ยุคของการ(ไม่รู้ว่ามันคือ)บูลลี่
ว่าด้วยเรื่องการ “บูลลี่” เราเองก็เป็นคนนึงที่อยู่ในวงโคจรของการบูลลี่มาตั้งแต่เด็ก
เพราะสมัยก่อนนั้น ใครไม่ตามเพื่อนไม่ได้เลย ใครไม่ตามเพื่อนก็จะไม่มีเพื่อนคบหรือให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกเค้า หรือไม่มีพวก บวกกับสังคมสมัยนั้นที่ผู้ใหญ่ยังมีค่านิยมปลูกฝังการดูถูกมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น เพราะตอนนั้นยังไม่มีการพูดถึงการบูลลี่ หรือว่ารณรงค์มากนักเท่าที่ควรจะทำ บางทีแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือการบูลลี่ จะเห็นได้จากการที่ผู้ใหญ่สมัยนั้นที่ยังมีค่านิยมชอบดูถูกประเทศเพื่อนบ้าน กดเค้าให้ต่ำกว่า เพียงเพราะเค้าไม่ยังเจริญเท่าเรา หรือบางคนอาจจะตามน้ำไปตามคนอื่นเค้า เพราะไปรู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นั้นจริงๆ
พอเริ่มวัยรุ่นเข้ามัธยม เริ่มกล้าที่จะไม่ตามเพื่อน ยอมที่จะไม่มีกลุ่ม เพราะไม่ชอบเลยที่ต้อมทำตามเพียงเพราะอยากอยู่ในกลุ่ม ยอมเห็นใจคนที่โดนจริงๆ จังๆ สักที ลองมองเค้า ลองพยายามที่จะเข้าใจเค้า ลองเห็นใจเค้า ลองนึกว่าถ้าเป็นตัวเราโดนบ้างจะรู้สึกยังไง เรารู้สึกกลัว เครียด สั่น วิตก ไม่อยากมาเลยโรงเรียนแบบนี้ นั่นคือสิ่งที่เรานึกย้อนกับตัวเอง จนคิดได้ว่าเมื่อก่อนเราแย่มากเลยเนอะ ทำไมไม่กล้าที่จะเห็นใจและเข้าใจคนพวกนั้น ให้มากกว่านี้กันนะ ทำไมไม่กล้าที่จะช่วยพวกเค้า ณ ตอนนั้นกัน ที่บ้านก็สอนนิ่ ทำไมไม่ทำกันนะ ....รู้สึกไม่ชอบตัวเองเลยที่ทำแบบนั้น แม้จะทำด้วยความไม่รู้ก็ตาม