หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

5อย่าง!อย่าพูดกับพ่อแม่!

เนื้อหาโดย deeda2456

การได้เกิดเป็นมนุษย์ หมายถึง การได้โอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อทำชีวิตจิตใจให้ดีขึ้นสูงขึ้นจนกระทั้งความดีเต็มเปี่ยมและไปถึงจุดหมายอันสูงสุดของชีวิตคือฝั่งแห่งการพ้นทุกข์จากวัฏฏสงสาร! เพราะมนุษย์เท่านั้นที่มีสามารถทำความดีได้ทุกอย่าง แต่การได้เป็นมนุษย์ไม่ง่าย! กว่าจะได้เกิด กว่าจะรอด กว่าจะเติบโต กว่าจะเรียนรู้ กว่าจะเข้าใจ และใช้ชีวิตเป็น ทั้งหมดที่ได้มานั่นเพราะความรักของคนสองคน คือ พ่อ แม่ .. ผู้ที่ให้โอกาสให้ต้นทุนชีวิตแก่ลูกมากมายที่สุดแม้ชีวิตก็ให้ได้!

ด้วยเหตุนั้น การขอบคุณ ความกตัญญูตอบแทนความรักอันยิ่งใหญ่นั้น เป็นคุณธรรมของลูกที่พึ่งมีพึ่งทำ และหนึ่งสิ่งในการแสดงออกซึ่งความขอบคุณนั้น คือ การปฏิบัติต่อพ่อแม่ การพูดจากับพ่อแม่ ที่ลูกๆ ต้องตระหนักว่า สิ่งที่พูดต้องไม่ทำร้ายจิตใจของผู้ที่รักเราหมดทั้งหัวใจและด้วยชีวิตของท่าน  ... คำพูดเหล่านี้ คือ คำพูดที่ไม่ควรพูดกับพ่อแม่

  1. อย่าต่อว่าพ่อแม่ว่าจู้จี้จุ๊กจิก ขี้บ่น น่ารำคาญ พูดเรื่องเดิมซ้ำๆย้ำแต่เรื่องเก่า:  เพราะรักและเป็นห่วงพ่อแม่จึงย้ำเรื่องเดิม  เพราะอยากแน่ใจว่าลูกปลอดภัยและจะไปได้ดี  ถามว่ารู้มั๊ยว่าลูกจะรำคาญ เบื่อหน่าย หรืออาจโกรธ รู้สิ! แต่เพราะรักที่จะให้ลูกเติบโตเจริญก้าวหน้ามีชีวิตที่ดี..จึงต้องจู้จี้และยอมให้โกรธ .. ถ้าคิดให้ดี,ในโลกนี้ไม่ง่ายที่จะหาคนที่รักเราในระดับที่กล้าตักเตือนบอกสอนแบบยอมให้เราโกรธ!ถ้าไม่ไหวจริงๆกับการจู้จี้ของท่าน ให้พูดคุยกับพ่อแม่ด้วยเหตุผลดีๆ ด้วยสติสัมปัชชัญญะ ด้วยความสุภาพ(แน่นอนบางกรณีต้องใช้ความอดทนหน่อย) ..แสดงให้พ่อแม่เห็นว่าเราตระหนักและเข้าใจแล้วในเรื่องที่ท่านเป็นห่วง แสดงให้พ่อแม่รู้ว่า เรารับรู้ความห่วงใยของท่าน และเราก็จะดูแลตัวเองให้ดีให้ได้แบบที่ท่านเป็นห่วงเรา แค่นี้ท่านก็สบายใจ เพราะสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านจู้จี้เราบ่นเรา ก็เพราะห่วงใยเพราะหวังดี...
  1. จากข้อแรก บางครั้งบางกรณีพ่อแม่ก็ไม่สามารถตัดใจจากความเป็นห่วงที่มีต่อเราได้ ต่อให้เราทำอะไรๆ ได้ดีแค่ไหน พ่อแม่ก็ยังเป็นห่วงและติดตามคอยดูแลเราอยู่ดี ที่หากเราเกิดหงุดหงิดรำคาญขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไร อย่าใช้คำพูดเหล่านี้กับพ่อแม่ เช่น
    - บ่นอยู่ได้ น่ารำคาญ - ถ้าไม่รู้อะไร อย่าพูดดีกว่า - ไม่มีอะไรแล้วใช่มั๊ย วางสายแล้วนะ
    - บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่ง - ความคิดยุคใดโนเสาร์ เลิกพูดเลิกสอนได้แล้ว – ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อนะ - สมควรแล้ว บอกอะไรก็ไม่เคยฟัง – ไม่ต้องมาคุยเรื่องนี้อีก/ไม่ต้องมาคุยกับลูกอีก ลูกโตแล้ว! ... หาคำพูดอื่น วิธีแสดงออกอย่างอื่น ที่ไม่ทำร้ายน้ำใจไม่ด้อยค่าความรักความห่วงใยของพ่อแม่ดีกว่า 

** พ่อแม่เกิดก่อนเรา เห็นโลกมาก่อน เห็นชีวิตเห็นโลกผ่านเรื่องราวมากมายมาก่อนเรา  แม้ยุคสมัยอาจแตกต่าง แต่การใช้ชีวิตกับคนบนโลกที่มีทั้งความดีความชั่วปนกัน และพ่อแม่ผ่านสิ่งเหล่านั้นมาก่อน  เราควรรับฟัง  อะไรที่พ่อแม่บอก เตือน สั่ง สอน หากเราเอาใจใส่และไตร่ตรองดีๆ ย่อมมีคุณค่ามีประโยชน์ในตัวของมัน  อย่างน้อยหรืออย่างมาก การเป็นผู้ฟังที่ดี การให้เกียรติพ่อแม่ แคร์ความรักความห่วงใยของพ่อแม่ด้วยการรับฟังอย่างเอาใจใส่ ก็สร้างบรรยากาศอบอุ่นในครอบครัว ดีกว่าทำบรรยากาศเสียเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบและคำพูดที่ไม่กลั่นกรอง

  1. อย่าต่อว่าพ่อแม่ว่าชักช้า: วันเวลาของพ่อแม่นับถอยหลัง พลังชีวิตที่ท่านมีก็ทุ่มเทให้ลูกหมดหัวใจ ในขณะที่ลูกเติบโตแข็งแกร่งเก่งกล้า เวลาของพ่อแม่คือการเดินไปสู่ความเสื่อมตามกาลเวลา เป็นไปตามธรรมชาติของชีวิต เป็นความจริงที่สุด! ที่ไม่มีใครหลีกหนีได้ แม้คนเป็นลูกเองในวันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องเผชิญกับความชราความอ่อนล้าของสุขภาพสังขาร ฉะนั้น! ระวังถ้อยคำที่ว่าท่านชักช้า  ทำอะไรเชื่องช้า บอกแล้วยังทำไม่ได้! …
    ขอให้ลูกคิดถึงวันที่เรายังเด็กยังเล็กที่เราทำอะไรไม่ได้สักอย่าง กินยังไม่เป็น  กว่าจะเติบโตมา(จนปีกกล้าขาแข็ง)  พ่อแม่ต้องคอยดูแล คอยประคบประหงมประคับประคอง คอยป้อนข้าวน้ำ เจ็บไข้พาไปหาหมอ หัดให้ลูกเดิน หัดให้ลูกวิ่ง หัดให้ลูกเล่น หัดให้ลูกพูด ... ฯลฯ  กี่ค่ำคืน กี่วัน กี่ปี กว่าจะมีวันนี้  ขอให้เราใช้ชีวิตบนความเป็นจริง..ในวันที่พ่อแม่อ่อนแอ ท่านก็ต้องการสองมือของลูกคอยประคอง เหมือนกับที่เมื่อวันวานสองมือของพ่อแม่คอยประคองลูก ดุจเดียวกัน
  1. ยามพ่อแม่ป่วยไข้ อย่าทอดทิ้ง อย่าหน่ายหนี!: ยามลูกป่วย คนที่ดูแลลูกได้ดีที่สุดคือพ่อแม่ แม้ต้องจ่ายเท่าไหร่ ต้องทำอย่างไรเพื่อให้ลูกหายจากความเจ็บป่วย กลับมาแข็งแรง พ่อแม่พร้อมยอมสละทุกอย่าง พ่อแม่ให้ลูกได้ทั้งชีวิต ในยามที่พ่อแม่ป่วยไข้  ก็เป็นหน้าที่เป็นคุณธรรมของลูกโดยแท้ที่ควรต้องดูแลตอบแทนความรักความห่วงใยน้ำใจของท่าน ให้ได้เสมอกัน  
  2. อย่าต่อว่าพ่อแม่ว่าไร้ความสามารถ: คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ  แม้ตัวลูกเองจะเก่งแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะเก่งทุกอย่าง  พ่อแม่ก็เหมือนกันท่านก็มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีสิ่งที่ท่านถนัดทำได้ดี และมีสิ่งที่ท่านไม่ถนัด ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จัก ไม่ใช่โลกไม่ใช่วิถีชีวิตของท่าน .. ความสามารถที่ท่านมีก็คงไม่สอดคล้องเป็นธรรมดา  คนเรามีข้อดี และจุดด้อยด้วยกันทุกคน  ฉะนั้น อย่าหมิ่นแคลนด้อยค่าความเป็นมนุษย์ของพ่อแม่เพียงเพราะท่านไม่มีความสามารถในแบบที่ลูกมี อย่าเอาความแตกต่างไปตัดสินและกล่าวหาต่อว่าพ่อแม่  สิ่งที่ลูกควรทำคือการให้ความเป็นธรรมกับพ่อแม่และคอยให้ความช่วยเหลือท่าน  เพราะหากท่านไร้ความสามารถ ลูกของท่านคงไม่เติบโตมาเป็นคนเก่งกล้าแบบนี้..  พ่อแม่สามารถให้ชีวิตลูกได้ ให้การเลี้ยงดูสนับสนุน ไม่ว่าจะต้องเสียต้องจ่ายเท่าไหร่พ่อแม่ให้ได้  ความสามารถในการรักและการให้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้โอกาสที่ดีมีชีวิตที่ก้าวหน้าอยู่ดีมีสุขกว่าพ่อแม่นั่นคือความสามารถอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ที่ไม่มีใครสามารถเท่าท่านได้  ด้วยความสามารถนี้จึงไม่มีเหตุผลใดที่ลูกจะมาตอบแทนท่านด้วยถ้อยคำหรือการกระทำที่หมิ่นความรักอันยิ่งใหญ่ของท่านที่มีต่อลูก

นี่คือ ถ้อยคำและการกระทำ ที่ลูกควรต้องระมัดระวังอย่างที่สุด  เพียงแค่วูบเดียวที่หลุดพูดหรือกระทำออกไป  อาจกลายเป็นการทำร้ายทำลายจิตใจพ่อแม่อย่างใหญ่หลวง  หากต้องพูดต้องอธิบาย หาตรงกลางระหว่างลูกและพ่อแม่บนโลกที่นับวันยิ่งทำให้เราแตกต่างห่างเหินกัน  ควรหาจังหวะ เวลา อารมณ์ที่เหมาะสม เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกันกับพ่อแม่ด้วยอารมณ์ที่ดี ด้วยถ้อยคำที่สุภาพ ด้วยการกระทำที่น่ารักสมกับที่พ่อแม่รักเราหมดหัวใจ!  

เนื้อหาโดย: deeda2456
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
deeda2456's profile


โพสท์โดย: deeda2456
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: lo73l1
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด วงในบอกมา 2/5/67 งวด 2 พฤษภาคม 2567น้ำท่วมเคนยา ทำคนตาย 76 รายนักโทษเจาะกำแพงแหกคุก..แต่ดวงซวย! มุดออกไปเจอเจ้าหน้าที่พอดี?ทอร์นาโดถล่มกวางโจว ดับเจ็บเกือบ 40 คนตั้งใจปล่อยปลา แต่ที่โยนไปไม่ใช่ปลาครูไพบูลย์ หรือกงยูเมืองไทย อวดลุคใหม่โดนใจสาวแห่กรี๊ดด!เที่ยวตามรอย "พี่จอง-คัลแลน" เห็นหมีบุกเต็นท์..เกือบเผ่นไม่ทันแล้ว" 28 Years Later " 28 ปีที่รอคอยหนุ่มตุรกีแสบ แกล้งแฟนเก่า สั่งอาหาร 50 ออเดอร์ แถมเก็บเงินปลายทาง หลังจบกันไม่สวย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ราคาโรงแรมแคปซูล ในโตเกียวพุ่งสูงขึ้นวัดร่องขุ่น วัดสวยคู่เชียงรายแอร์อินเวอร์เตอร์ VS แอร์ดั้งเดิม: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เลือกแบบไหนดี?" 28 Years Later " 28 ปีที่รอคอยรีวิวแกะกล่อง The Karate Kid ในรูปแบบ Blu-ray disc
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้วVery เปลี่ยนเป็นอะไรได้บ้างแรงงานหญิงบนรถไฟของสหรัฐฯ ในปี 1943การฝึกทหารสหรัฐฯ ที่ฐานทัพทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ตั้งกระทู้ใหม่