่วยประคองมินนี่กลับหอ โดยให้ใช้ทางลัด แต่พอถึงหน้าหอเท่านั้นแหละ
มาโนช: โอ้ยยย เราส่งแค่นี้นะ เราไปหอหญิงไม่ได้ คนไรว่ะ ตัวหนัก_หาย
ฉัน: เออ ขอบใจมากนะ
มินนี่: แม่ง แก ทำไมผู้ชายมันโลเลว่ะ ทำเป็นดีกะเรา แต่ไปกับคนอื่น ชั้นเกลียดผู้ชายโลเล
ฉันผู้พยายามปิดปากนาง เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่หอเดินออกมา
ฉัน: มินนี่ ทำไรอย่างนึงได้มั้ย
มินนี่: ทำไรว่ะ
ฉัน: เด่วเราต้องผ่านเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ตรงนั้นใช่มั้ย แกต้องเดินตัวตรงๆ ไม่ต้องพูดอะไรจนถึงชั้นสอง แกทำได้มั้ย
มินนี่มองเหมือนเข้าใจและพูดว่า สบายมากกกก
จากนั้นมินนี่ก็ลุกขึ้น และเดินตรงๆไปพร้อมกัน ในขณะที่กำลังจะผ่านเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ หล่อนก็ย่อตัวลงและพูดว่า สวัสดีคร้าาาาาพี่มล
พี่มลคือเจ้าหน้าที่หอ ก็งงงวยและถามมาว่า สวัสดีค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฉันก็รีบตอบไปว่า ไม่ค่ะ พอดีเพิ่งเรียนรำไทยมา แล้วรีบฉุดมินนี่ให้เดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอนและไปฟูมฟายต่อในห้อง และสลับสับเปลี่ยนกันดูแลหล่อนจนหลับไป
เช้าวันถัดมา มินนี่ก็กลายเป็นคนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังมาถามอีกว่าเอาไก่ทอดมั้ยคืนนี้ หล่อนจะออกไปดาวน์ทาวน์ 
ฉันนึกย้อนไปตอนหล่อนบอกว่าพี่โก้เดินไปกับบัดดี้ ฉันก็ลืมไปว่าฉันเองก็จับฉลากได้รายชื่อมาเหมือนกันแต่ฉันไม่เริ่มต้นทำอะไรเลย ว่าแล้วฉันก็เดินไปดูที่โต๊ะ และเปิดฉลากนั้นอีกครั้ง วรวุฒิ ทองทรัพย์ ใครหว่าาาาา ฉันเข้าไปดูรายชื่อนักศึกษาใหม่คณะเดียวก็เจอ และพอจำได้ลางๆว่า เคยเห็นหน้าในคลาส ฉันก็เริ่มหาวิธีเข้าหาอย่างแนบเนียน.....
รูมเมทมด: เอ้ย คิดอะไรอยู่ เหม่อเลยแก
ฉัน: นี่มด แกมีบัดดี้ใช่มั้ย แกใช้วิธีใหนเข้าหาเค้าว่ะ
มด: เรื่องนี้ชั้นถนัดมากแล เด่วสอนให้ แต่ก่อนอื่นแกออกไประเบียงกับฉันก่อน
ฉัน: ทำไมว่ะ
มด: เออ ออกมาเถอะน่าาา
เราทั้งสองก็ออกไปนอกระเบียง แต่หล่อนกลับให้ฉันนั่งซะงั้น แล้วชี้ไประเบียงชั้นล่างกลางหอ
มด: แกเห็นผู้ชายห้องนั้นมั้ย
ฉัน: เห็น สองคน ทำไมอ่ะ
มด:คนตัวสูงๆอ่ะ หล่ออออมากกกก ชั้นแอบมองมาหลายวันละ
ฉัน: หล่อยังงัยว่ะ หันหลังให้กันทั้งสองคนเลยนะนั่น
จังหวะเดียวกันนั้น สองหนุ่มก้อหันหน้าออกมา และมดก็มีอาการเขินอาย บิดม้วน
ฉัน: เออ หล่อ หล่อจริง
แต่เอ๊ะ อีกคน........นั่นมัน นายวรวุฒิ นี่ ฉันเก็บอาการไว้เพื่อไม่ให้มดรู้ว่าฉันเจอบัดดี้ฉันแล้วและรู้ว่าอยู่ห้องนั้น แผนในหัวของฉันเริ่มทำงานทันที
ฉัน: มด เด่วเรามาหาวิธีคุยกับหนุ่มห้องนั้นกันนะ
ซึ่งมดกับฉันก็ตบมือกันเปาะแป๊ะ เพราะต่างคนต่างมีแผนร้อยแปดพันเก้าอยู่ในหัว.........
เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เด่วเราค่อยมาต่อกันใหม่นะคะ
......................................................................................................................................................................
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
UN จ่อคว่ำบาตรกลุ่มเบื้องหลังผู้นำในกรุงพนมเปญ ไทยซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ สรัยดึ๊กคลั่งสั่งเตรียมรบไทยรอบสอง
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ฮือฮาทั่วโซเชียลเมื่อมีสาวสวยแต่งชุดแสงอุษา ในการ์ตูนนารูโตะ แล้วใช้คาถาอัญเชิญสัตว์หาง
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย



