ทำไม"เป๊ปซี่"ถึงแพ้"โค้ก"ตลอด(แถมเคยล้มละลายมาถึง2ครั้ง2ครา)
อากาศร้อนๆถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆซ่าๆสักขวดสองขวดก็คงดับอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวในร่างกายของเราได้เป็นอย่างมาก แน่นอนครับว่าหลายคนต้องนึกถึงเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อดัง 2 ยี่ห้อนี้แน่นอน เป๊ปซี่และโค้ก เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่อยู่คู่กับโลกเรามายาวนาน ทั้งยังเป็นคู่แข่งทางการตลาดแย่งฐานลูกค้ากันไปทั่วโลกชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว
แต่เพื่อนๆรู้ไหมครับว่าจากข้อมูลเชิงลึกได้พิสูจน์แล้วว่าเครื่องดื่มของเป๊ปซี่นั้นยังทำยอดขายได้ดีไม่สู้เท่ากับโค้ก เพราะอะไร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น???
เป๊ปซี่คู่แข่งโค้กที่พยามยาม สุดความสามารถมากว่าร้อยปีแต่ไม่เคยเป็นที่1.ได้สักคราเดียวแถมยังเคยยื่นเรื่องล้มละลายมาแล้วถึง2ครั้งด้วยกัน จากการสำรวจและเจาะข้อมูลเชิงลึกเราจะมาวิเคราะห์เหตุผลว่าอะไรและทำไมจึงทำให้เป็ปซี่ไม่ชนะโค้กได้สักที
เป็ปซี่เป็นน้ำอัดลมที่เก่าแก่มีอายุร่วมๆ100กว่าปีเเละเคยล้มละลายมาแล้ว2ครั้ง
บริษัทเป๊ปซี่เจอปัญหาต่างๆนานาจึงทำให้บริษัทไม่อยากเดินไปต่อและพยายามเสนอขายเซ้งกิจการให้กับใครก็ได้ที่ต้องการและหนึ่งในนั้นก็คือเสนอขายให้กับ โคคาโคล่า เป๊ปซี่เคยยื่นข้อเสนอให้ถึง3ครั้ง3ครา แต่ตอนนั้นโค้กไม่สนใจถ้าไม่อย่างนั้นการแข่งขันในตลาดน้ำอัดลม คงจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่เหมือนกับที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ หลังจากหลายปีผ่านไปที่เป๊ปซี่ได้มีโอกาสบูรณะธุรกิจของตัวเองแล้วขึ้นแท่นมาแข่งกับโคคาโคล่าโดยตรงโดยงัดกลยุทธ์ทุกรูปแบบการตลาด แต่ยังไม่ชนะได้สักที ถ้าเราถามคนส่วนใหญ่ว่าทำไมเป๊ปซี่ถึงแพ้โค้ก คนส่วนมากก็มักจะพูดว่าก็โค้กมันอร่อยกว่าเป๊ปซี่ไงอย่างงั้นรึเปล่าคนถึงชอบมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย
ในธุรกิจเครื่องดื่มนั้น ใช้ว่าเจ้าไหนอร่อยกว่ากินถูกปากลูกค้ามากกว่าแล้วจะชนะที่จริงแล้วมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเลย ในกรณีของเป็ปซี่ก็เหมือนกัน เพื่อนๆรู้ไหมว่ารสชาติของเป๊ปซี่นั้นมันไม่ได้ด้อยกว่าโค้กเลย ที่ผมกล้าพูดขนาดนี้ก็เพราะว่า เมื่อในปี80นั้นเป๊ปซี่เขาก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าเหตุผลที่ลูกค้าในตลาดไม่เลือกเขามากว่าเลือกโค้ก เขาก็เลยทำแบบทดสอบ
กับลูกค้าจริงในที่สาธารณะได้ดูกันให้เห็นกันไปเลย ว่าลูกค้าชอบรสชาติของใครมากกว่ากัน ซึ่งวิธีการทดสอบของเป็ปซี่ก็คือให้คนทั่วไป ให้ลูกค้าเลือกว่าดื่มแก้วที่1หรือแก้วที่2.
พอดื่มเสร็จก็ถามลูกค้าว่าชอบแก้วไหนมากกว่ากัน ผลสำรวจจากการให้ลูกค้าดื่มเทียบกันทั้งสองแก้วแล้วก็พบว่า คนจำนวนมากกว่า50%ชอบรสชาติของแป็ปซี่มากกว่าโค้ก ถึงอย่างนั้นก็ตามยอดขายของโค้กก็ยังมากกว่าเป็ปซี่อยู่ดี ดังนั้นเนี้ยจากการ
วิเคราะห์เชิงตลาดทำให้รู้ว่าเรื่องรสชาติที่เหนือกว่าคู่แข่ง ยังไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญที่ทำให้เป็ปซี่นั้นยังไม่ชนะโค้ก และถ้าเป็นปัจจัยอื่นๆที่สำคัญทางด้านการตลาดเราจะบอกว่าทางแป็ปซี่ทำการตลาดยังไม่ดีเท่ากับโค้กรึเปล่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เหตุผลที่สำคัญเป๊ปซี่ทำการตลาดเยอะมากๆโดยเฉพาะกับโลกตะวันตกเขามีบทบาททางสื่อต่างๆมากกว่าโค้กด้วยซ้ำ อย่างถ้าใครโตมาในยุค90กรือในยุค2000 จะเห็นได้ว่าเป็ปซี่เขาทำการตลาดหนักมากๆ
เขาเขาไปอยู่ตามเทรนต่างๆไม่เว้นแม้แต่การสร้างเกมส์เพื่อจะให้คนเล่น เพราะถ้าใครอยู่ในยุคนั้นก็จะรู้ดีว่าเป๊ปซี่มีเกมส์ออกมาให้คนเล่นที่ชื่อว่าเป๊ปซี่แมน ซึ่งมีตัวเกมส์นั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากเลยมันเป็นเกมส์วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยคาแรคเตอร์หลักใส่ชุดเป๊ปซี่
และไอเทมต่างๆภายในเกมส์ก็จะเป็นอัตลักษณ์ของเป๊ปซี่และถึงแม้เวลาช่วงเลยไปถึง 20 ปีแล้วมันก็ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนรวมถึงตัวผมด้วยทั้งๆที่มันเป็นเกมส์แค่โปรโมทแบรนด์ มันมันแสดงให้เห็นว่าเป๊ปซี่นั้นเขาโปรโมททุกวิถีทางเพื่อต้องการช่วงชิงอันดับกับคู่แข่งอย่างบ้าระห่ำมาแต่ไหนแต่ไร
ไม่ว่าจะช่องทางไหนเขาเข้าไปหมดถ้าจะว่าเขาทำการตลาดไม่ดีเท่าโค้กเนี่ยไม่จริงแน่นอน
ถ้าเรามาดูการทำตลาดของเป๊ปซี่ในปัจจุบันมันก็ไม่ได้แผ่วลงเลย เผลอๆมากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำเพราะตอนนี้เป๊ปซี่มีการแข่งกีฬาใช้นักกีฬาสร้างโฆษณานักกีฬาเกราะกระแส และอะไรต่างๆอีกเยอะแยะมากมาย ปัจจัยที่ทำให้เป็ปซี่แพ้เนี้ยต้องไม่ใ่ช่การตลาดแน่นอน แล้วอะไรคือตัวแปร ในระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งๆที่ทำดีได้เท่ากัน มันคงจะตอบได้ไม่ง่ายนัก
เพราะมันมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ละเอียดอ่อนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าเป็นในมุมมองของนักวิเคราะห์ทางการตลาดเขาก็จะมองว่า
ปัจจัยที่ทำให้เป๊ปซี่ยังไม่ชนะคงได้เนี่ยมันแบ่งได้ออกเป็น 3 ข้อใหญ่ๆได้ดังนี้
1.ในเรื่องของกลยุทธ์ของแบรนด์โค้กที่ทำได้ดีมาตั้งแต่แรก
2.ก็คือเรื่องของความเคยชินของลูกค้า เพราะถ้าลูกค้าชอบในรสชาติใดแล้วเป็นเรื่องยากมันเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆที่จะเปลี่ยนแปลงความชอบของคนนั้นได้ ในกรณีของเป๊ปซี่ก็เหมือนกันถึงแม้ผลทดสอบก็บอกแล้วว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบในรสชาติของเป๊ปซี่เมื่อเทียบกันแล้ว
มันก็ไม่ได้แปลว่าคนจะหันมาดื่มเป๊ปซี่มากกว่าโค้ก เหตุผลก็คือ ถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างได้ สิ่งๆนั้นมันต้องดีกว่าของเก่าที่เรามีอยู่เป็นหลายเท่าตัว
3.ในเรื่องของกลยุทธ์ระบบการกระจายเครือข่ายสินค้าของโค้ก โค้กทำการตลาดได้ค่อนข้างดีมาตั้งแต่เเรก จนคนamericanในหลายๆ street พูดว่าถ้าเขาอยากจะดื่มน้ำอัดลม เขาอยากจะดื่มโค้กในหัวของผู้บริโภคคนอเมริกันเลยค่อนข้างฮิตติดกระแสกับความ original ในรสชาติของโค้กมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นภาพจำอะไรต่างๆนานาเกี่ยวกับน้ำอัดลม มันคือสิ่งที่โค้กสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น
อ้างอิงจาก: lam jor jitnatan & เรื่องเก่ามาเล่าใหม่