อกแทบหักแอบรักท่านประธาน
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ทุกคนมีคนที่เก็บเอาไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าความทรงจำตรงนี้มันไปอยู่ตรงไหน แต่รู้นะ ว่าทุกส่วนที่อยู่ นั้นคุณสามารถแวะไปหาเขาได้เสมอๆ ไปหาเขาในความรู้สึก ไปหาเขาในใจ ไปหาเขาในความทรงจำที่เคยผ่านมา เป็นเรานี่แหล่ะไม่อยากลืมมัน
รักใครก็บอก ชอบใครก็บอก อย่างน้อยก็ได้พยายามเต็มที่ ที่สุดกับความรักและความทรงจำของตัวเอง
ย้อนไปตอน ม.6
ในคืนที่ฝนตก สายตาคู่คมพิจารณาจ้องมอง ร่างสวย มัดผมสวมใส่ชุมมัธยมปลาย ใบหน้าจิ้มลิ้ม ขาวใส แต่บ้านของปังปอด์นเพื่อนสนิทของเขา ประตูรั้วกับหน้าบ้านเขา อยู่ห่างกัน ซึ่งเขากังวัลว่า เธอจะเปียกอาจจะหนักกว่าเดิม ถ้าฝนที่กำลังโปรยปราย จะก่อตัวแรงขึ้น
"เฮ้ยปอนด์ นั่นน้องมึงป่าวนั้น"
"เออ ใช่ๆ ร่มอยู่หน้าบ้านมึงไปรับมันให้กูหน่อย กูติดทำงานอยู่"
"เออได้ๆ"
เมื่อเพื่อนๆของปังปอด์นได้นัดรวมตัวมาทำรายงานที่บ้านเพื่อทำรายงานส่งคุณครู หลังจากที่ หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง มองไปยังชายหนุ่ม ที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าราวกับภาพวาด หล่อคมคาย จมูกโด่งคิ้วเข้ม ทรงผมหน้าม้าปัดข้าง เสื้อมหาวิทลัยสีขาว กางเกงยีนต์ ถือร่มคันโตสีน้ำเงิน วิ่งออกมารับเธอที่หน้าบ้าน
ตึ่กตัก ! ตึกตัก ! ตอนนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาว สั่นราวกับแผ่นดินไหว ได้แต่อึ้งตะลึงกับชายร่างสูงตรงหน้าโดยไม่ทันนึกว่าตัวเธอเองอยู่กลางสายฝนเพราะเธอกำลังที่จะเปิดประตูเหล็กบานใหญ่ เพื่อเข้ามาในบ้าน
มือสวยยังค้างอยู่ที่กลอนประตูรั้วแต่ทอดสายตาจดจ้องเหมือนอยู่ในภวังค์
"เชี่ย ! คนหรือพระเอกซีรีย์ หล่อไม่ไหว " เธอพึมพำในลำคอเบาๆ
เนื้อตัวเริ่ม เปียกปอน เพราะลงจากรถเมล์หญิงสาวก็รีบวิ่งฝ่าสายฝนที่กำลังลงเม็ดบางจนกระทั่งตอนนี้ถึงบ้านเม็ดหนาขึ้น ชายหนุ่ม กางร่มบังฝนพร้อมลำแขนแกร่งโอบมาที่ไหล่ ร่างสูงบังฝนแล้วนำร่างเล็กของเธอกลับเข้าไปในบ้าน ซึ่งนั่นคือความประทับใจแรก ที่เธอได้สัมผัส
"เฮ้ย ไอ้ปอด์น มึงดูมือไอ้มาร์ค กอดน้องมึงด้วย " เสียงทุ้มแทรกเข้ามาจากชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นแซว นั่นคือ พี่แกปตัวดีชอบพูดมากแซวคนนั้นคนนี้ตามนิสัย เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นมือแกร่งจึง รีบผละมือออกทันที
"กอด เชี่ย ! ไร น้องไอ้ปอด์นจะเปียกฝนก็แค่กางร่มให้น้อง มึงนี่ นะคิดอกุศลตลอด "
ประโยคนี้ส่งผลให้ทั้ง 4 คน หัวเราะชอบใจกัน แต่ตัวหญิงสาวกลับเขินอายหน้าแดงเมื่อโดนพี่ ๆแซวขนาดหนัก
หญิงสาวถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้น พร้อมเดินเข้าบ้านไป เก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเช่นทุกวัน ผ่านไปไม่นานเมื่อวิ่งลงมาชั้นล่าง ปังปอน พี่ชายของเธอสั่งให้ทำกับข้าวให้พี่ๆกิน เนื่องจากพ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ ฝนก็ตก เธอจึงยอมทำให้แบบไม่ค่อยพอใจ
"ปัน ปัน ทำกับข้าวให้พี่ ๆ เขากินหน่อย นะ...นะ...น๊าา.." พี่ชายของเธอทำเสียงออดอ้อนเพื่อให้ผู้เป็นน้องทำตาม และเมนูประจำบ้าน ที่ง่ายที่สุดคือต้มมาม่า ใส่ไข่ และใส่ผัก
ขณะที่ร่างบางของหญิงสาวหันหลังต้มน้ำอยู่นั้น เบื้องหลังปรากฎร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังจังหวะนั้น เธอเคลื่อนตัวหันกลับมาเพื่อหยิบอะไรบางอย่าง กลับชนเข้ากับร่างสูงเป็นเหตุให้หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดของมาร์ค ศีรษะของเธอประกบเข้ากับสันจมูกโด่ง
เขาคว้าตัวเธอเอาไว้ขณะหันมาด้วยอาการตกใจอาจจะทำให้เธอล้มใส่หม้อน้ำที่กำลังเดือดพล่าน อยู่ก็เป็นได้
" เป็นไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มนุ่มของร่างสูงเอ่ยถาม
" ปะ เปล่า ค่ะ " หญิงสาวเอ่ยพร้อมผลักร่างตัวเองออกให้เป็นอิสระเพื่อรีบไปหยิบ มาม่า
" ต้มมาม่าเหรอ ให้พี่ช่วยอะไรมั้ย "
"'หั่นผักตรงนี้ให้ด่วนทีนะคะ ปันจะรีบเอาไข่มาใส่ก่อน"
มาร์คเป็นคนเดียวที่ อาสามาช่วยทำกับข้าว เขาทั้งหล่อแถมยังน่ารักอีก บรรยากาศในครัวที่เมนู ง่ายๆ แต่อบอวลไปด้วยความประทับใจ และมีความสุข
หลังจากที่ ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เพื่อนๆของปังปอนด์ทำรายงานกันต่อ เมื่อช่วงบักเบรคทีไร มาร์คมักจะชอบหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้องเพลง
ทุกครั้งที่ได้ยินเธอจะชอบแอบจ้องมองดูอยู่ห่างๆ ทุกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ ของชายหนุ่ม บางครั้ง ปัน ปัน ก็อดไม่ได้ที่จะมาเสนอตัวร่วมร้องเพลงไปด้วยกันรุ่นพี่ แม้เสียงจะไม่ดีก็ตามแต่มาร์คก็ชมเสมอว่าเธอร้องเพลงเพราะ
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา มาร์คและ เพื่อน ๆ กลุ่มนี้ก็มาเล่นที่บ้านกันอยู่บ่อย ๆ จนหญิงสาวเริ่มที่จะคุ้นเคย ทุกครั้งที่มาร์คมามักจะหอบหิ้วขนมของฝากติดไม้ติดมือมาฝากตลอด
มาวันหนึ่งเป็นอีกคืนที่มาร์ค นอนค้างที่บ้าน เมื่อช่วงดึกสงัดที่ใครๆต่างหลับใหลกันไปหมด ซึ่งตอนนั้น ปัน ปัน หิวน้ำลงมาในครัวเพื่อหาอะไรดื่ม เจอเงาตะคุ่มๆของคนที่เธอนึกว่าโขมย มือสวยคว้ากระชอน เพื่อที่เอาฟาดร่างเงาตรงหน้า แต่ร่างสูงตรงหน้าดันหันมาคว้ามือเธอเอาไว้เสียก่อน
" พี่มาร์ค พี่มาทำอะไรมืดๆ ทำไมไม่เปิดไฟ " เสียงกระซิบกระซาบบอกร่างหนาตรงหน้า เพราะเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน แต่ทันใดนั้นมีเสียงเดินลงบันใด อาจจะเป็นพ่อเพื่อมาสำรวจบ้านว่าล๊อคแล้วหรือไม่ แต่ในความมืดนั้น ร่างหนาของมาร์คคว้าตัวเธอและใช้มือปิดปากเพื่อหลบไปยังอีกซอกหนึ่ง เกรงว่าพ่อจะเห็น ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
แต่นั่นกลับทำให้ หญิงสาวใจเต้นจนตัวสั่นเพราะมันกลับได้ใกล้ชิดเขาแทบจะเนื้อแนบเนื้อ อกชิดอก กันเลยก็ว่าได้
ขณะที่ตาคู่สวยจ้องมองไปที่ใบหน้าคมคาย แต่สายตาเขา จ้องมองไปที่พ่อเพื่อสำรวจดูว่า พ่อขึ้นบ้านไปหรือยัง และเมื่อพ้นจากตรงนั้น ไปแล้วเขาคลายมือสากออก จากใบหน้าสวย แล้วสะกดสายตาจ้องมองมาที่เธอ ไม่รู้ว่าไปกระตุ้นต่อมอะไรของเขาหรือเปล่า
ร่างสูงโน้มตัวลงยื่นใบหน้าคมเข้ามาใกล้ๆ สัมผัสแตะปลายริมฝีปากเบาๆ หนึ่งครั้ง ซึ่งนั้นเป็นจูบแรกของเธอเลยก็ว่าได้ ทันใดนั้น มีเสียงของใครบางคนเดินออกมา ทันทีที่เห็นร่างของมาร์คและ ปัน ปัน จึงต้องรีบผละอย่าอัตโนมัติ แล้วต่างคนต่างแยกย้ายรีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเอง
หลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน มาร์คเองก็ไม่ค่อยได้มาที่บ้านของปันปันอีก
เมื่อครั้งถึงวันเกิด ของมาร์ค ปันปัน เก็บเงินหยอดกระปุกจากเงินค่าขนมที่ไปโรงเรียนทุกวัน เพื่อที่จะนำไปซื้อ นาฬิกา ให้กับเขา เฝ้ารอเวลาว่าวันไหนชายหนุ่มจะมาที่บ้านอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ไร้ซึ่งวี่แวว พอทราบข่าวอีกที พี่ชายของ เธอ บอกว่า เขาเดินทางไปที่ต่างประเทศแล้ว