6 ธุรกิจไม่มีวันตกยุค
กระทู้นี้ขอนำเสนอธุรกิจที่ผ่านไปกี่ปีกี่สมัยก็ยังคงหากินได้ตลอดไม่ตกยุคและผู้คนที่มีความสนใจสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจเหล่านี้ได้ทุกยุคทุกสมัยเรียกได้ว่าหากินได้แบบชั่วลูกชั่วหลานกันเลยทีเดียวถ้าเรานั้นได้ศึกษาและทำแบบจริงจังจนเข้าใจแบบถ่องแท้แล้วว่ามันสามารถทำกำไรให้เราได้แบบยาวๆไม่มีตกเทรน เพราะถ้าเราจับทางการลงทุนในธุรกิจถูกโอกาสที่เราจะประสบผลสำเร็จได้นั้นมันอยู่ไม่ไกลเกินความสามารถของคนที่เข้าใจแบบลึกซึ้งและตกผลึกในเชิงปฎิบัติแบบจริงจัง มาดูกันเลยครับว่ามีอะไรกันบ้าง
ในที่นี้การสำรวจบอกว่ามี 6 ธุรกิจที่น่าสนใจดังต่อไปนี้และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
1.ธุรกิจป้องกันความปลอดภัยของทรัพย์สิน
ธุรกิจนี้ต่อให้เวลาผ่านพ้นไปอีกกี่ร้อยกี่พันปี คนก็ยังจะให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินอยู่แล้วเพราะถ้าเราลองไปสำรวจดูตลาดใหญ่ๆอย่างอเมริกาเขาค่อนข้างให้ความสำคัญเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างมากและแนวโน้มธุรกิจนี้จะสามารถโตขึ้นได้อีกไม่มีวันหยุดซึ่งถ้ามองไปดูตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาธุรกิจนี้ค่อนข้างสดใสและเมื่อย้อนกลับมาดูประเทศไทยในอนาคตระบบรักษาความปลอดภัยก็ต้องพัฒนาไปแบบไม่ด้อยไปกว่าประเทศที่เขาพัฒนาแล้วเช่นกัน
และนี่เป็นเพียงระบบความปลอดภัยภายในบ้านเท่านั้นยังไม่รวมระบบความปลอดภัยของทรัพย์สินของมีค่าที่คนเรากว่าจะหามาได้ด้วยความยากลำบากเพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีวิธีจัดเก็บและเซฟทรัพย์สินของเรานั้นให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
2.ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำก้าวหน้าไปอีกกี่ยุคกี่สมัยมนุษย์เราก็ยังคงต้องพึ่งพาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ถ้าระบบขนส่งติดขัดเมื่อไหร่ทุกๆอย่างบนโลก จะติดขัดไปด้วยแน่นอน
เพราะฉะนั้นระบบขนส่งแบบโลจิสติกส์มันขาดไม่ได้ของมนุษย์เราอย่างในประเทศไทยหลังจากเราผ่านวิกฤตหนักๆอย่างโควิดพบว่ามีการจดทะเบียนของระบบขนส่งแบบโลจิสติกส์ในปี65มากกว่าปี64ถึง39%เลยทีเดียวผลพวงหลักๆเกิดจากชาวต่างชาติที่อยากเข้ามาลงทุนในประเทศไทยทำให้เรามองได้ว่าธุรกิจโกดังสินค้ายังสามารถโตได้อีกเรื่อยๆ
3.ธุรกิจการศึกษา
ในที่นี้หมายถึง การสอนการให้ข้อมูลต่างๆนานาหรือแม้แต่ของเล่นเพื่อการศึกษา
เพราะมนุษย์เราไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่สมัยมันก็มีอะไรให้ได้เรียนรู้อยู่เสมอการศึกษามันเป็นอะไรที่ไม่จบไม่สิ้นและที่สำคัญตลาดการศึกษาในช่องทางออนไลน์มีแนวโน้มที่จะโตได้อีกแบบยาวไกล นักวิเคราะห์บอกว่าหากใครได้ถือครองส่วนแบ่งการตลาดการศึกษานี้สามารถหากินได้ตลอดแบบไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว
แต่ด้วยธุรกิจที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากจึงมีการแข่งขันที่สูงมากๆเช่นเดียวกันแต่รับรองว่าตราบใดที่ยังมีมนุษย์อยู่บนโลกใบธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษานี้ก็คงจะมีได้แบบไม่สิ้นสุด
4.ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ
จากการสำรวจผู้สูงอายุในประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุอยู่ที่หนึ่งในหกของประชากรทั้งหมด ซึ่งตัวเลขการสำรวจนี้เราอยู่อันดับ 2 ในอาเซียนรองจากสิงคโปร์ซึ่งอีกไม่เกิน 20 ปีข้างหน้าเราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มตัวเหมือนเช่นในสังคมญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงธุรกิจผู้สูงอายุอยู่แล้วเราจะนึกถึงแค่บ้านพักคนชราแต่จริงๆแล้วมันกว้างกว่านั้น
ในเรื่องของสิ่งไม่สะดวกไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้เตียงผู้สูงอายุปรับระดับ วัสดุปูพื้นกันลื่น อุปกรณ์ราวจับ หรือแม้แต่อาหารการกินที่เคี้ยวง่าย ล้วนเป็นส่วนประกอบสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุทั้งสิ้น
เราอยากเข้าไปในธุรกิจผู้สูงอายุนี้เราอย่าไปคิดอะไรที่มันซับซ้อนมาก เขาก็คือมนุษย์ทั่วไปที่ร่างกายใช้ชีวิตลำบากมากยิ่งขึ้นในยามแก่ชรา สิ่งที่เราจะเข้าไปช่วยได้ในธุรกิจอย่างอื่นเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตของผู้ชราสูงอายุ ได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น
5.ธุรกิจไซเบอร์ security
ในโลกของธุรกิจออนไลน์มันมีการแฮกข้อมูลการโจรกรรมข้อมูลออนไลน์ที่หวังผลประโยชน์ที่แฝงมาในรูปแบบของโจรออนไลน์
มากกว่า 4,000 ครั้งต่อวันกันเลยทีเดียวแล้วก็เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากจากการสำรวจ
ซึ่งถ้านับมูลค่าความเสียหายรวมๆกันทั้งหมดมันประเมินค่าไม่ได้เลย
และบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้เขาลงทุนปกป้องคุ้มครองปีละมหาศาลมากๆเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทของเขารวมวิถีทางเพื่อไม่ให้บริษัทถูกล้วงข้อมูลโจรกรรมข้อมูลออกไป
6.ธุรกิจเกี่ยวกับความเชื่อความศัทธา
ไม่ว่าโลกจะวิวัฒนาการล้ำหน้าทันสมัยไปแค่ไหนธุรกิจความเชื่อความศรัทธานั้นไม่เคยสูญสิ้นไปจากโลกนี้
ธุรกิจความเชื่อความศรัทธามันกว้างกว่านั้นมากๆเหตุเพราะว่าความเชื่อของมนุษย์ความศรัทธาของมนุษย์มันไม่มีขอบเขตจำกัดหรือเหนี่ยวรั้งห้ามมิให้คนๆนั้นเปลี่ยนความคิดนั้นได้
ตราบใดที่เราสร้างความเชื่อให้เชื่อมโยงกับแบรนด์นั้นได้เราก็เข้าสู่ตลาดนี้ได้เหมือนกัน
ตัวอย่างเช่นขนมคิทแคทของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งแบนคิทแคทนี่ดังมากในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งคนญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า"kito"คัตโตะ"
ซึ่งชื่อของมันดันไปพ้องเสียงกับคำว่า
"คิทโตะคัตสึ"ที่แปลว่าต้องชนะแน่นอนเท่านั้นแหละขนมคิทแคทจึงเป็นขนมที่คนญี่ปุ่นมักจะซื้อเอาไว้เชียร์อีกคนหนึ่งว่า"สู้ๆนะ"โดยเฉพาะนักเรียนที่เข้าไปสอบแข่งขัน ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นธรรมเนียมในประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว
ซึ่งเราก็จะเห็นนะว่าการสร้างเรื่องราวสร้าง story ให้กับแบรนด์นั้นได้จะทำให้เพิ่มคุณค่าสร้างความเชื่อความศรัทธานั้นได้มหาศาลจริงๆรู้สึกถึงคุณค่าที่คุณคู่ควร.
อ้างอิงจาก: I am joe jitnarin & Paul Pattarapon