ตำนานความหล่อ เท่ คูล "มานพ อัศวเทพ" สิ้นลมแล้วอย่างสงบ
"มานพ อัศวเทพ" มีชื่อจริงว่า "วิริยะ จุลมกร" (จึงมีชื่อเล่นว่า ยะ) เกิดปี 2477 เป็นบุตรคนที่ 7 ของนายวิเวก-นางลมัย จุลมกร ชาวชลบุรี
-เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนประจำจังหวัดชลบุรี จนจบเมื่ออายุ 18 ปี
-มาเรียนต่อที่โรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบจนได้ยศ ย้ายมาประจำอยู่กองบัญชาการมหารสูงสุด จนได้ยศพันจ่าเอก
-ในปี 2505 ได้พบสนาน คราประยูร ผู้กำกับชื่อดังที่ร้านตัดผม ด้วยความที่เป็นนักเพาะกายมาก่อน จึงหุ่นดี สูง 177 ซ.ม.น้ำหนัก 68 ก.ก. อก 42 นิ้ว ลำแขนวัดรอบ 16 นิ้ว เรียกว่าเป็นพิมพ์นิยมของหุ่นพระเอกหนังไทยในยุคนั้น สนานจึงชวนมาแสดงหนัง โดยเริ่มจากการเป็นพระรองประชันกับมิตร ชัยบัญชา และนางเอกตรึงใจ วิไลลักษณ์ ใน นางสมิงพราย (2506) โดยใช้ชื่อในการแสดงว่า นาวิน เทพโยธี
-จากนั้นได้เป็นพระเอกเต็มตัวคู่กับอมรา อัศวนนท์ใน พิชิตทรชน (2507) หนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เลยกลับไปเป็นนักแสดงประกอบต่อ มีผลงานเช่น เพชรน้ำผึ้ง (2508), สุดแผ่นดิน (2510), หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512)
-ปี 2512 พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล แห่งอัศวินภาพยนตร์ได้ติดต่อให้ไปเป็นพระเอก ละครเร่ คู่กับสุทิศา พัฒนุช นางเอกใหม่ที่ท่านเพิ่งปั้นมาจนดังจาก เป็ดน้อย (2511) และยังมีดาราหน้าใหม่บนจอเงินอีก 3 คนคือสายัณห์ จันทรวิบูลย์, จารุวรรณ ปัญโญภาสและดาราทีวีชื่อดังกนกวรรณ ด่านอุดมร่วมแสดงด้วย และท่านได้เปลี่ยนชื่อในการแสดงให้ใหม่ว่า มานพ อัศวเทพ
-เนื่องจากพระเอกในเรื่องนี้ต้องรำไทยเป็น เขาจึงต้องฝึกรำกับครูกฤษณา ภักดีเทวา เป็นเดือนๆ ละครเร่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก (ดวงของมานพจริงๆที่จะได้เป็นพระเอกเรื่องนี้เพื่อที่จะเป็นบันไดทอดไปสู่ความสำเร็จในอนาคต เพราะผมว่าเป็นตัวเลือกที่แปลกมากที่เอาพระเอกหุ่นนักเพาะกายมารำละคร!)
-หลังจากละครเร่ มานพก็กลับไปเป็นพระรองหรือนักแสดงประกอบตามเดิม มีผลงานเช่น เรารักกันไม่ได้ (2513), หวานใจ (2513), คนใจเพชร (2514)
-ปี 2515 เปี๊ยกโปสเตอร์ ก็ให้มานพเป็นพระเอกอีกครั้งใน ชู้ โดยประกบกับกรุง ศรีวิไล พระเอกใหม่ในขณะนั้น ว่ากันว่าบทของเขาในเรื่องนี้ฉิวเฉียดที่จะทำให้เขาคว้าตุ๊กตาทองนำชายไปครอง (ผู้ชนะนำชายคือนาท ภูวนัย จาก ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ และกรุง ศรีวิไล ชนะสาขาสมทบจาก ชู้ นั่นหมายความว่าคณะกรรมการมองว่าบทของมานพเด่นกว่าและอยู่ในสาขานำชาย)
-แม้ว่าเปี๊ยกโปสเตอร์จะไม่สามารถทำให้มานพคว้ารางวัลตุ๊กตาทองจาก ชู้ ได้ แต่อีก 4 ปีต่อมา ในปี 2519 เปี๊ยกโปสเตอร์ได้มอบบทเด่นให้มานพอีกครั้งใน เงาราหู และคราวนี้ไม่พลาด มานพคว้ารางวัลตุ๊กตาทองจากการกำกับของเปี๊ยกโปสเตอร์ได้ในที่สุด แต่เป็นสาขาสมทบชายจาก เงาราหู (2519)
-มานพกลายเป็นนักแสดงสมทบยอดฝีมือและมีผลงานแสดงมากมายเนิ่นนานต่อมาอีกหลายสิบปี เช่นทิวาหวาม (2517), ซำเหมา (2516), ธิดาพญายม (2517), สามปอยหลวง (2517), ท้ามฤตยู (2519), ดับสุริยา (2519), ขุนศึก (2519) ฯลฯ
ล่าสุด วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ทางเพจ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ได้แจ้งข่าวร้ายว่า "คุณอามานพ อัศวเทพ" เสียชีวิตแล้ว โดยมีกำหนดรดน้ำศพ ที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ ตลิ่งชัน ขอเชิญเพื่อนพ้องคนในวงการบันเทิง รดน้ำที่วัดโดยพร้อมเพรียงกัน ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของ "คุณมานพ อัศวเทพ" มา ณ ที่นี้ด้วย