5 แมวไทยเลี้ยงแล้วรวย เสริมโชคลาภ อำนาจ เมตตามหานิยม
5 แมวไทยเลี้ยงแล้วรวย เสริมโชคลาภ อำนาจ เมตตามหานิยม
ทาสแมวสายมูห้ามพลาด แมวไทยเลี้ยงแล้วรวย สายพันธุ์ไหนจะส่งเสริมการงาน จะให้โชคให้ลาภมาดูกันเลยว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง
1.แมวโคราชหรือ แมวมาเลศ แมวสวาด ต้นกำเนิดพบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชในสมุดข่อยที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือประมาณ พ.ศ. 1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
แมวเพศผู้มีสีเหมือนดอกเลา จึงเรียก แมวสีดอกเลา มีขนเรียบ ที่โคนขนจะมีสีขุ่น ๆ เทา ในขณะที่ส่วนปลายมีสีเงิน เป็นประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว หรือเหมือนคนผมหงอก ลักษณะ ขนสั้น สีสวาดทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย ส่วนหัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช ช่วยเสริมเรื่อง เมตตามหานิยม ทำให้คนรัก เหมาะกับอาชีพ นักแสดง พิธีกร นักการเมือง
2.แมวศุภลักษณ์ หรือ แมวเบอร์มีส, ทองแดง เป็นพันธุ์แมวบ้านซึ่งกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีการพัฒนาในสหรัฐอเมริกา แมวเบอร์มีสสมัยใหม่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของแมวเพศเมียตัวหนึ่งชื่อ วงแมว (Wong Mau) ซึ่งซื้อจากพม่าไปอเมริกาใน ค.ศ. 1930 แล้วผสมพันธุ์กับแมววิเชียรมาศ (สยาม) ผสมพันธุ์โดยท่านเป็นหมอประจำการทหารเรือในอเมริกา โดยส่วนตัวท่านชอบเลี้ยงสัตว์และรักแมวมาก จึงได้ทำฟาร์มแมว Siamese ในปี 1926 เนื่องจากท่านมีพื้นฐานความรู้ เรื่องแมวอยู่แล้ว จึงเริ่มทำการค้นคว้าหาข้อมูลว่า แมวตัวนี้ เป็นแมวสายพันธุ์อะไร เหตุนี้เองจึงเริ่มผสมแมวสายพันธุ์นี้ขึ้น โดยใช้หลักการผสมคือ แมวเบอร์มีส เพศเมีย จากประเทศพม่า ชื่อ วงแมว (Wong Mau) กับแมววิเชียรมาศของไทย เพศผู้ ชื่อ ไทยแมว Taimau และได้ลูกแมวมาเป็นหลากหลายสายพันธุ์และหนึ่งในนั้นเป็นแมวเบอร์มีสสายพันธุ์ใหม่ จึงนำมาผสมกับแมววิเชียรมาศเรื่อยมา จนได้แมวตามสายพันธุ์ที่ต้องการ แต่การนำแมวสายพันธุ์นี้จดทะเบียน ไม่ใช่ตัวท่าน เป็นผู้นำไปจด แต่จะเป็นกลุ่มผู้เพาะพันธุ์แมวเหมือนกันที่เห็นความสำคัญของแมวสายพันธุ์นี้
แมวชนิดนี้มี ขนสั้น สีน้ำตาลเข้มคล้ายสีสนิม (สีทองแดง) บริเวณส่วนหู ใบหน้า ปลายขา หาง จะมีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆ ไป ค่อนข้างกลมและกว้าง หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง หูใหญ่ แมวชนิดนี้จะมีดวงตาออกเป็นลักษณะเหลืองๆ หรือออกสีอำพัน หางยาว ปลายหางแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขาวยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยง แมวศุภลักษณ์ จะช่วยเสริมเรื่อง วาสนา และหน้าที่การงานเหมาะกับอาชีพ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ครู
3.แมววิเชียรมาศบางตำราเรียก แมวแก้ว เป็นแมวไทยโบราณ ตำราว่า ตัวเป็นสีดำดังหมึกวาด และเป็นแมวมงคล มักเลี้ยงกันในวังมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ มีมูลค่าสูง ซื้อขายได้ถึงหนึ่งแสนตำลึงทอง เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ถูกนำไปพม่าเพราะเห็นว่าเป็นทรัพย์สินมีค่า หลังจากนั้นก็สูญหายไปจากไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทฺธสโร ท่องเที่ยวเมืองอยุธยาที่ร้างแล้ว ได้พบสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผาซึ่งเอ่ยถึงแมวนี้ จึงให้คนไปไล่หาแมวนี้มาจนพบ จึงได้พันธุ์แมววิเชียรมาศกลับสู่ไทย
แมวชนิดนี้มี ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวมเก้าแห่ง ขณะที่อายุยังเป็นลูกแมว ขนจะออกสีครีมอ่อน ๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อย ๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด) หัวไม่กลมหรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว ตาสีฟ้า หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยง แมววิเชียรมาศ จะช่วยเสริมเรื่อง โชคลาภ เงินทอง เหมาะกับอาชีพ พ่อค้า แม่ค้า นักลงทุน
4.แมวโกนจา โกญจา (แปลว่า นกกระเรียน) หรือ ร่องมด แมวชนิดนี้เป็นแมวสีดำสนิทตลอดทั้งตัว ขนสั้น ไม่มีสีอื่นใดปะปนเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลักษณะเป็นขนเส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว ส่วนหัวกลมแต่ไม่โต มีปากเรียวแหลม หูตั้ง นัยน์ตาเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือทองอ่อน อาจเปรียบได้กับดอกบวบแรกแย้มหรือทองดอกบวบ รูปร่างสะโอดสะองคล่องแคล่ว หางยาว ปลายหางแหลมตรง อุ้งเท้าทอดคล้ายเท้าสิงห์ มีความสง่างามขณะเคลื่อนไหว แมวสายพันธุ์โกนจา มีลักษณะคล้ายกับแมวสายพันธุ์ต่างชาติอีกสายพันธุ์หนึ่ง คือ บอมเบย์
แมวชนิดนี้มีขนสั้น สีดำตลอดทั้งตัว รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว) หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยง แมวโกนจา จะช่วยเสริมเรื่อง อำนาจ บารมี และบริวาร เหมาะกับอาชีพ ผู้บริหาร นักธุรกิจ
5.แมวขาวมณี หรือ ขาวปลอดเป็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้มากสุดในปัจจุบัน เป็นแมวไทยโบราณที่ไม่ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อย จึงเชื่อว่าเป็นแมวที่เพิ่งกำเนิดในต้นยุครัตนโกสินทร์นี่เอง นิยมเลี้ยงไว้ในราชสำนักครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 แมวชนิดนี้เป็นที่โปรดปราณมาก ในต่างประเทศนิยมเลี้ยงกันเป็นคู่เพื่อให้ผลัดกันทำความสะอาดขน เป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่อง เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนได้เป็นอย่างดี
แมวชนิดนี้มีสีขนและผิวกายขาวสะอาด ขนสั้น นุ่ม รูปร่างลำตัวยาวขาเรียว ทรงเพียวลม ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป หัวไม่กลมโต แต่เป็นทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวใจ หน้าผากแบนใหญ่ หูขนาดใหญ่และตั้งตรงจมูกสั้น ดวงตาจะรีเล็กน้อยนัยน์ตาเป็นสีฟ้าหรือเหลืองอำพันสีใดสีหนึ่งเมื่อนำแมวขาวมณีตาสีฟ้า ผสมกับแมวขาวมณีตาสี อำพัน ลูกที่ออกมาจะมีตาสองสี คือ สีฟ้าข้างหนึ่งและสีเหลืองอำพันข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยในแมวขาวมณีแทบทุกตัวจะมีจุดด้อย เช่น ถ้ามีตาสองสีมักมีตาข้างหนึ่งที่ไม่ดี อาจมองเห็นไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย ถ้าแมวตาสีฟ้ามักจะหูพิการ หรือไม่ได้ยินเสียงมากนัก และแมวตาสีเหลืองอำพันมักมีต่อมขนที่ไม่ดี คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าถ้าใครเลี้ยง แมวขาวมณี จะช่วยเสริมเรื่อง การเงิน รายได้ไม่ขาดมือ เหมาะกับ ทุกอาชีพ โดยเฉพาะสายเปย์