เตือน!! อย่าพึ่งกิน "ยาแก้ปวดหัว""ยาพาราเซตามอลถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ ตับพัง ไตวายไม่รู้ตัว
อย่าพึ่งกิน "ยาแก้ปวดหัว" ยาพาราเซตามอลถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ ตับพัง ไตวายไม่รู้ตัว
คุณหมอไมค์ หมอสมอง เตือน การกินยาพาราเซตามอลแก้ปวด เวลาปวด ปวดหัว ปวดตัว ปวดเมื่อยหรือเป็นไข้ กินพาราสองเม็ด แลัวสังเกตุดูอาการจะเป็นอย่างไรบ้าง
ยาพาราเซตามอล ถูกขับออกจากร่างกายผ่านตับ แสดงว่าถ้าคุณกินเกินขนาด มีโอกาศที่ตับจะอักเสบ
จนถึงขั้นตับพัง แล้วก็มีโอกาศเสียชีวิตได้ ดังนั้นวิธีการกินยาพาราเซตามอลอย่างปลอดภัย มีอยู่ 3 ข้อมีอะไรบ้าง
ข้อ1.ให้รับประทานยาพาราเมื่อจำเป็น เมื่อจำเป็นแปลว่าถ้าคุณรู้หลักการของยาพาราเซตามอลว่ามันขับผ่านตับแล้วมันจะช่วยลดอาการปวดแบบเบาๆจนถึงปานกลางได้ ถ้าคุณปวดหนักๆ โอกาศที่กินพาราแล้วมันจะหายปวด มีโอกาศน้อย แล้วดูยังไงว่าปวดหนักๆเบาๆ สมมติว่าในการปวดหนึ่งครั้ง คุณให้คะแนนความปวดแบบไม่เคยปวดและเคยปวดทั้งชีวิตแล้วก็ปวดสูงสุดในชีวิต ให้คะแนนเต็ม 10 ไม่เคยปวดเลยให้ 0 ถ้าคุณปวดสักประมาณ 1, 2 ถึง 3 คะแนน เต็ม 10 ไม่เกิน 5 ถึง 6 คะแนน ในเต็ม 10 ประมาณนี้ คุณใช้พาราได้ ถ้าคุณปวดอาการสัก 8 และ 9 คะแนน ในเต็ม10 หรือปวดแม็กซิมั่มmaximum เต็มที่ที่สุด 10 เต็ม 10 แบบนี้กินยาพาราไปก็ตับอักเสบเปล่าๆ แนะนำให้คุณไปโรงพยาบาลเพื่อไปรักษาอาการอาการปวดมากๆแบบนั้น เช่นรักษาแบบใช้มอฟีนหรือใช้อย่างอื่นจะดีกว่า
ข้อ2. เราต้องกินยาพาราตามน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวตามปรกติตามหลักทางการแพทย์ ต้องกิน 10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แปลว่าถ้าคุณหนัก 50 - 70 กิโลกรัม คุณใช้ยาแค่ 500 มิลลิกรัม คือกินเม็ดเดียว แต่ถ้าคุณหนักสักประมาณ 30 ถึง ไม่เกิน 50 กิโลกรัม คุณใช้ยาพาราแค่ครึ่งเม็ดพอ ในยาพารา 1เม็ดจะเท่ากับ 500 มิลลิกรัม แต่ถ้าคุณกิน 2 เม็ด เข้าไป เกินขนาดมีโอกาศตับอีกเสบได้ แต่ถ้าคุณมีน้ำหนัก 75 กิโลกรัม ขึ้นไป ถึง 100 กิโลกรัม ให้กินเม็ดครึ่งได้ แต่ถ้าคุณหนัก 100 กิโลกรัม ขึ้นไปเป็นแบบคนร่างใหญ่หรือคนอ้วน กิน 2 เม็ดทีเดียวได้ และที่สำคัญให้กินห่างกันทุก 4 ชั่วโมง อย่ากินทุก 2 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง ถ้ายังไม่หายปวด แนะนำให้ไปพบแพทย์ไปตรวจว่าเป็นโรคอะไร
ข้อ3. ยาพารา เป็นยารักษาตามอาการเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาโรค เช่น เป็นไข้หวัด คุณกินยาพาราลดไข้และไข้ยังไม่ลดลง คุณอย่ากินยาพาราไปเรื่อยๆเพราะไข้ยังไม่ลดลง คุณต้องไปตรวจว่าเป็นไข้จากสาเหตุอะไรปวดจากโรคอะไร ไม่ใช่กินแต่ยาพาราเบิลไปเรื่อยๆ กินจนตับอักเสบหรือตับพังขึ้นมา มันจะไม่คุ้มน่ะครับ แต่ส่วนมากจะกินยาเรื่องปวดศรีษะ ที่เจอบ่อย 70% จะปวดหัวบ่อยๆก็คือจะเป็นไมเกรน จะมีอาการปวดขมับ ปวดตุ๊บๆ ปวดออกเบ้าตา ปวดสันจมูกปวดหน้าผาก ปวดคอบ่าไหล่ซ้ายขวาสลับไปสลับมา บางคนปวดทั้งหัว เวียนหัว แบบนี้เรียกโรคไมเกรน แต่ถ้าเป็นแบบนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไป แบบนี้เรียกว่าโรคไมเกรนเรื้อรัง ยาพาราช่วยได้ช่วงที่ปวดไม่หนักอาการปวดเบาๆ แต่ถ้าปวดเยอะๆเกิน 3 เดือน แนะนำให้ไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง เพื่อให้การรักษาโรคไมเกรนเรื้อรังอย่างถูกต้อง ซึ่งหมอจะแนะนำให้ทานยาเพื่อป้องกันไมเกรนอย่างน้อย 6 เดือนถึง 12 เดือน
อ้างอิงจาก: Tiktok:หมอไมค์ หมอสมอง หมอทรงพลังคุณสร้างได้
https://www.tiktok.com/@drmiketv?_t=8fYsUuaxRFH&_r=1
ขอบคุณภาพจาก:
Ron Lach
Polina Tankilevitch
Karolina Grabowska
Jonathan Borba