นิทานหอยโข่ง
นิทานหอยโข่ง
แชร์บอร์ด นิยาย เรื่องเล่า โพสท์โดย dulea
นิทานหอยโข่ง
นิทานหอยโข่ง
ไอ้หอยแคลง : มีหน้ามีตาคนรู้จักกันทั่วดูมีค่ามีราคาเป็นที่นิยม
ไอ้หอยโข่ง : ดูกระจอกไม่มีราคา รู้จักในเชิงความหมายของความโง่งมความเขื่องช้า
-เป็นเรื่องราวของไอ้หอยโข่งตัวนึงที่ไม่มีเจ้าของ มันมีอิสระในชีวิตของมันใด้มาเจอกับตะกร้าที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ในสายตามันมองว่าตะกร้านี้ช่างสูงค่างดงามมากสำหรับมัน มันจึงแอบเข้าไปหาตะกร้า
และตะกร้าใบนั้นก็รับมันเข้ามา ตัวมันใด้เพ้อฝันว่าจะอยู่ในตะกร้าใบนี้ตลอดไปโดยไม่ให้เจ้าของตะกร้าใด้รับรู้และเดือดร้อน
แต่ความเป็นจริงมันก็รู้ตัวเองและยอมรับว่าต้องกลับไปอยู่ในหนองโคลนตามเดิม
แต่บ่อยครั้งทื่มันก็อดใจไม่ใด้ ที่จะแอบมาอยู่ในตะกล้าโดยไม่ให้เจ้าของตะกร้าใด้รับรู้เพื่อไม่ให้ตะกร้าต้องเดือดร้อน จากการถูกเจ้าของหวาดระแวงสงสัย
ส่วนตะกร้านั้นมีเรื่องราวต่างๆที่กดดันจนคิดว่าจะไม่มีทางออกใด้โดยง่ายและไม่สามารถบอกกับเจ้าของใด้นเรื่องนั้น จึงคิดว่ามันคงจะมาถึงทางตันเสียแล้ว
พอไอ้หอยโข่งใด้รับรู้มันจึงช่วยหาวิธีแบ่งเบาภาระความกดดันนั้นให้เบาบางลงใด้บ้าง ถึงแม่ว่าตัวมันเองจะไม่เหลืออะใรเลยและติดลบในที่สุดก็ตาม
แต่มันไม่เคยใด้บอกหรือแสดงให้ตะกร้าใด้รับรู้ถึงผลเสียที่เกิดขึ้นกับตัวมันเลยแม้แต่น้อยเพราะมันกลัวว่าตะกร้าจะไม่สบายใจ และรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุ ให้ต้องเป็นแบบนี้
มันจึงบอกกับตะกร้าในทุกๆครั้งที่มันใด้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตะกร้า ว่ามันลืมไปแล้วว่าครั้งที่แล้วมันใด้ช่วยอะไม่เห็นจะจำใด้เลย แต่กลับคอยพูดถึงแต่สิ่งดีๆเล็กๆน้อยๆที่ตะกร้าเคยทำให้กับมัน จนตะกร้าสบายใจขึ้น
ถึงอย่างนั้นไอ้หอยโข่งก็ยังพยายามดูแลตะกร้าให้ดีที่เท่าที่มันจะทำใด้และยอกกับตะกร้าว่าไม่ว่าต่อไปจะเป็นยังใงก็ช่าง มันก็จะพยายามช่วยตะกร้าไปตลอดจนกว่าปัญหาจะหมดไป
ถึงในใจลึกๆมันก็รู้ว่าหอยโข่งโง่เง่าอย่างมันไม่สามารถดูแลตะกร้าที่สูงค่าสำหรับมันให้ดีใด้ แต่จะทุ่มเททั้งขีวิตเพื่อช่วยเหลือตะกร้ายังมีคนอื่นที่ดูแลใด้ดีกว่ามันเป็นร้อยเท่า
ไอ้หอยโข่งรู้ว่าสิ่งที่มันทำมาทั้งหมดถ้าเปรียบเทียบสิ่งที่คนอื่นทำนั้น สิ่งที่มันทำนั้นไม่มีค่าพอที่จะไปเปรีบเทียบอะใรใด้เลย
อยู่มาวันนึงใด้มีไอ้หอยแคลงเข้ามา และใด้ชักชวนให้ตะกร้าใด้ทดลองในสิ่งที่ไม่ดีบางสิ่งโดยบอกกับตะกร้าว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งไม่ดีอย่างที่คนอื่นเข้าใจและแถมมันยังช่วยให้ผ่อนคลายใด้อีกซึ่งความผ่อนคลายคือสิ่งที่ตะกร้าต้องการในเวลานั้น
แต่ไอ้หอยโข่งใด้บังเอิญไปรู้ เรื่องราวนี้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะเครารพการตัดสินใจของตะกร้าเอง และไม่อยากทำให้ตะกล้าต้องเดือดร้อน แต่ก็บอกกับตะกร้าไม่ใด้ว่ามันใด้รู้เรื่องที่ไอ้หอยแคลงใด้ชักชวนกับตะกร้าแล้ว
มันจึงทำใด้แค่เก็บกดความปวดใจที่เห็นตะกร้าต้องการที่จะออกเดินทางไปหาไอ้หอยแคลงเพื่อทดลองในสิ่งนั้น
ไอ้หอยโข่งทำใด้แค่พยายามเตือนตะกร้าแบบ กรายๆ โดยแกล้งยกตัวอย่างที่ไม่ดีว่าสิ่งไม่ดีที่ไอ้หอยแคลงใด้ชักชวนให้ตะกร้าใด้ทดลอง นั้นมันก็มีอันตรายในรูปแบบต่างๆ จนแม้กระทั่งต้องเสียตัวแบบวิปริตสกปรกคนที่เมามายกับสิ่งนั้นก็จะถูกกระทำใด้โดยง่าย และกลุ่มคนที่นิยมมั่วสุมกันใช้ของสิ่งนั้นมันก็มึความหน้ากลัวพอๆกัน
ในช่วงเวลานั้นตะกร้ามีเรื่องราวอื่นๆที่กดดันมากมายนหัวสมอง
ในที่สุดตะกร้าก็ตัดสินใจออกเดินทางไปหาไอ้หอยแคลงด้วยตัวเอง เพื่อทดลองในสิ่งนั้นโดยมั่นใจว่าจะไม่มีผลเสียตามที่ไอ้หอยแคลงมันใด้บอกใว้
และจากนั้นตะกร้าก็ดูมีความสุขขึ้นที่ใด้ไปพบกับไอ้หอยแคลงบ่อยขึ้น ด้วยความที่ไอ้หอยแคลงมีความดูดีโน้มน้าวให้ตะกร้ารู้สึกว่าไอ้หอยแคลงเป็นคนที่ดีมากสามารถเชื่อใจใด้และสนิทสนมกันมากขึ้น
ถึงขั้นเชื่อทุกอย่างทึ่ไอ้หอยแคลงมันพูดและคอยดูแลไอ้หอยแคลงเป็นอย่างดี
และหลังจากนั้นบ่อยครั้งที่ไอ้หอยโข่งก็ไปหาตะกร้าไม่ใด้เหมือนเดิม เพราะตะกร้าไม่ใด้อยู่เพราะออกไปหาไอ้หอยแคลงบ่อยๆ
โดยที่บางครั้งตะกร้าใด้นัดกับไอ้หอยโข่งใว้ให้มาหา และไอ้หอยโข่งก็ใด้เดินทางมาครึ่งทางหรือใกล้จะถึงจุดที่ตะกร้าอยู่แล้วแต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะตะกร้าไม่ออกมาพบตามที่นัดกันใว้
โดยที่ตะกร้าให้เหตุผลว่าเจ้าของตะกร้ากำลังจะมาจึงไม่สามารถเจอกับไอ้หอยโข่งใด้ จึงต้องให้ตัวไอ้หอยโข่งนั้นกลับไปเสียก่อน
แต่ในความเป็นจริงแล้วคือในเวลานั้นไอ้หอยแคลงมันใด้ใช้ของไม่ดีสิ่งนั้นอยู่แล้วเกิดอารมมีความต้องการในตัวตะกร้าขึ้นมาในเวลานั้นมันจึงเรียกให้ตะกร้าไปหาและตะกร้าก็เต็มใจทีจะผิดนัดไอัหอยโข่งเพิ่อไปหาไอ้หอยแคลง
หลายครั้งที่ไอ้หอยโข่งน้ำตาใหลตลอดทางกลับ เพราะรู้ทุกอย่างอยู่เต็มหัวใจว่าตะกร้าใด้ไปกับไอ้หอยแคลงอีกแล้ว
แต่พอใด้พบกับตะกร้าก็ต้องยิ้มเป็นปรกติเหมือนไม่รู้อะใรทั้งนั้น ทั้งที่ในใจแทบจะทนไม่ใหวแล้วกับความจ็บปวดหัวใจแบบนี้
และยิ่งในบางครั้งที่ตะกร้าใด้มาคุยยกตัวอย่างถึงปรสปการณ์ของคนรู้จักว่ามีอาชีพที่ดีแบบนี้แบบนั้น (นั่นก็หมายถึงหอยแคลงนั่นเอง ) แนะนำเป็นแนวทางให้ไอ้หอยโข่งเรียนรู้ และจะใด้ทำตาม เพื่อที่ชีวิตจะใด้ดีขึ้น
ซึ่งไอ้ไอ้หอยโข่งก็รู้อยู่แล้วว่าคนรู้จักที่ตะกร้าหมายถึงนั้นก็คือไอ้หอยแคลงนั่นเองมันใด้แต่รู้สึกเจ็บในใจว่า ในสายตาของตะกร้านั้นมันดูโง่เง่ามากมายถึงเพียงนี้เลยหรอ จึงเป็นใด้แค่เด็กน้อยที่ต้องหัดเรียนรู้จากไอ้หอยแคลง และให้ทำตามเพื่อที่ชีวิตจะใด้ดีขึ้น นี่คงจะเป็นความกรุณาที่ตะกร้านั้นมีให้กับไอ้หอยโข่ง
อยู่ๆมาวันนึงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ขณะที่ตะกร้าและไอ้หอยแคลงนัดกันออกไปข้างนอก
เจ้าของไอ้หอยแคลงกลับมาและไม่เจอไอ้หอยแคลง จึงตรวจสอบและรู้ว่ามันออกไปกับตะกร้าแต่หาตัวไม่เจอว่าไปที่ใหนกัน
จากนั้นเจ้าของไอ้หอยแคลงจึงพยายามหาหลักฐานเพื่อที่จะมาทำลายตะกร้าทุกวิถีทาง
โดยการเอาหลักฐานมาขู่ระรานตะกร้าเพื่อให้ตะกร้าเลิกยุ่งกับไอ้หอยแคล แต่ตะกร้าไม่สนใจ
เจ้าของไอ้หอยแครงจึงเอาหลักเจ้าของตะกร้าดู เพื่อให้รู้ความจริงทุกอย่างและจะใด้ทำลายตะกร้า
แต่ไอ้หอยแคลงก็รู้ตัวก่อนแล้วมาบอกกับตะกร้าว่านั่นไม่ใช่เจ้าของมัน นั่นไม่ใช่เรื่องจริง พูดกล่อมตะกร้าจนเชื่อในสิ่งที่มันพูด
ตะกร้าจึงเชื่อไอ้หอยแคลงสนิทใจ(แสดงถึงการให้ความสำคัญมาก) ว่าไอ้หอยแคลงไม่ใด้มีเจ้าของจิงๆ
ตะกร้าจึงโกหกกับเจ้าของว่าไม่มีไอ้หอยแคลงอะใรทั้งนั้น และไม่มีเจ้าของไอ้หอยแคลงด้วย บอกว่าคนที่เข้ามาระรานสร้างเรื่องขึ้นเพื่อต้องการแค่ทรัพสิน
ขณะนั้นเจ้าของตะกร้าเข้าใจเรื่องราวและรู้ทุกสิ่งระหว่าตะกร้ากับไอ้หอยแคลงแล้ว แต่ไม่อาจทำร้ายตะกร้าใด้ลงคอ และไม่อยากเสียตะกร้าไปด้วยเช่นกัน
เจ้าของตะกร้าจึงไม่อยากรับรู้และวุ่นวายกับเรื่องนี้อีกเพราะไม่อยากเสียตะกร้าไปจึงแกล้งทำเป็นเขื่อที่ตะกร้าพูดว่าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริงแม้แต่น้อย และไม่ถามหาสาเหตุเพิ่มเติมอะใร
เจ้าของไอ้หอยแคลงไม่ยอมหยุดง่ายๆและเห็นว่าในตะกร้าว่ามีไอ้หอยโข่งอยู่ด้วย
จึงหวังจะใช้ไอ้หอยโข่งในการทำลายตะกร้าอีกทาง จึงพยายามเอาหลักฐานทั้งหมดที่บอกว่าแอบเอามาจากไอ้หอยแคลงให้ดู
ซึ่งหลักฐานบางอย่างตรงกันกับสิ่งที่ไอ้หอยโข่งรู้อยู่แล้ว และบางอย่างที่เกี่ยวกับความสำพัธระหว่างตะกร้ากับไอ้หอยแคลงที่มันบาดตาบาดใจไอ้หอยโข่งเป็นอย่างมาก
ม้นก็ถึงกับทำให้หัวใจของไอ้หอยโข่งแทบแตกสลายลงไปเลยทีเดียว มันเจ็บปวกกับสิ่งที่ใด้เห็นเป็นอย่างมากเกินกว่าคนทั้วไปจะทนใด้
แต่ด้วยความที่ไอ้หอยโข่งรักและบูชาตะกร้ามากมันจึงฝืนทำใจรับเรื่องทั้งหมดใด้ ต่อหน้าตะกร้ามันจึงแกล้งทำไม่รู้เรื่องต่อไป
ไอ้หอยโข่งพอรู้ว่าตะกร้าถูก ระรานก็พยายามหาเหตผลและหาวิธีจะปกป้องตะกร้าไม่ให้เดือดร้อนจากเรื่องนี้โดยแกล้งไม่รู้เรื่องต่อไป
แล้วพยายามถามเหตุการกับตะกร้าว่าเกิดอะใรขึ้นบ้างเพื่อที่จะหาว่าเจ้าของไอ้หอยแคลงรู้ใด้ยังใงและตามมาหาเจ้าของตะกร้าและตะกร้าเจอใด้ยังใง
แต่ตะกร้ากลับตอบบ่ายเบี่ยงและไม่พอใจที่ถูกไอ้หอยโข่งถามแบบนี้เป็นอย่างมากตะกร้าพยายามจบการสนทนาด้วยความไม่พอใจและไม่สนใจว่าไอ้หอยโข่งจะคิดยังใงก็ช่าง ( แสดงให้เห็นถึงว่าไอ้หอยโข่งไม่มีความสำคัญอะใรต่อตัวตะกร้า )
ไอ้หอยโข่งนั่งคิดก็นึกในใจใด้อย่างเดียวว่าไอ้หอยแคลงต้องทำอะใรบางอย่างกับตะกร้าในขณะที่กำลังเมามายกับของไม่ดีสิ่งนั้นที่มันใช้กับตะกร้า ใว้แน่ๆ แล้วเจ้าของมันก็คงแอบจับผิดและหาข้อมูลนั้นทั้งหมดมาจากไอ้หอยแคลงอีกทีเหมือนที่เจ้าของไอ้หอยแคลงใด้บอกมาจริงๆ
มันจึงพยามให้ตะกร้ารู้ว่ามันรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นใด้และยังรักตะกร้าเหมือนเดิมทุกอย่างอยากให้ตะกร้านั้นพูดความจริงออกมา
แต่ตะกร้ายังยืนยันว่าคนที่ระมาระรานไม่มีทางใด้ข้อมูลมาจากไอ้หอยแคลงเป็นเด็ดขาด ไม่ใช่เรื่องจริงเป็นอย่างแน่นอน (แสดงให้เห็นถึงความเชื่อใจ มีความสัคัญจนต้องปกป้อง) โดยไม่คิดระเเวงในตัวไอ้หอยแคลงเลย
เเละ ตะกร้าก็พยายามหาว่าถูกตามเจอใด้ยังใง และพูดขึ้นมากับไอ้หอยโข่งว่ามีของสิ่งนึงที่อยู่กับไอ้หอยโข่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกตามเจอและยังใด้ข้อมูลมาจากของสิ่งนั้นไปจึงจะของทวงคืน ( แสดงถึงความระแวงไม่ใว้ใจไอ้หอยโข่งเป็นอันดับแรกอย่างชัดเจน )
ทีแรกไอ้หอยโข่งด้วยความที่หัวช้าคิดไม่ทันจึงไม่ใด้สนใจในสิ่งนั้น แต่พอตะกร้าเริ่มทวงของสิ่งนั้นซ้ำๆ ไอ้หอยโข่งจึงบอกว่าของสิ่งนั้นไม่ใช่สาเหตุแน่นอนเพราะมันอยู่กับตัวเองไม่มีใครเตะต้องใดัแน่นอน แต่ตะกร้าก็ยังกำชับว่าให้เอาของสิ่งนั้นมาคืนให้จงใด้
ไอ้หอยโข่งจึงนึกขึ้นใด้ว่าที่ตะกร้าพูดถึงคือสงสัยว่าข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่คนที่มาระรานใด้มาจากของสิ่งนั้น
และ ของสิ่งนั้นยังเป็นสาเหตุที่ถูกตามตัวเจอและของสิ่งนั้นมันก็อยู่กับเรา เท่ากับว่าคนที่ตะกร้าสงสัยที่สุดเวลานึ้ก็คือเรานั่นเอง
ไอ้หอยโข่งถึงกับชาไปทั้งตัวและใด้แต่คิดว่าต้นเหตุมาจากไอ้หอยแคลงผู้ดูดีแท้ๆ ทำใมไม่ยอมสงสัยมัน
กลับมาสงสัยไอ้หอยโข่งโง่ๆที่ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ใด้เป็นด้วยซ้ำ
จากตรงจุดนี้จึงพิจรณาตัวเองและสรุปใด้ว่า
1. การที่ตะกร้าบอกเจ้าของว่าไม่ใช่เรื่องจริงเพราะตะกร้าไม่ต้องการเสึ่ยงที่จะจากเจ้าของไปแสดงว่าเจ้าของก็มีความสำคัญกับตะกร้ามาก
2. การที่ตะกร้าบอกไอ้หอยโข่งว่าข้อมูลและหลักฐานไม่ใด้หลุดมาจากไอ้หอยแคลงแน่นอนเป็นการปกป้อง ที่แสดงให้เห็นว่าเขื่อใจไอ้หอยแคลงเป็นอย่างมากและมีความสำคัญกับตะกร้ามากมากจนไม่อยาเเสียไป
3. การที่ตะกร้าสงสัยของที่อยู่กัยไอัหอยโข่งเป็นอันดับแรกและทวงคืนแสดงให้เห็นว่าไม่ใด้มีความใว้ใจและเชื่อใจในตัวไอ้หอยโข่งเลยแม้แค่น้อย
4. การที่ตะกร้าพยายามตัดบทและไม่สนใจว่าไอ้หอยโข่งจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแสดงให้เห็นว่าสำหรับตะกร้าไอ้หอยโข่งไม่ใด้มีค่าหรือความสำคัญอะใรที่จะต้องเสียเวลาธิบายให้มันเชื่อ
แงานละในที่สุดไอ้หอยโข่งก็ใด้นำของสิ่งนั้นมาส่งคืนให้กับตะกร้าจนสำเหร็จ และมันใด้สังเกตุเเห็นปฎิกริยาของตะกร้าที่มีให้กับมันในขณะนั้นแล้วมันยิ่งทำให้ไอ้หอยโข่งนั้นเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก
การที่ใด้รู้ว่าตะกร้านั้นมุ่งความสงสัยมาที่มันเป็นอันดับแรก หัวใจของไอ้หอยโข่งยิ่งแตกสลายไม่มีชิ้นดียิ่งกว่าใด้เห็นหลักฐานในความสำพันธ์ของตะกร้ากับไอ้หอยแคลงซะอีก
มันรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างที่สุด มันรู้สึกหมดความสำคัญในตัวเองที่มันคิดว่าเคยมีอยู่น้อยนิดอยู่แล้ว
มันจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยซ้ำ มันต้องการจบชีวิตตัวเองให้หายจากความเจ็บปวดแบบนี้
มันโมโหมากแต่ทำอะใรไม่ใด้จึงอึดอัดเป็นอย่างมากมันคิดถ้าให้มันเอาข้อมูลที่มันมีทั้งหมดบวกกับมูลของเจ้าของไอ้หอยแคลงที่มี ออกมาเปิดเผย ทุกอย่างคงจะพังทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของตะกร้าที่ยังไม่รู้ว่ามีไอ้หอยโข่งอีกตัวที่มายุ่งกับตะกร้า
หรือตัวตะกร้าเองก็คงถูกเจ้าของทอดทิ้งและไอ้หอยแคลงก็อาจชิ่งออกจากตะกร้าไปเพื่อเอาตัวรอดกลับไปอยู่กับเจ้าของมัน
และแน่นอนตัวไอ้หอยโขงเองก็จะถูกตะกร้าเกลียดเป็นที่สุดที่ทำแบบนี้ซึ่งมันทนให้เป็แบบนั้นไม่ใด้แน่นอน
แต่ด้วยความที่มันรักและเทิดทูนตะกร้ามากมันมีแต่ความหวังดีใหักับตะกร้ามาตลอด มันจึงคิดทำสิ่งสุดท้ายเพื่อตะกร้าก่อน ดีกว่าที่มันจะจบชีวิตลงไปเปล่าๆ
ไอ้หอยโข่งมันจึงทนเก็บทุกอย่างใว้กับตัวเองและไม่พูดถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอีก
ไอ้หอยโข่งมันจึงทนอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจที่เพิ่มขึ้นทุกๆวันเพื่อรอโอกาศใด้ทำในสิ่งที่มันคิด
และในครั้งนี้มันจะไม่ให้ใครมาคัดสิน ว่าสิ่งที่มันจะทำมันถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี แม้ว่าจะถูกมองว่าโง่งมจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตก็ตาม
สิ่งที่ไอ้หอยโข่งคิดจะทำก็คือการเดินทางไปในที่ที่แสนใกลเพื่อขายอวัยวะในร่างกายของมันบางอย่าง
และที่นั่นมันก็มีมูลค่ามากพอที่จะมาใช้แก้ใขปัญหาใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับตะกร้าใด้ทั้งหมด
โดยที่ถึงแม้มันจะไม่ใด้ตายลงไปในทีเดียวแต่ไอ้หอยโข่งมันก็ตั่งที่จะไม่กลับมาให้ตะกร้าใด้เห็นสภาพของมันเด็ดขาด
หรือแม้กระทั่งที่หนองโคลนของมันก็จะไม่มีใครใด้พบเจอตัวมันจนกว่ามันจะตายไปเองในที่ใหนสักแห่ง
ทั้งหมดนี้เพื่อที่ตะกร้าจะใด้ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรือเสียใจกับตัวตนที่ใร้ค่าของมัน
และในสิ่งสุดท้ายที่จะอยู่ในหัวของมัน คือมันคิดว่ามันจะใด้เห็นรอยยิ้มที่ปราดสจากความทุข์บนใบหน้าของตะกร้าตามที่มันตั่งใจแล้ว