อลังการ "วัดภูทอก" ดินแดนสวรรค์ 𝟳 ชั้น แห่งเมืองไทย
อลังการ "วัดภูทอก"
ดินแดนสวรรค์ 𝟳 ชั้น แห่งเมืองไทย
วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ เป็นวัดสายพระป่าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบลอยฟ้าที่สร้างบนยอดเขาหินปูนสูงชัน ประกอบไปด้วยบันได 7 ชั้น วนเวียนไปตามหน้าผา แต่ละชั้นจะมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย เช่น ศาลาการเปรียญ วิหาร พระธาตุเจดีย์ หอระฆัง กุฏิสงฆ์ เป็นต้น
จุดเด่นของวัดภูทอกอยู่ที่ชั้นบนสุดของภูเขาหินปูน ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอศรีวิไลและแม่น้ำโขงได้แบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อชมความงามของวัดและธรรมชาติได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
วัดภูทอกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ในช่วงวันหยุดยาวจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชม จึงควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า
ประวัติความเป็นมา
วัดภูทอกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระภิกษุชาวอีสานที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน พระอาจารย์จวนได้สร้างวัดภูทอกขึ้นบนยอดเขาหินปูนแห่งนี้ ด้วยแรงศรัทธาและแรงกายของเหล่าลูกศิษย์ ในตอนแรกวัดภูทอกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ บนยอดเขา ต่อมาพระอาจารย์จวนได้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวัดที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
ภายในวัดภูทอกมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้
- บันได 7 ชั้น เป็นบันไดวนเวียนไปตามหน้าผา แต่ละชั้นจะมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย เช่น ศาลาการเปรียญ วิหาร พระธาตุเจดีย์ หอระฆัง กุฏิสงฆ์ เป็นต้น
- ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ
- วิหาร เป็นอาคารที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระธาตุเจดีย์
- พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
- หอระฆัง เป็นอาคารที่ใช้ตีระฆังบอกเวลาและประกาศกิจกรรมทางศาสนา
- กุฏิสงฆ์ เป็นที่พักของพระภิกษุสงฆ์
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมความงามของธรรมชาติรอบๆ วัดภูทอกได้อีกด้วย โดยสามารถเดินชมป่าไม้และชมวิวแม่น้ำโขงได้จากบนยอดเขาหินปูน
การเดินทาง
วัดภูทอกตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 100 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถทัวร์สายอุดรธานี-บึงกาฬ เมื่อถึงวัดภูทอกจะมีรถบริการนำเที่ยวขึ้นเขาหินปูน
คำแนะนำ
- ควรสวมรองเท้าที่กระชับเท้าและเดินสบาย เนื่องจากต้องเดินขึ้นบันได 7 ชั้น
- ไม่ควรเดินขึ้นบันไดในช่วงที่อากาศร้อนจัด
- ควรเตรียมน้ำดื่มและอาหารว่างติดตัวไปด้วย
- ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด
Tips
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมวัดภูทอกคือช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อนและสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้
- หากต้องการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ควรเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดของภูเขาหินปูน
- นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของฝากจากร้านขายของที่ระลึกภายในวัดได้
นอกเหนือจากวัดภูทอกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ดังนี้
- น้ำตกเจ็ดสี ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ห่างจากวัดภูทอกประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีสีสันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเข้มของหินปูน
น้ำตกเจ็ดสี บึงกาฬ
- หินสามวาฬ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ห่างจากวัดภูทอกประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นหินปูนขนาดใหญ่ 3 ก้อน ที่ตั้งเรียงตัวกันคล้ายกับวาฬ หินสามวาฬเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำโขงได้หิน
สามวาฬ บึงกาฬ
- ภูลังกา ตั้งอยู่ในอำเภอเซกา ห่างจากวัดภูทอกประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นภูเขาหินปูนที่มีความสูงประมาณ 1,672 เมตร บนภูลังกามีจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงได้
- น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่ในอำเภอเซกา ห่างจากวัดภูทอกประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกถ้ำพระมีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง ตั้งอยู่ในอำเภอบึงโขงหลง ห่างจากวัดภูทอกประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ เช่น ช้างป่า กระทิง วัวแดง เป็นต้น
นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางเพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงวัดภูทอกได้ โดยสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถทัวร์












