สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 : สถานที่ท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 เป็นสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์จากทั่วโลก สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 แบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ ยุคโบราณ และยุคใหม่
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ
- มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) ประเทศอียิปต์
มหาพีระมิดแห่งกีซาเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นสุสานของฟาโรห์คูฟู ผู้ปกครองอียิปต์โบราณ มหาพีระมิดแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินทรายกว่า 2.3 ล้านก้อน ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี
สวนลอยแห่งบาบิโลนเป็นสวนลอยที่สร้างขึ้นบนหลังคาพระราชวังของกษัตริย์เนบูชาดเนซาร์ที่ 2 สวนแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสวนดอกไม้และต้นไม้นานาชนิด มีน้ำพุและน้ำตกไหลรินอยู่ทั่วสวน สวนลอยแห่งบาบิโลนเป็นสวนที่งดงามและน่าอัศจรรย์ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
- เทวรูปซูสที่โอลิมเปีย (The Statue of Zeus at Olympia) ประเทศกรีซ
เทวรูปซูสที่โอลิมเปียเป็นเทวรูปทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ สูงประมาณ 12 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่เทพซูส เทวรูปแห่งนี้เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของศิลปะกรีกโบราณ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
- วิหารอาร์ทิมีส (The Temple of Artemis at Ephesus) ประเทศตุรกี
วิหารอาร์ทิมีสเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีอาร์เทมิส เทพีแห่งการล่าสัตว์และความอุดมสมบูรณ์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาว ประดับด้วยประติมากรรมและภาพแกะสลักที่สวยงาม แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
- สุสานแห่งฮาลิคาร์นัสซัส (Mausoleum at Halicarnassus) ประเทศตุรกี
ภาพวาดในจินตนาการเมื่อปี ค.ศ. 1572 ของสุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิส ภาพ wikipediaสุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิสจำลองที่ Miniatürk อีสตันบูล ภาพ wikipedia
สุสานแห่งฮาลิคาร์นัสซัสเป็นสุสานของกษัตริย์เมมนอน ผู้ปกครองเมืองฮาลิคาร์นัสซัส สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาว ประดับด้วยประติมากรรมและภาพแกะสลักที่สวยงาม แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
โคลอสเซียมเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโรมัน เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก
โคลอสเซียมมีรูปทรงวงรี เส้นรอบวงยาวประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000-80,000 คน สร้างขึ้นด้วยหินทรายและอิฐ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี
โคลอสเซียมถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาและการแสดงต่างๆ มากมาย เช่น การต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ การต่อสู้ของสัตว์ป่า และการแสดงละคร โคลอสเซียมจึงเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของกรุงโรม
หอเอนเมืองปิซาเป็นหอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
หอเอนเมืองปิซามีรูปทรงกระบอก 8 ชั้น สูง 56 เมตร เอน 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร
หอเอนเมืองปิซาเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1173 แต่เนื่องจากพื้นดินใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้หอเริ่มเอนตั้งแต่ชั้นที่ 3 การก่อสร้างจึงหยุดชะงักไปหลายครั้ง จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1372
หอเอนเมืองปิซาเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หอแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปิซาและประเทศอิตาลี
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
- กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ กำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,000 กิโลเมตร ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2,000 ปี
ชิเชน อิตซาเป็นเมืองโบราณของชาวมายา ตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูคาทาน ประเทศเม็กซิโก ชิเชน อิตซาเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 10-15 เมืองแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากมาย เช่น ปิรามิดคุคูลกาน สนามบอล และเสาหินคอลัมน์
รูปสลักพระเยซูคริสต์เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของบราซิล ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอร์กอฟado ประเทศบราซิล รูปสลักแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชาวบราซิลที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1
มาชูปิกชูเป็นเมืองโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู มาชูปิกชูเป็นเมืองที่ถูกทิ้งร้างไปเป็นเวลาหลายศตวรรษ จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งในปี 1911
นครเพตราเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศจอร์แดน นครแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวนาบาเทียน นครเพตราเป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหินทรายสีแดง
เจดีย์ทาเจมาฮาลเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชาห์จาฮาน เพื่อรำลึกถึงภรรยาที่เสียชีวิต เจดีย์แห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่งดงามและทรงพลัง
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ
การได้เดินทางไปสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 ด้วยตัวเอง เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าจดจำ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ต่างๆ ได้เห็นความยิ่งใหญ่และงดงามของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ด้วยตาตนเอง
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินและนักสร้างสรรค์มากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความมหัศจรรย์และความยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้
หากมีโอกาส อย่าลืมเดินทางไปสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ที่มาของข้อมูลสำหรับกระทู้สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 มีดังนี้
* ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 มาจากเว็บไซต์ Wikipedia
* ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 เช่น ประวัติความเป็นมา ลักษณะทางสถาปัตยกรรม และสถานที่ตั้ง มาจากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ขององค์การยูเนสโก เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ และเว็บไซต์ท่องเที่ยวทั่วไป
* ข้อมูลเกี่ยวกับความน่าสนใจของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 มาจากความคิดเห็นส่วนตัวของผมเอง
ผมได้พยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาอย่างครบถ้วนและถูกต้องที่สุด เพื่อให้ผู้อ่านได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้ง 7 เป็นอย่างดี