ผักกาดนกเขา ผักพื้นบ้านสรรพคุณดี
ผักกาดนกเขา ผักพื้นบ้านสรรพคุณดี
ผักกาดนกเขา เป็นผักพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก ลำต้นสูงประมาณ 40-60 เซนติเมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ ขอบใบหยัก ใบมีสีเขียวอมเหลือง ดอกช่อสีเหลือง ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน
ผักกาดนกเขามีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ผักกาดนกเขา ผักบั้ง ลิ้นปี่ หูปลาช่อน ผักแดง หางปลาช่อน เฮียะเออัง
ผักกาดนกเขาเป็นผักที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรหลายอย่าง เช่น
นอกจากสรรพคุณทางสมุนไพรแล้ว ผักกาดนกเขายังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้
- ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยป้องกันโรคหวัด
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
ผักกาดนกเขาสามารถนำมากินสด ๆ แกล้มกับแกงหรือจะกินกับน้ำพริก และสามารถนำประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงส้มผักกาดนกเขา ผักกาดนกเขาผัดไข่ ผักกาดนกเขาทอดกรอบ เป็นต้น
วิธีปลูกผักกาดนกเขา
ผักกาดนกเขาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพดินและอากาศได้ดี นิยมปลูกในฤดูฝน โดยสามารถปลูกได้ทั้งในแปลงปลูกและกระถาง
การเตรียมดิน
ดินที่ใช้ปลูกผักกาดนกเขาควรเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ปรับสภาพดินโดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
การปลูก
- ขุดหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุม
- นำต้นกล้าผักกาดนกเขาลงปลูกในหลุม
- กลบดินให้แน่น
- รดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
การเก็บเกี่ยว
ผักกาดนกเขาสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 30-45 วัน โดยตัดใบและยอดอ่อนมาใช้ประกอบอาหาร
ผักกาดนกเขาเป็นผักที่มีประโยชน์ทั้งในด้านอาหารและสมุนไพร จึงควรปลูกไว้รับประทานเองหรือปลูกขายเพื่อเพิ่มรายได้
ข้อควรระวังในการเก็บผักกาดนกเขามาทานนั้นเราต้องรู้ว่าพื้นที่ที่เราเก็บนั้นมีการใช้ยาฆ่าหญ้าหรือเปล่า เพราะผักกาดนกเขาทนต่อยาฆ่าหญ้าและก็เก็บสารพิษเหล่านั้นไว้ในตัวเอง ดีที่สุดคือปลูกไว้ที่บ้านเพื่อเก็บทานเอง
กระทู้นี้ได้เขียนขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากhttps://www.gotoknow.org/posts/185561 และบางส่วนจากตัวผู้เขียนเอง