รู้หรือไม่ ???“ว่านงาช้าง” นอกจากจะเป็นไม้มงคลแล้วยังเป็นพืชสมุนไพรอีกด้วย
“ว่านงาช้าง” สมุนไพรโบราณ
ว่านงาช้าง เป็นสมุนไพร ช่วยบำบัดรักษาโรคได้ ช่วยบำรุงร่างกาย
ว่านงาช้าง เป็นสมุนไพรที่ใช้ตามภูมิปัญญาพื้นบ้านมาแต่โบราณ ใช้รักษาโรคภัยต่างๆ และในทางไสยศาสตร์ยังเชื่อด้วยว่าสามารถปลูกไว้ป้องกันภัยร้าย ว่านงาช้างเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นใต้ดิน โดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นว่านไม่มีใบ แต่ในทางวิชาการแล้ว ลำต้นเทียมที่เป็นลำทรงกลมสีเขียวก็คือใบ โผล่ขึ้นจากดิน รูปร่างเหมือนงาช้าง ดอกออกเป็นช่อดอกย่อยสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผลมีลักษณะกลม ขนาดเล็ก ประมาณ 0.5-1 ซม. ผลมีส้ม เมื่อสุกจัดจะมีสีแดง
ว่านงาช้าง
ชื่ออื่นๆ : ว่านงาช้างเขียว, หอกสุรกาฬ, ว่านงาช้างลาย, หอกสุรโกฬ
ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1. ว่านงาช้างเขียว (หอกสุรกาฬ) คือ ชนิดใบสีเขียวล้วนตลอดใบ และมีร่องตามแนวความยาวใบ
2. ว่านงาช้างลาย (หอกสุรโกฬ) คือ ชนิดใบสีเขียวและมีลายสีเขียวอมดำเป็นปล้อง ๆ ตลอดความยาวใบ
สรรพคุณทางยา
เหง้าหรือหัว และใบหรือลำต้นเทียมนำมาต้มน้ำดื่ม มีรสขมเล็กน้อย
– เป็นยาบำรุงโลหิต
– ใช้ขับพยาธิ
– รักษาโรคริดสีดวง
– ช่วยการอยู่ไฟของสตรีหลังคลอด ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
– ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
– ใช้รักษาอาการใบหน้าเป็นฝ้าหน้าตกกระ
เหง้า หัว ใบหรือลำต้นเทียมนำมาตำใช้ทาภายนอก
– ใช้ทาหน้ารักษาสิว
– ใช้ทาหน้าลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้หน้าเต่งตึง
– ใช้ทารักษาแผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง ช่วยให้แผลแห้ง และหายเร็ว
– ใช้ทารักษาอาการผดผื่นตามผิวหนัง
สูตรวิธีการใช้ตามภูมิปัญญา
สูตรที่ 1 บำรุงโลหิตได้ดี โดยเอาใบว่านงาช้างเขียวประมาณ 1 กำมือ ดองกับเหล้าขาวหรือเหล้าโรง 1 ขวด ดองไว้ประมาณ 1 เดือน แล้วเอามาดื่มเพียงครั้งละค่อนถ้วยตะไล เวลาเย็นวันละ 1 ครั้ง หรือจะดื่มเช้าและเย็นก็ได้ ก่อนอาหาร หากว่าไม่ชอบดื่มเป็นเหล้า ให้เอามาต้มเป็นยาต้มก็ได้ ให้ดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็นวันละ 2 เวลา ครั้งละ 1 ถ้วยตะไล จะทำให้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สูตรที่ 2 รักษาอาการใบหน้าเป็นฝ้าหน้าตกกระ โดยเอาใบของว่านงาช้างมาล้างให้สะอาด แล้วเอามาตัดเป็นท่อนสั้นๆ โขลกหรือทุบให้แตกออกมากๆ เอาไปต้มกับน้ำสะอาด เอาน้ำยาที่ได้มาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยตะไล เช้าเย็นอย่างละครั้ง
สูตรที่ 3 ใช้ขับโลหิตเสีย โลหิตเป็นพิษหลังคลอด โดยให้เอาใบของว่านงาช้างเขียวมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นเล็กๆโขลกให้ละเอียดเสียก่อน เอามาต้มสัก 1 กำมือ ใส่น้ำพอท่วมขึ้นมาพอสมควร ต้มไปสัก 15 นาที ยกเอาลงมาให้เย็นลงตามปกติ พออุ่นๆก็รินเอาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยตะไล เช้าและเย็น ก่อนอาหาร ทุกวัน
สูตรที่ 4 แก้ริดสีดวงทวาร และเป็นยาถ่ายพยาธิ โดยใช้รากสด 5-10 กรัม นำมาล้างให้สะอาดโขลกให้ละเอียดอาจจะผสมเหล้าโรงเล็กน้อยก็ได้ คั้นเอาแต่น้ำจิบ
สูตรที่ 5 แก้อาการปวดในหู เอามาเผา แล้วคั้นเอาน้ำออกมา เอาไปหยอดรูหู แก้อาการปวดในหู หูอักเสบ เจ็บปวด หูน้ำหนวกก็ใช้ได้
สูตรที่ 6 รักษารากผม น้ำคั้นจากว่านมาชโลมเส้นผม รักษารากผมให้สมบูรณ์แข็งแรง เส้นผมดกดำเป็นเงางาม ไม่ร่วงหล่น
สูตรที่ 7 ลำต้นนำมาตำหรือหั่นเป็นแว่นผสมสุรา กินแก้ลมตีขึ้น
ใบว่านช้างเขียวประมาณ 1กำมือ
ประโยชน์ด้านอื่นของว่านงาช้าง
1. ปลูกไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันภัยทั้งมวล ทางไสยศาสตร์เชื่อว่าปลูกไว้ป้องกันภัยร้ายได้
2. เนื่องจากลำต้นเทียมหรือใบมีลักษณะโดดเด่นต่างกับพืชอื่น รวมถึงดอกที่ออกเป็นช่อสวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั้งปลูกในกระถาง และปลูกในแปลงจัดสวน ทั้งนี้ อาจปลูกประดับแบบลำต้นตั้งตรงตามธรรมชาติ หรือ ดัดบิดเป็นเกลียวพันหลายต้นเข้าด้วยกัน
3. ปลูกเป็นไม้มงคล ด้วยเชื่อว่าเป็นว่านที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่คนในครอบครัว ช่วยให้ทำมาค้าขึ้นค้าขายร่ำรวย
การปลูกว่านงาช้าง
ว่านงาช้างมักไม่ติดผล ถึงแม้จะมีดอกมาก็ตาม ดังนั้น ตามธรรมชาติของว่านงาช้างจึงขยายพันธุ์ด้วยการแตกเหง้าใหม่เป็นหลัก ดังนั้น การปลูกว่านงาช้างจะใช้วิธีแยกเหง้าปลูกเป็นหลัก ด้วยการขุดแยกเหง้าอ่อนออกมาแยกปลูกเป็นต้นใหม่
การปลูกในกระถางนั้น จำเป็นต้องใช้วัสดุปลูกที่ผสมระหว่างดินกับวัสดุอินทรีย์ อาทิ ปุ๋ยคอก แกลบดำ อัตราส่วนผสมประมาณ 1:3-5 เพื่อให้มีอินทรียวัตถุมาก เพราะว่านงาช้างเป็นพืชที่เติบโตได้ดี มีลำต้นสวยงามหากดินมีความร่วนซุย และดินมีอินทรียวัตถุสูง รวมถึงดินมีความชื้นตลอดเวลา
.