หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้น: ฝัน /ฉ่ำ /รัก

เนื้อหาโดย หนามดอกงิ้ว

นาฬิการูปตัวการ์ตูนที่แขวนอยู่ข้างห้องบอกเวลาเพิ่ง 2 ทุ่มกว่าๆ เท่านั้น  ผมย้ายสายตากลับมาที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง  ซึ่งเวลานี้เม็ดฝนกำลังเหยียบย้ำพื้นดินเป็นจังหวะแผ่วเบาคล้ายดนตรีเต้นรำที่เชื่องช้าทว่านุ่มนวล   ผมชักอยากเต้นรำจังหวะสายฝนดูสักครั้งหากแต่ไม่กังวลงานที่กองอยู่เต็มโต๊ะตรงหน้า

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่ตัวผมเองตะเกียดตะกายเร่งให้ตัวเองจบเร็วๆ และใช้ชีวิตของคนทำงานเร็วกว่าคนอื่น ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วในเวลานี้เพื่อนๆรุ่นผมคงอยู่แค่ปี 3 ในขณะที่ผมทำงานมัณฑนากรได้เกือบ 2 ปีแล้ว ความจริงผมเรียนรู้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนมาตั้งแต่เรียน ม.ต้นแล้วและเริ่มชินขึ้นเรื่อยๆ เป็นความจำเป็นของทางบ้านที่ส่งผมเรียนอย่างที่ผมตั้งใจไม่ได้

ผมจึงต้องแสวงหาสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง เวลาส่วนใหญ่ของผมจึงมีแค่เรื่องเรียนและงาน ต้องรู้จักที่จะปรับตัวเองเข้ากับสังคมที่หาความจริงใจยากขึ้นทุกวัน ต้องคอยหลบเหลี่ยมคนที่จะมาเอาเปรียบ ผมไม่เคยคิดเอาเปรียบใครแต่ก็ไม่ต้องการให้ใครมาเอาเปรียบด้วย และนี้ก็คือข้อแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆของผม ที่มักจะมองว่าผมเป็น “คนแก่”  แก่คิดนะ  

 ผมรอบคอบเสมอและเรื่องเวลาจะไม่ให้เสียอย่างสูญเปล่ามนขณะที่ผมทำงานอย่างหนักเพื่อแลกกับเงินค่าลงทะเบียนเรียนต่อ แต่เพื่อนๆของผมส่วนใหญ่กลับเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน มีเวลามากพอกับการดูหนังเดินเที่ยวห้างติดแอร์เย็นช่ำ และจีบสาวๆไปทั่ว บ่อยครั้งที่คิดอิจฉาเพื่อนตัวเอง น้อยใจ แต่ก็ภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาในปัจจุบันที่เป็นอยู่ ผมมีเงินพอส่งน้องๆ อีก 2 คน ที่กำลังเรียน ม.ต้น มีเงินให้พ่อกับแม่ใช้และมีใช้ส่วนตัวถึงเวลานี้ผมจะไม่ได้อยู่กับพวกท่าน ผมเช่าห้องอยู่ใกล้ๆที่ทำงานและบ่อยครั้งที่เอางานกลับมาทำที่ห้องซึ่งผมเรียกว่า “บ้าน” เหมือนกันอย่างน้อยมันก็อบอุ่นเวลาที่ผมไม่มีใครและไม่มีที่ไปในช่วงความรู้สึกหนึ่งที่เดียวดาย

ผมขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินชงกาแฟมานั่งจิบที่เดิมอีกครั้ง ผมตั้งใจหยิบเอกสารชุดหนึ่งขึ้นมาแต่สายตาก็เหลือบไปเห็นซองจดหมายที่ถูกทับไว้ด้วยหนังสือเล่มหนา ยังไม่ได้มีการแกะอ่าน...โอ้ว...ผมนี้แย่ขนาดลืมอ่านจดหมายซองสีฟ้าสดใสอย่างนี้ได้ยังไงกัน    ผมรีบคว้ากรรไกรที่อยู่ใกล้ตัวมาขริบที่ซองอย่างถนุถนอม  ถึงไม่ต้องอ่านดูข้างในผมก็รู้ว่าของใคร ผมจำลายมือของเจ้าของจดหมายฉบับนี้ได้ดีพอๆกับภาพของเจ้าของจดหมายฉบับนี้ที่เด่นชัดไม่เคยจืดจางในหัวใจ ก็เธอนะคือแรงของหัวใจผมที่ทำให้ก้าวเดินไปทุกๆก้าวอย่างมั่นคง เธอคือ “พราย” ที่น่ารักที่สุดของผมแม้ผมจะไม่เคยบอกเธอเลยสักครั้งกับเรื่องราวของหัวใจที่แอบซึมซับเอาตัวเธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

เธอเป็นคนเดียวที่ยังติดต่อทางจดหมายแบบนี้

ผมออกแปลกใจเล็กน้อยที่ครั้งนี้พรายเขียนจดหมายถึงผมไม่กี่บรรทัด แต่ผมก็พยายามเข้าใจในส่วนที่เป็นตัวเธอ ผมกับพรายรู้จักกันโดยบังเอิญตอนที่ผมไปสอบเทียบ ม.6 ในขณะที่คนอื่นๆกำลังดูหนังสือเพื่อเตรียมสอบแต่เธอกลับนั่งเล็มผมที่ดูเหมือนแตกปลายนั้นด้วยกรรไกรอันเล็กๆ ที่อยู่ในมีดพับ เราบังเอิญสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะเสมองไปทางอื่น    ผมจำแววตาที่เต็มไปด้วยความฝันของเธอได้มันโตกลมและดูวาววามเหลือเกิน แล้วเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดอีกครั้ง ผมกับเธอสอบห้องเดียวกันอีก ผมจึงแอบดูชื่อจริงของเธอจากหมายเลขที่เธอนั่งสอบ ผมไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกหลังจากวันนั้น แต่เรากลับเจอกันอีกครั้งตอนที่ผมทำงานอยู่ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งซึ่งผมหารายได้พิเศษช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่นี้และว่างก็หยิบหนังสือที่ต้องจัดบ่อยๆ มาอ่านบ้างเหมือนกัน “ชื่อพรายแพรวค่ะ”

ผมยังจำประโยคแรกที่เธอเอ่ยขึ้นได้ ผมสะดุ้งเล็กน้อยในครั้งนั้น เพราะขณะนั้นผมกำลังยุ่งอยู่กับการคิดเงินให้ลูกค้า แล้วบังเอิญที่พี่หัวหน้าส่งพนักงานคนใหม่มาช่วยผม ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นเธอ

“ให้เรียกชื่อ “โคม” หรือเรียกพี่โคม”  เธอถามในเย็นวันนั้นที่เราช่วยกันเช็คหนังสือที่ร้านเขาเอามาส่ง

“แล้วแต่พรายเถอะ”  ผมตอบแบบไม่มองหน้าพยายามทำตัวให้ดูเป็นรุ่นพี่ในนี้หน่อย ก็เผื่อเธอมีอะไรไม่เข้าใจจะปรึกษาผมได้ 

“งั้นเรียกโคมเฉยๆนะ เพราะยังไงโคมก็แก่กว่าแค่ปีเดียวเอง”  เธอเอ่ยขึ้นผมแอบมองเห็นเธอยิ้มอย่างรู้ทัน

นับตั้งแต่นั้นผมเจอพรายบ่อยแต่ก็ยังเถียงใจตัวเองว่าเธอก็แค่คนผ่านมาให้รู้จักเท่านั้น แต่ผมก็รู้จักเรื่องของเธอมากมายเหลือเกิน พรายเองก็มีส่วนคล้ายๆที่ผมเป็นและเจออยู่ในเวลานั้น เพียงแต่เธอต้องการให้พ่อของเธอรู้ว่าเธอตั้งใจในสิ่งที่เธอและสามารถเลี้ยงตัวเองได้

พรายตั้งใจเรียนศิลป์ในขณะที่ทางบ้านต้องการให้เธอเรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจจะได้ช่วยงานที่บ้าน เธอจึงออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนสาวคนหนึ่งและทำงานพิเศษที่เดียวกับผม บ่อยครั้งที่เห็นเธอยืนดูหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและดนตรีอยู่นาน

“โคมชอบสีอะไร”  ผมออกจะงงๆในคำถามแต่ละครั้งของเธอ คิดอยากจะถามก็ถาม จะกระโดไปเรื่องอื่นก็พูดได้เรื่อยๆ

“สีเขียว”

“เขียวแบบไหน...เขียวอ่อนเขียวแก่...อะไรแบบนั้น”   ผมนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบคำถามของสาวแววตาสวยใสเหมือนชื่อของเธอ

“เขียวอ่อน...แบบใบไม้ที่เพิ่งผลิใบ”

“โอ้โหแหะ...ไม่เบาแฮะ”   เธอว่าแล้วดีดนิ้วดังเปาะก่อนที่จะกระโดดซ้อนมอเตอร์ไซด์เก่าๆของผมช่วงนั้นผมต้องพาเธอไปขึ้นรถเมล์ที่อู่รถ ก็มันอยู่ใกล้ที่พักของผม

“ถามทำไม”

“จะเพ้นท์เสื้อให้โคมสักตัวนะ”  เธอตอบเสียงดังแข่งกับเสียงลมที่เร็วขึ้นตามแรงบิดคันเร่งของผม

“ของฟรีหรือเปล่า”

ผมถามเมื่อส่งเธอตามที่หมายเธอพยักหน้าก่อนโบกมือลา   เล่นเอาคนแถวนั้นมองผมเป็นตาเดียวแล้วอีกสัปดาห์ถัดมาเสื้อยืดพื้นสีขาวสะอาดก็ถูกส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์   พรายเพ้นท์รูปตะเกียงที่มีเปลวไฟสีเขียวอ่อนอย่างที่ผมชอบมาให้   เธอแนบจดหมายมาด้วย ผมจึงรู้ว่าเธอย้ายไปอยู่แพร่กับอาแท้ๆของเธอที่เข้าใจว่าเธอต้องการเรียนสิ่งใด  เธอไม่ได้เพ้นท์เสื้อให้ผมคนเดียวหรอก แต่ยังรวมถึงพี่หัวหน้าและคนที่เธอนับเป็นเพื่อนด้วย  แต่สำหรับผมแล้วถือเป็นมิตรภาพอย่างหนึ่งที่ต้องรักษาไว้

 ผมตอบจดหมายของเธอตามที่อยู่ที่เธอเขียนไว้ที่มุมบนของจดหมาย แล้วเรื่องราวต่างระหว่างผมและพรายก็ติดตามมา ผมเริ่มรอจดหมายของเธอเมื่อหายไปนานๆและเป็นห่วงเธอเสมอ เธอเองก็ดูจะห่วงผมที่ชอบเก็บเอาคำพูดของคนอื่นมาคิดจนน้อยใจและเสียใจบ้างบางเวลา   บางครั้งดอกไม้แห้งที่บรรจุในกล่องอย่างดีก็เดินทางมาถึงพร้อมกับถ้อยคำที่เป็นห่วงเป็นใย   ผมไม่อยากเข้าข้างใจตัวเองว่าเธอมีผมเพียงคนเดียวที่เธอห่วงอย่างนี้    ก็ขนาดเสื้อเธอยังเพ้นท์แจกได้ แล้วถ้อยคำแห่งกำลังใจเธอคงมีให้ใครได้ไม่ยากนัก เธอมีอารมณ์อ่อนไหว ผมไม่รู้ว่าเธอมี “ใคร” ในหัวใจหรือยัง หรือมองผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น แต่ผมรู้เพียงว่าเธอยังเป็นคนที่ผมคิดถึงยามไม่มีใครและผมก็ยังไม่คิดจะมีใครเรื่อยมา ผมรอวันที่ผมกล้าแกร่งกว่านี้จะหอบเอาความรู้สึกที่มีมากองไว้ที่หัวใจเธอและบอกเธอว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเธอ หรือผมต้องรอเลี้ยงดูความรู้สึกของหัวใจตัวเองให้แน่ใจก่อนที่จะไปถามเธอกับความรู้สึกแบบนี้ที่ผมตั้งใจจะมีให้ผู้หญิงคนเดียวในหัวใจที่พร้อมจะเข้าใจทุกๆเรื่องราวที่เป็นตัวผมและยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ ผมก็จะยอมรับทุกสิ่งที่เป็นเธอ ผมไม่ชอบเปลี่ยนใครให้เป็นอย่างที่ผมชอบผมเพียงแต่อยากให้ปรับเข้าหากันมากกว่า

ผมซบหน้าลงกับโต๊ะเขียนแบบ หลับตานิ่งระบายลมหายใจช้าๆ บางทีการที่เราไม่เคยมีใครในหัวใจเลยก็คงยากตรงนี้แหละมั้ง...ตรงที่เราควรทำอย่างไร ดีถึงจะดี กลัวจะถูกหาว่าเรื่องมาก

เสียงเคาะประตู 3-4 ครั้งทำเอาผมสะดุ้งและรีบลุกขึ้นจะไปเปิดประตู แต่สายตาก็ยังมองไปที่นาฬิกาแขวนตัวการ์ตูนนั้นอีกครั้ง เกือบ 4 ทุ่มแล้วนะใครกัน

“สวัสดีโคม”

“พราย”

“ค่ะ”  

 ผมนิ่งอึ้งทันทีที่ประตูถูกเปิดออกก็ใครจะไปรู้ว่าคนที่กำลังคิดถึงมายืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้

“เข้าไปได้หรือเปล่า”

“อ่ะ...ขอโทษเชิญ”    ผมรีบเบี่ยงตัวให้เธอเข้ามาในห้อง ตัวเธอเปียกโชกเส้นผมที่ยาวสยายก็เปียกปอน ผมรีบหาเสื้อให้เธอเปลี่ยนก่อนที่คำถามอื่นๆจะตามมาอีกมากมาย

“ขอโทษนะที่ต้องมายืมเสื้อโคมแถมทำบ้านโคมเลอะอีกด้วย พอดีพรายเดินเล่นน้ำฝนนานไปหน่อยน่ะ”

“เดินตากฝนเล่น เดี๋ยวก็ได้ไปนอนโรงพยาบาลเล่นบ้างหรอก”  ผมว่าพลางเช็ดเส้นผมที่ชุ่มน้ำของพรายเบาๆดูเหมือนเสื้อผ้าของผมจะใหญ่กว่าตัวเธอเยอะเลย แน่ะ...ดูซิ ผมเพิ่งว่าไปน่ะเมื่อกี้ยังจะมาหัวเราะอยู่ได้ มันน่าเอามากอดเล่นให้หายดื้อเสียจริงแม่ติสก์สาวคนนี้

“โคมงานยุ่งอยู่หรือเปล่า”   เธอถามพลางรับถ้วยกาแฟจากมือผม

“เรื่อยๆน่ะ พรายล่ะมายังไง ทำไมจู่ๆมาตกใจหมดเลย”

“โอ๋...ขวัญอ่อนจริงนะ นี่พรายแพรวค่ะไม่ใช่พรายที่เป็นผีนะ”   เธอชี้นิ้วที่ตัวเองแสดงท่าประกอบจนดูน่าหมั่นไส้แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ แบบที่เป็นพรายที่ผมรู้จัก

“ถามจริงๆมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”  ผมถามเสียงจริงจัง และเธอคงรู้ด้วยสายตามราตอบกลับมา

“ถ้าบอกจะเชื่อไหม”  เธอถามกลับเบาๆ ก้มหน้านิ่งผมลงไปคุกเข่าข้างหน้าเธอ หากเธอมีน้ำตา ขอให้ผมเป็นคนซับมันออกจากใบหน้าสวยใสของเธอ พรายเอียงหน้ามาทางผม ริมฝีปากของเธออยู่ริมหูของผม รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่กระทบกับผิวของผม

“พรายคิดถึงโคมเหลือเกิน”

เพียงประโยคสั้นๆที่เธอกระซิบบอกผมก็เหมือนอยู่ในฝันที่แสนหวาน ผมสบตากับพรายที่ไม่มีท่าทีเขินอายเหมือนหญิงสาวทั่วไป หากแต่แววตาของเธอบอกว่าเธอไม่ได้โกหก สายตาของเธอมันกำลังบอกผมว่าเธอ “เหงาเหลือเกิน” ในเวลานี้ แล้วผมควรทำอย่างไรในเวลานี้ดีน่ะ

“พรายมาหาโคมเพื่อบอกประโยคนี้กับโคมเหรอ

“ไม่รู้สิ”  เธอตอบเบาๆพลางเสยเส้นผมที่ลงมาเคลียแก้มสวยของเธอ 

“พรายแค่...นึงถึงโคม  ไม่รู้ซิ...เวลาพรายนึกอะไรไม่ออกจะคิดถึงโคมเสมอ ก็อย่างน้อยพรายมีโคมที่เข้าใจความรู้สึกของพรายดี ถึงรอบๆตัวพรายจะมีคนอยู่มากมายแต่ก็ไม่มีใครเข้าใจพรายและห่วงใยพราย อย่างที่โคมเป็นอยู่ พราย...พรายอยากเจอโคมเหลือเกิน”

น้ำตาหยดใสๆ รินไหลจากดวงตาช่างฝันของพราย ผมโน้มตัวกอดพรายเบาๆ ให้เธอได้ยินเสียงหัวใจของผม ที่มันยังคงร่ำร้องชื่อของผู้หญิงดวงตาที่เต็มไปดวงความฝันมากมาย ผมได้ยินเสียงสะอื้นจากเธอ ใครนะ บังอาจทำดอกไม้ของผมเสียใจ เรื่องอะไรที่ทำให้เธออ่อนแอขนาดนี้คำถามมากมายผุดขึ้นในสมองของผม แต่ไม่อาจเอ่ยถามออกมาได้ เพียงเพราะคนที่อยู่ในอ้อมกอดไม่พร้อมที่จะโดนรุมล้อมด้วยคำถามซึ่งอาจเป็นปัญหาที่เธอไม่อยากคิดจะเจอมันในเวลานี้ ผมได้แต่ลูบเส้นผมของเธอแผ่วเบาคล้ายปลุกปลอบปล่อยให้เธอสะอื้นอยู่กับอกของผมจนรู้สึกถึงความชื้นจากหยดน้ำตาของพราย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากแบ่งหยดน้ำตาและความเจ็บช้ำมาที่ตัวผม อย่างน้อยให้เธอปวดเจ็บน้อยที่สุด

“โคมคงไม่ว่านะที่มีผู้หญิงมาหาตอนกลางคืนแล้วก็มาร้องไห้อยู่อย่างนี้”  เธอเอ่ยขึ้นแล้วดันตัวเองออกมาจากอกของผม รู้สึกเสียดายลึกๆ เสียดายที่เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน 

“ไม่หรอก...คนอื่นจะว่ายังไงโคมไม่เคยสนใจ ที่โคมสนใจคือตัวพรายและทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นพรายเพราะโคมไม่ได้อยู่ใกล้ๆพรายและรับรู้เรื่องราวว่าพรายเป็นยังไง นอกจากที่พรายเขียนมาเล่าทางจดหมายเท่านั้น แต่โคมก็อยากให้พรายรู้ว่าถึงยังไงพรายจะยังมีโคมเสมอทุกเวลาที่พรายต้องการ”

ผมเห็นพรายยิ้ม เธอยิ้มทั้งน้ำตา ผมจะเช็ดหยดน้ำที่ใบหน้าของเธอก็เช็ดมันออกเสียเอง

“พรายจะไม่ขี้แยอีกแล้วล่ะ พรายจะเช็ดน้ำตาด้วยตัวพรายเอง พรายดีใจที่รู้ว่าโคมยังเข้าใจพรายเสมอ”

ผมเอื้อมมือไปขยี้เส้นผมของพรายเล่น เธอพยายามปัดมือของผมออกจนผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นสนุกอยู่กับเด็กน้อยขี้แย ผมรวบมือแสนซนของติสก์สาวไว้แล้วช้อนปลายคางขึ้นแผ่วเบา จ้องมองดวงตาที่เวลานี้ไร้หยดน้ำตาอีกต่อไป

“พราย...โคม...เอ่อ...”

ทุกคำพูดดูจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เมื่อเธอยื่นหน้ามาแล้วจูบปากผมเบาๆ  กลายเป็นผมที่ทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้เรียวลิ้นของเธอแทรกเข้าไปในปากของผม ลิ้นของเราแตะกัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน   มือบางทาบที่แผงอกเพราะการทำงานหนักและเป็นงานออกแรงทำให้ผมทีแผงอกอย่างกับคนออกกำลังกาย  การรุกของพรายทำให้ผมต้องใช้ผนังห้องที่ที่พึ่ง มือนั้นเลื่อนลงมาที่ขอบกางเกงทั้งที่ลิ้นเรายังไม่ห่างจากกัน

มือนุ่มนิ่มของเธอทำให้น้องชายของผมแข็งขึ้นมา  เธอถอนจูบแล้วจ้องตาผมนิ่ง  แววตาเธอเหมือนมีเปลวเพลิงเต้นระริก  แล้วเธอก็ค่อยๆนั่งลง มือหนึ่งเปิดเสื้อผมขึ้น ลมหายใจเธออยู่ตรงหน้าท้อง  เธอแหย่ลิ้นเข้าไปไล้เลียสะดื้อของผม

ผมได้แต่ครางออกมา จับศีรษะของเธอ รวบผมยาวของเธอขยุ้มไว้บนศีรษะเพราะจะได้มองเห็นใบหน้าเธอชัด  นาทีต่อมา เธอปลดกางเกงของผมลงไปกองกับข้อเท้า  มือนุ่มขยับท่อนเนื้อทั้งกางเกงชั้นใน มันแข็งจนแทบจะเป็นท่อนไม้ แล้วเธอก็กัดมันเบาๆ คงเพราะมีผ้าขวางอยู่ ฟันของเธอถึงไม่โดนท่อนเนื้อของผม  แต่มันกลับเสียวจนผมอยากจะควักมันออกมาสูดอากาศข้างนอก  

พรายคงรู้ความต้องการของผม เธอรูดกางเกงในของผมลง ท่อนเอ็นมันก็เด้งออกมา  ลิ้นของเธอไล้เลียส่วนปลาย แค่แตะเบาๆ ผมก็แทบจะสำลักความสุขตายอยู่แล้ว ยิ่งเธอละเลงลิ้นไปรอบๆหัว แล้วดูดมันเข้าไปในปาก ผมเห็นแก้มเธอตอบไปทันทีมันมาพร้อมความเสียวกระสันอย่างที่สุด

“อาห์”

“ชอบไหม?”

“ฮืม”

“ยังไงล่ะ”

“โธ่! พราย! เสียวน้ำจะแตก!”

ผมเสียวจนพูดหยาบคายกับเธอ ทั้งที่ปกติเราไม่เคยพูดกันแบบนี้ เธอหัวเราะเบาๆ ดูดแรง แถมมือยังนวดคลึงก้อนกลมๆของผมอีก

“อูยยย ซีดดดดดด”

“แตกก็ได้ เดี๋ยวพรายทำความสะอาดให้เอง”

เหมือนถูกแกล้ง ทั้งเลีย ทั้งดู ทั้งลูบไข่ ผมแทบคลั่ง จับศีรษะเธอแล้วสาวท่อนเอ็น ชักใส่ปากของเธอ จนน้ำขุ่นขาวหลั่งออกมา เรียวลิ้นของเธอก็ตวัดเลียดูดกลืนจนเสียวปลายหัวมาก  จนผมต้องครางบรรเทาความเสียวซ่านและความสุขที่ล้นเป็นคราบขาวเลอะริมฝีปก

พรายเงยหน้ามองแล้วตวัดลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองก่อนจะยิ้มออกมา

เสียงโทรศัพท์มือถือทำให้ผมสะดุ้ง  เอี้ยวตัวไปหยิบเพราะรำคาญเสียงของมันที่กรีดร้องอยู่นาน

 “ฮัลโหล โคมพูดครับ”

“เฮ้ย!...ไอ้โคมเหรอทำไมยังไม่มาที่ทำงานอีกวะ จะ 9 โมงเช้าแล้วนะมึง มีประชุมตอน 9 โมงครึ่งนะโว้ย ป่านนี้ยังไม่ได้ออกจากบ้านอีกเหรอว่ะ”

“อะไรกันกี่โมงแล้วนะ”

“นาฬิกาบ้านมึงตายเรอะ”

ผมงงๆขยี้ตาหลายครั้งก่อนดูเวลาที่เจ้านาฬิกาแขวนรูปตัวการ์ตูน 9 โมงเช้าแล้วจริงๆเหรอนี่

“เฮ้ย!..รีบมาเร็วๆนะโว้ย”

“เออๆรู้แล้ว”   

ผมรีบวางหูโทรศัพท์ เร่งเท้าเดินกลับไปที่ห้องที่พรายอยู่ แต่ทุกอย่างว่างเปล่าไม่มีร่องรอยของการมาเยือนของคนที่หัวใจเรียกหา ไม่มีถ้วยกาแฟที่ชงให้เธอ ไม่มีเสื้อผ้าที่เปียกน้ำฝนอยู่ที่มุมห้อง ผมรูดผ้าม่านสีเขียวอ่อนที่ขยับพลิ้วไหวตามแรงลม แสงแดดอ่อนๆสาดเข้ามาในห้องให้สว่างสดใส ผมเสยเส้นผมของตัวเองก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง

“ละเมอฝันไปเหรอนี่”  

 ผมรำพึงกับตัวเองที่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดแค่เพ้อไป ผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของสำคัญที่จะไปใช้งานประชุมอย่างรวดเร็วและรีบออกจากห้อง ผมยังนึกขำตัวเองไม่หายเสียทีกับความฝันเมื่อคืน เฮ้อ...ป่านนี้พรายกำลังทำอะไรอยู่นะ ผมตั้งคำถามในใจขณะกำลังเดินลงจากบันไดแต่ไหล่ของผมก็ชนกับคนที่กำลังเดินขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนคนๆนั้นเซล้มลง

“ขอโทษครับผมกำลังรีบ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”   ผมคุ้นเสียงของเธอเหลือเกินจนอดไม่ได้ที่จะมองหน้าเจ้าของเสียงนี้

“พราย!?!”

“กำลังจะไปหาเลย ยุ่งหรือเปล่า”

ผมมองเธอนิ่ง ชั่งใจระหว่างไปทำงานหรือไปทำตามฝัน(เปียก)ที่ค้างไว้เมื่อคืน!!!

..........................

 

 รูปประกอบถูกลิขสิทธิ์จากเวบ pixabay
อ่านจบถูกใจอย่าลืมกด5ดาวให้ด้วยนะคะ 
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

เนื้อหาโดย: หนามดอกงิ้ว
รูปประกอบถูกลิขสิทธิ์จากเวบ pixabay
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
หนามดอกงิ้ว's profile


โพสท์โดย: หนามดอกงิ้ว
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: หนามดอกงิ้ว
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!สัญญาณเตือนอาการสมองเริ่มเสื่อม ถ้าเริ่มมีอาการแบบนี้ต้องระวังละเน่อจ็อฟฟรีย์ เป็นตัวละครที่ " คนเกลี่ยดที่สุดในโลก "เฉลยแล้ว เชฟที่ตอบดราม่าราเมงจนคนประทับใจ ที่แท้เป็นลูกชายของเชฟชื่อดังงามหน้า! นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดนสแกมเมอร์หลอก ตลาดน้ำดำเนินสะดวกชายหาดสุดสวย ไม่บอกไม่รู้ด้วยว่า " มันคือเศษแก้ว "ไปทำงานเลท " เหตุเพราะไอโฟนไม่ปลุก "
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วัดเลขธรรมกิตติ์ วัดเก่าแก่ ในนครนายกชายหาดสุดสวย ไม่บอกไม่รู้ด้วยว่า " มันคือเศษแก้ว "ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์งามหน้า! นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดนสแกมเมอร์หลอก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
อากาศร้อนจัด! ขนาดรองเท้ายังเป็นฮีตสโตรก..จากเบอร์ 44 หดเหลือ 36อดีตแม่ตอนสาวๆ ลูกไม่เชื่อจนมาเห็นกับตา..ว่าสวยไม่ธรรมดาเลยสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา สุสานใต้น้ำหรือแค่ตำนานลี้ลับ?รู้กันไหม?หญิงจีนสมัยราชวงศ์ถัง เปิดกว้างเรื่องเwศสุดๆ
ตั้งกระทู้ใหม่