พาราเซตามอล ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ทำลายตับ
การใช้ยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาลดไข้และบรรเทาอาการปวดที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย มักใช้รักษาอาการปวดหัว ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน ไข้ และอาการปวดอื่นๆ ยาพาราเซตามอลสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
ขนาดยาพาราเซตามอลที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่คือ 500-1,000 มิลลิกรัมทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่ควรรับประทานเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับเด็กควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
การใช้ยาพาราเซตามอล ควรพิจารณาตามน้ำหนักตัว
ซึ่งขนาดที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 10 – 15 มิลลิกรัมน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มิลลิกรัม
น้ำหนัก 22 – 33 กิโลกรัม ขนาดรับประทาน 1 เม็ด
น้ำหนัก 34 – 44 กิโลกรัม ขนาดรับประทาน 1 เม็ดครึ่ง
ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม
น้ำหนัก 34 – 50 กิโลกรัม ขนาดรับประทาน 1 เม็ด
น้ำหนัก 50 – 67 กิโลกรัม ขนาดรับประทาน 1 เม็ดครึ่ง
น้ำหนัก > 67 กิโลกรัม ขนาดรับประทาน 2 เม็ด
ข้อควรระวัง
- ห้ามรับประทานเกิน 4,000 มิลลิกรัม/วัน หรือ 8 เม็ด/วัน
- ควรรับประทานยาห่างกันอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยโรคตับควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- หากรับประทานยาเกินขนาดจะส่งผลเสียต่อตับและไต และอันตรายถึงชีวิต
- รับประทานยาพาราเซตามอลร่วมกับยาลดไข้หรือบรรเทาอาการปวดอื่นๆ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
- ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลหากมีประวัติแพ้ยานี้หรือยาอื่นๆ ในตระกูลพาราเซตามอล
- หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยาพาราเซตามอล ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ง่วงซึม และปวดศีรษะ ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่า ได้แก่ ลมพิษ ผื่น และตับอักเสบ
การเก็บรักษา
ควรเก็บยาพาราเซตามอลให้พ้นมือเด็ก เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทในที่แห้งและเย็น