การสร้างกิจวัตรที่ป้องกันสมองเสื่อม
การป้องกันตนเองจากภาวะสมองเสื่อมเกี่ยวข้องกับการเลือกวิถีชีวิตและนิสัยที่ส่งเสริมสุขภาพสมองผสมผสานกัน แม้ว่าจะไม่มีวิธีที่รับประกันว่าจะป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ แต่การวิจัยแนะนำว่ากลยุทธ์ต่อไปนี้อาจลดความเสี่ยงของคุณได้แค่คุณก็ควรทราบว่า พันธุกรรมสามารถมีบทบาทต่อความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ และไม่สามารถป้องกันได้ทุกกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตแบบมีสุขภาพดีสามารถลดความเสี่ยงและปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณได้อย่างมาก หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมหรือมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากประวัติครอบครัวหรือปัจจัยอื่นๆ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคลและการตรวจหาโรคตั้งแต่เนิ่นๆ
อีกทั้งการเป็นโรคสมองเสื่อมไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะในผู้สูงอายุ ดังควรมีกิจวัตรในการปฏิบัติตัวดังนี้
1. มีจิตใจที่เบิกบานพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ :
ท้าทายสมองของคุณด้วยข้อมูลใหม่ๆ โดยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น ปริศนา ปริศนาอักษรไขว้ หมากรุก หรือการเรียนรู้ภาษาใหม่
อ่านเป็นประจำ
2.ออกกำลังกายอยู่เสมอ:
การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม
ตั้งเป้าออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
3.รักษาอาหารเพื่อสุขภาพ:
รับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีนไร้ไขมัน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในปลาและเมล็ดแฟลกซ์อาจช่วยให้สุขภาพสมองดีขึ้นลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป
4.ควบคุมความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล:
ความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอลสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อจัดการเงื่อนไขเหล่านี้
5.จัดการโรคเบาหวาน:
รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับรู้ลดลง
6. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ:
ตั้งเป้าการนอนหลับอย่างต่อเนื่อง 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืนการนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้สติปัญญาบกพร่องได้
7. เข้าสังคม:
รักษาความสัมพันธ์ทางสังคมและมีส่วนร่วมในการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายกับเพื่อนและครอบครัวการมีส่วนร่วมทางสังคมช่วยให้สมองของคุณตื่นตัว
8.จัดการความเครียด:
ความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพสมอง ฝึกฝนเทคนิคการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือโยคะ
9.รักษาความชุ่มชื้น:
การขาดน้ำอาจทำให้การทำงานของการรับรู้ลดลง ดังนั้นควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
10.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป:
การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะสมองเสื่อม เลิกสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะหากเลย
11.ปกป้องศีรษะไม่ให้กระทบกระเทือน:
ป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะด้วยการสวมหมวกกันน็อคระหว่างเล่นกีฬาหรือขี่จักรยาน และระมัดระวังในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย
12. การตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
กำหนดเวลาการตรวจสุขภาพเป็นประจำกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อติดตามและจัดการสภาวะสุขภาพที่อาจส่งผลต่อสุขภาพสมองของคุณ





ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
พระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนา
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่
เฉลยแล้ว! 2 จุดอับใน "เครื่องซักผ้า" ที่หลายคนมองข้าม จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว
“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลก
ภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ
