จุดสิ้นสุด ของการรอคอย
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เราได้ลางานไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน 3 วัน 2 คืนแต่สุดท้ายพอถึงวันจะไป ก็โดนเพื่อนเทซะงั้น ก็เลยต้องนั่งเครื่องไปคนเดียวเพราะจองที่พักไว้หมดแล้ว พอไปถึงที่พักก็ตัดสินใจเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ขี่ตะเวนหาที่เที่ยวอยู่คนเดียวไปแบบงงๆ ถามตัวเองตลอดว่าทำไมถึงมาคนเดียวได้นะ ขับไปเที่ยวหลายที่รวมๆแล้วก็สนุกดี แต่ไปสะดุดตากับร้านกาแฟร้านนึง เป็นร้านไม้เล็กๆ ติดริมเขาวิวสวยมาก ในร้านมีรูปเต็มไปหมด ส่วนมากจะเป็นรูปนักท่องเที่ยว ที่มากินกาแฟที่ร้าน เราก็ขี่รถเข้าไปจอด เดินเข้าไปในร้าน ร้านดูเงียบๆไม่มีคนเพราะฝนพึ่งตกไป ก็ไปเจอกับพี่โจเจ้าของร้าน พี่โจก็แนะนำเมนูของทางร้านปกติ เราสั่งกาแฟมาก็นั่งกินกาแฟไปสักพัก หันไปเห็นรูปพี่โจถ่ายคู่กับแฟนอยู่ติดอยู่กับผนัง เป็นรูปเล็กๆไม่ใหญ่มาก ด้วยความที่ร้านมันเงียบเราก็เลยหาเรื่องคุย หันไปถามพี่โจว่า นี่รูปพี่กับแฟนหรอคะ
พี่โจตอบมาว่า "เปล่าแต่เป็นคนที่พี่รอคอย" เราก็งงกับคำตอบของพี่โจ แล้วก็อยากรู้ว่าพี่เค้าหมายความว่าอะไร เราเลยถามไปอีกว่า "แล้วแฟนพี่ไปไหน" พี่โจเงียบไปสักพัก แล้วพูดขึ้นมาว่า "อยากฟังไหมพี่จะเล่าให้ฟัง"เราก็พยักหน้า
แล้วพี่โจก็เล่าให้ฟังว่า "จริงๆแล้วพี่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ตอนนั้นพี่มีแฟน แล้วตัดสินใจจะมาเที่ยวเชียงใหม่กับแฟน แต่จับได้ว่าแฟนนอกใจมีคนอื่น ก็เลยมาเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวแบบคนอกหัก แล้วก็ได้ไปนั่งที่ร้านกาแฟร้านนึง วันนั้นเป็นวันที่6ตุลา พี่นั่งไปสักพัก ก็เห็นผู้หญิงคนนึงเดินร้องไห้ เข้ามาในร้าน เปียกฝนไปทั้งตัว ที่ขากับนิ้วเท้ามีเลือดออกซึมๆ เธอเดินไปนั่งโต๊ะริมสุดระเบียงของร้าน ยังไม่ทันได้สั่งอะไร เธอก็ก้มหน้าฟุบกับโต๊ะ แล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้น พี่นั่งดูสักแป๊บ ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปถาม ว่าให้ผมช่วยอะไรไหม เธอเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ แล้วบอกว่าเจ็บขา พี่ก็เลยตัดสินใจเดินไปถามพี่เจ้าของร้าน ว่ามีชุดทำแผลไหม เลยได้มานั่งทำแผลให้เธอ เธอบอกว่าหมาตัดหน้า เบรคไม่ทันรถล้ม พี่ฟังแล้วก็หลุดขำออกมาเลย พอเธอเห็นพี่ขำ เธอก็อมยิ้มแบบอายๆ พอทำแผลเสร็จ พี่ก็ถามว่าขี่รถไหวไหม เธอก็บอกว่าไหว แล้วก็แยกย้ายกันไป วันต่อมา พี่ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน เลยมาที่ร้านกาแฟร้านเดิม ก็เห็นผู้หญิงคนนี้ มานั่งอยู่ที่ร้านก่อนแล้ว เธอใส่หูฟัง นั่งอยู่ที่ริมระเบียงร้าน แล้วก็ดูเหม่อๆ พี่ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปทัก ถามว่าแผลเป็นยังไงบ้าง เป็นคนจังหวัดอะไร มาเที่ยวคนเดียวหรอ ก็ได้รู้ว่า เธอชื่อฟ้า อยู่นนทบุรี แล้วอายุเท่ากัน มาเที่ยวคนเดียวอยู่อาทิตย์กว่าแล้ว แต่พี่ก็สังเกต ว่าแววตาของฟ้า ทำไมดูเศร้าจัง แต่ก็ไม่อยากถามอะไรมาก พี่เลยถามฟ้าถึงเรื่องที่เที่ยวในเชียงใหม่ ฟ้าก็เลยอาสาพาเที่ยว ไปไหว้พระตามวัดต่างๆ หาของกินหลายที่ แล้วก็ไปจบที่ร้านเหล้า พอฟ้าเมา ก็ระบายความในใจออกมา พี่ถึงรู้ว่าฟ้าก็อกหักมาเหมือนกัน เราเล่าทุกอย่างให้กันฟัง เหมือนว่าสนิทกันมานาน เรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟแบบนี้อยู่ 2 วัน เพื่อที่จะไปหาที่เที่ยวต่างๆ ฟ้าเป็นคนน่ารัก สดใส ยอมรับเลยว่าพี่รู้สึกดีมากเวลาอยู่ใกล้ๆ พี่คิดว่าฟ้าก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน พอถึงวันที่พี่จะกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ พี่ก็ไปที่ร้านกาแฟร้านเดิม บอกฟ้าว่า พี่จะกลับกรุงเทพฯพรุ่งนี้ ขอเบอร์หรือที่อยู่ ของฟ้าได้ไหม ฟ้าก็เหมือนคิดอยู่สักพัก แล้วบอกมาว่า เราเจอกันครั้งแรกวันที่ 6 ตุลา ที่ร้านกาแฟตรงนี้ ปีหน้าของวันนี้ ถ้าเรายังใจตรงกันยังคิดเหมือนเดิม เรากลับไปเคลียร์เรื่องต่างๆของเรา แล้วกลับมาเจอกันอีกปีหน้าในวันที่ 6 ตุลา เจอกันที่นี่นะ พี่ก็ยอมรับว่างง แต่ก็เข้าใจว่าฟ้าก็อยากจะกลับไปเคลียร์ใจตัวเองก่อน แล้วก็ให้พี่ เคลียร์ใจตัวเองเหมือนกัน เลยบอกไปว่า ถ้าเราสองคนยังคิดเหมือนเดิม กลับมาเจอกันตรงนี้นะ แล้วก็แยกย้ายกันไป พี่กลับมาถึงกรุงเทพฯ แปลกที่ไม่รู้สึกเสียใจเรื่องแฟนเก่าเลย แล้วก็รู้สึกหายโกรธ พี่ทำงานต่อไปเรื่อยๆ ผ่านไปหลายเดือน จนวันหนึ่ง พี่หยิบกระเป๋าตังค์ออกมา หาบัตรธนาคาร คนไปค้นมา มีกระดาษใบเล็กๆตกออกมาจากกระเป๋าตังค์ ในกระดาษเขียนว่า "เราคงได้เจอกัน ในวันที่เราพร้อมจะรัก" พี่รู้เลยว่าฟ้าเป็นคนเขียน แล้วแอบเอามาใส่กระเป๋าตังค์พี่ ในวันที่ไปร้านเหล้าด้วยกัน พี่นั่งคิดทบทวนอยู่หลายเดือน ว่ารู้สึกยังไงกันแน่ แล้ววันที่ 6 ตุลา เราจะไปร้านกาแฟร้านนั้นหรือเปล่า พอถึงวันที่ 5 ตุลา พี่กลับไม่ลังเลเลย เก็บเสื้อผ้า แล้วลางาน นั่งเครื่องไปเชียงใหม่ในวันนั้น พอเช้าวันที่6ตุลา พี่ไปนั่งรอที่ร้านเดิม โต๊ะเดิมที่กับฟ้าเจอกันครั้งแรก พี่รอจนถึงเย็น ฟ้าก็ไม่มา พี่เลยคิดว่า เขาอาจจะลืมไปแล้ว หรือว่ากลับไปคืนดีกับแฟนแล้วหรือเปล่า ยอมรับเลยว่ารู้สึกเสียใจ พอถึงอีกวัน พี่ก็ตัดสินใจนั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ แล้วก็มานั่งคิดวนไปวนมา ว่าทำไมฟ้าถึงไม่ไป แต่ก็เข้าใจ ว่าคงมีเหตุผลของเค้าที่ไม่มา แต่พี่แค่อยากเจอฟ้าที่ซักครั้ง ถึงจะไม่ได้รักกันก็ไม่เป็นไร พี่ทำงาน ผ่านไปหลายเดือน ก็อดคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ระหว่างฟ้ากับพี่ไม่ได้ จนมาถึงวันที่ 6 ตุลา อีกครั้ง พี่ลังเล ว่าจะไปร้านกาแฟร้านนั้นอีกหรือป่าว ถ้าไปแล้วฟ้าจะมาไหม แต่ก็ต้องอดไป เพราะว่าช่วงนั้นมีเรื่องโรคโควิด แล้วพี่ก็ติดงานที่ยังแก้ไม่เสร็จ พี่ทำงานแบบนั้นผ่านมาอีกหลายเดือน จนวันหนึ่ง พี่ได้ไปดูงานที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ไปกับรุ่นน้อง 2 คนรุ่นน้องก็บอกว่า พี่เคยมาที่นี่ เสร็จงานแล้วพาผมเที่ยวหน่อย พี่ก็เลยพารุ่นน้องเที่ยว ขับไปเรื่อยๆ จนนึกขึ้นได้ ว่าที่นี่ อยู่ใกล้ๆกับร้านกาแฟร้านนั้น ที่เราเคยนัดเจอกับฟ้า พี่ตัดสินใจพารุ่นน้องขับรถไปที่ร้านกาแฟ ร้านนั้น พี่ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปเจอกับฟ้า เพราะเดือนที่พี่ไปคือเดือนมิถุนายน พี่ขับรถไปจนถึงร้าน ก็ไปเจอกับพี่เจ้าของร้านคนเดิม ร้านก็ยังสไตล์เดิมๆ มีรูปติดเต็มไปหมด แต่แล้ว พี่ก็ไปสะดุดตา กลับสองรูป ที่ติดกับผนังของร้าน มันคือรูปของฟ้า เขียนหลังรูปว่า 6 ตุลา และอีกรูป ก็ที่ 6 ตุลา พี่เลยหยิบ2รูปนั้นขึ้นมา มาถามพี่เจ้าของร้าน ว่าผู้หญิงในรูป มาที่ร้านใช่ไหม พี่เจ้าของร้านบอกว่าใช่ พี่เจ้าของร้านจำได้ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ผู้หญิงคนนี้ มาที่ร้านก่อนร้านจะปิดช่วงค่ำ และถัดมาอีกปี เธอก็มานั่งที่ร้านตั้งแต่เช้าจนร้านปิด พี่ฟังพี่เจ้าของร้านพูด อยู่ๆน้ำตาพี่ก็ไหล เพราะวันที่ 6 ตุลา เมื่อ 2 ปีก่อนพี่กลับไปตอนช่วงเย็น แต่ฟ้ามาช่วงค่ำ แล้ว 6 ตุลาปีที่แล้ว พี่ก็ติดงานไม่ได้มา พี่คิดในใจว่า อีก 4 เดือนจะถึงเดือนตุลาคมพอดี พี่จะมาที่นี่เพื่อเจอฟ้าอีกให้ได้ เลยบอกกับพี่เจ้าของร้านไปว่า เดี๋ยวอีก 4 เดือนผมจะมาใหม่ แต่พี่เจ้าของร้านบอกว่า เดือนหน้า เขาจะปิดกิจการแล้ว เพราะช่วงนี้ขายไม่ค่อยดี พี่นั่งอยู่ที่ร้านสักพัก เลยตัดสินใจว่าจะเซ้งร้านต่อ เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ พี่คงไม่ได้เจอฟ้าอีกตลอดไป และร้านนั้น ก็คือร้านที่เราอยู่อยู่ตอนนี้
เราฟังพี่เจ้าของร้านพูดจนจบ เราถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะถามอะไรต่อเลย ช่วงที่เรากำลังนึกคำถามอยู่นั้น ก็มีผู้หญิงคนนึง เดินออกมาจากหลังร้าน ยิ้มให้เรา แล้วหันมาพูดกับพี่โจว่า "หมออะไรให้ลูกค้าฟังอีกละ" เรานี่ถึงกับยิ้มหน้าบานเลย เพราะคำถามที่เราจะถาม มันมีคำตอบให้เราแล้ว ใช่ค่ะ ผู้หญิงคนที่เดินมาจากหลังร้าน คือพี่ฟ้า คนที่พี่โจพูดถึง พวกเขาได้เจอกัน ในวันที่ 6 ตุลา ค่ะเขาทำร้านร่วมกัน และได้รักกัน จากคำพูดที่เขาเคยให้ไว้ ทั้งคู่ดูมีความสุขมาก แต่คนที่มีความสุขกว่าคือเราเอง ที่ได้ฟังเรื่องราวอะไรดีๆแบบนี้จากพี่โจ เป็นเรื่องเล่าที่ ทำให้เรายิ้ม และมีความสุขที่ได้ฟัง
เรื่องนี้คือเรื่องจริง ที่เรานำมาเขียน สอดแทรกเนื้อหาเพิ่มเติม อ่านเพื่อเอาสนุกนะคะ อ่านเพื่อให้รู้ว่า จุดเริ่มต้นความรักแบบนี้ก็มีอยู่บนโลก ขอบคุณค่ะ
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เจาะเลขเด็ดปกสลาก งวด 2 ม.ค. 69 ต้อนรับปีใหม่ปีมะเมียทอง
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
เอกสารลับ หลุด แฉคําสั่ง แผนสังหๅร 2 พ่อลูกตระกลูฮุน
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ทหารไทยโค่น "รูปปั้นเขมร" หลังจากยึดแผ่นดินไทยคืนได้สำเร็จ
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
ทฤษฎี 3 เดือน ทฤษฎีของการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ
ญี่ปุ่นยกระดับเกณฑ์การขอวีซ่าถาวร! จะเพิ่มความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในข้อกำหนดสำหรับการยื่นขอใบอนุญาต
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
"สังขละบุรี" เส้นทางเดินลงสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับที่สามของโลก สวยงามแข็งแรงอากาศหนาวไอหมอกสวยในยามเช้ามืด
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
เราอยู่ได้เพราะว่ามีเธอ ไม่ว่าจะไปไหนก็อยู่ได้ ฉายาลูกชิ้นกินได้ตลอด (ในพนมเปญ)
ท่องตลาดราตรี วันอังคารและวันพฤหัสบดี สีสันยามเย็นของอาหารและแฟชั่นจากไทย (พนมเปญ)

