ขี่หลังหลังเสือแล้วอย่าคิดว่าลงง่าย
ขบวนแห่แตรวง ผสมกลองยาวรำหน้านาคด้วยเสียงอึกทึก เท่งโมง ตุ้มโมง พร้อมเหล่านางรำหลายวัยที่อาสารำนำขบวนแห่นาค ต่างโชว์ลีลากันอย่างถึงพริกถึงขิง ด้วยใบหน้าเบิกบาน อิ่มเอิบ เพราะต่างมีความเชื่อว่าได้บุญมาก เพราะมีโอกาสรำนำหน้าเพื่อส่งนาคเข้าโบสถ์ เพื่อบวชเรียนเป็นพระภิกษุ ตามความเชื่อที่บอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่าถ้าตายแล้วได้เกิดมาใหม่ จะได้เกิดมาสวยระดับนางสาวไทยทำนองนั้น จึงไม่แปลกใจที่ขขบวนแห่นาคของ คม คำสอน ลูกชายกำนัน หาญ คำสอน ผู้ที่มีอิทธิพลในตำบลหนึ่งของภาคกลางตอนบน จึงครึกครื้นเป็นพิเศษ ทุกนางจึงส่ายกระแชแร่รำจ้ำแข่งกันด้วยความหวังอย่างยิ่ง ว่าใครสักคนจะเป็นดาวเด่นให้กล่าวขานภายในหมู่บ้านให้เป็นที่กล่าวขาน
หรือจะเป็นคนถือหมอนที่หลายคนคาดเดาว่า น่าจะเป็นคนรู้ใจของพ่อนาค แม้แต่พ่อแม่ของพ่อนาคที่ถือผ้าไตรจีวร รวมทั้งผู้ที่ถือพานพุ่มอัตถบริขารต่าง ๆ แต่ละคนก็มีสีหน้าอิ่มเอิบไปตาม ๆ กัน และอีกหลายคนยังสะลึมสะลือจากน้ำสีอำพันในงานเลี้ยงเมือคืนที่ผ่านมา ทำให้ความครึกครื้นเพิ่มอรรถรสไร้ยางอาย ในการแสดงออกต่าง ๆ
ผู้ที่ดีใจเป็นล้นพ้นยิ้มปากไม่หุบ ก็เห็นจะเป็นนางผ่อน คำสอน ที่ได้บวชลูกชายสมใจซึ่่งก่อนหน้านี้นางหวั่นวิตกกลัวลูกชายคนเดียวของนางจะไม่ได้บวชเสียด้วยซ้ำ ด้วยกิตติศัพท์ลูกชายกำนัน หาญที่สร้างชื่อเสียงไว้หลายคุ้งน้ำ ตั้งแต่คมเริ่มแตกเนื้อหนุ่มชื่อเสียงในทางลบเริ่มดังกระฉ่อนขึ้นมาเป็นลำดับตั้งแต่เรียนมัธยมต้น จนจบมัธยมปลายไม่ว่าจะตีรันฟันแทง หรือข้องแวะกับยาเสพติด ที่กลุ่มวัยรุ่นตัวฉกาจคลุกคลีกับมัน เป็นต้องมี คม คำสอน ไปเอี่่ยวด้วยทุกครั้ง ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีทางเรียนจนจบมัธยมปลายหรอก เพราะเห็นแก่กำนันหาญ คำสอน ครูจึงให้จบโดยมรรยาทด้วยสินน้ำใจ เล็ก ๆ น้อย ๆจากกำนันแต่มันมากสำหรับผู้มีอำนาจสูงสุดในโรงเรียนแห่งนั้น โดยรู้หนังสือแบบ งู ๆ ปลา ๆ แต่คมก็ไม่คิดจะสอบเข้าเรียนต่ออะไรให้ปวดสมอง กำนันหาญก็เห็นดีด้วย แค่ที่ดินและที่นารวมกันอีกหลายพันไร่ และเงินกู้ดอก มหาโหดพร้อม รับจำนองที่ดินชาวบ้าน ซึ่งส่วนมากก็ไม่ค่อยมีปัญญา มาไถ่คืนอยู่แล้ว แค่คมมาสานต่อชาตินี้ก็กินไม่หมด..
แต่การเดินออกนอกลู่นอกทางของ คม คำสอน ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจึงถึงแตกเนื้อหนุ่ม มันทำให้กำนันหาญ พ่อของมันหนักใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าแกจะเข้มข้นในการขูดเลือดปู ด้วยการเก็บดอกเบี้ยและเก็บค่าเช่านา มหาโหด แต่แกก็ไม่ข้องแวะเกี่ยวกับยาเสพติด ยังถือว่าแกมีอุดมการณ์อยู่บ้าง แต่ข้อเสียคือแกมีอำนาจในการปราบปราม ยาเสพติดแต่ก็ไม่เคยจริงจังกับการปราบปรามเลย ด้วยไม่อยากไปขวางทางขาใหญ่ สู้ทางใครทางมันดีกว่าแค่แกไม่เกี่ยวข้องกับมันเท่านั้น..มันจึงเป็นดาบสองคมเมื่อลูกชายของแกเข้าไปเกี่ยวข้องกับมัน
ดั่งสุภาษิตที่ว่า เมื่อขึ้นขี่หลังเสือแล้วต้องเกาะมันไว้ให้แน่น หากลงมาเมื่อไรย่อมถูกเสือร้ายขย้ำทันที ..ในค่ำคืน คืนหนึ่ง คม คำสอน ครั้งยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมปลาย ด้วยความคึกคะนองตามวัย ประกอบกับสังคมเริ่มเลวร้ายลงทุก ๆ วัน เมื่อยาเสพติดประเภทยาบ้าเข้ามาระบาดอย่างหนักเพื่อน ๆ หลายคนได้ถลำลึกลงไปเกินกว่าจะเยียวยา จากการระบาดอย่างหนักของยาบ้า..โดยขาดจิตสำนึกของพ่อค้ารายใหญ่ ที่มีอิทธิพลและมีคนมีสีบางคนหนุนหลังให้ โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะฉิบหาย วายป่วง อย่างไร มุ่งหวังแต่ตนเองและพวกพ้อง ให้ร่ำรวยขึ้นมาโดยใช้เงินเป็นฐานสร้างอำนาจ มหันตภัยจึงกระจาย เป็นเครือข่าย โยงใย ระบาดกันยุ่งเหยิงไม่ว่าจะเป็นสถานเริงรมณ์ ไม่เว้นแม้แต่หน่วยราชการ และสถานศึกษาต่าง ๆ จนหลาย ๆ คนตกเป็นทาสของมันอย่างลีกเลี่ยงได้ยาก และอย่าได้หวังพี่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่มีบทบาทหน้าที่โดยตรงเสียให้ยากเลยในเมื่อกฎหมายเริ่มอ่อนแอ เจ้าหน้าที่บางคนจึงกลายเป็นทาสของมันเสียเอง มันจึงเป็นความเจ็บป่วยที่ยากจะเยียวยาไปเสียแล้ว "ยังหวังลึก ๆ ว่าสักวันจะมีคนดีมาช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น "..
แต่เมื่อ คม คำสอน ถลำลึกจนกลายเป็นผู้ค้ารายย่อย จนเกือบใหญ่ขึ้นไปเป็นลำดับ แกจึงเด็ดขาดกับลูกชายแกให้เลิกข้องแวะกับยาเสพติดซะ.. แต่..! คม คำสอน ได้ถลำลึกไปมากจนยากที่จะถอนตัวออกมาได้เสียแล้ว..มากจนเขาได้ล่วงรู้ความลับ ต่าง ๆ รู้จนว่าใครคือผู้บงการใหญ่อยู่เบื้องหลัง..
...แต่วันนี้ คม คำสอน ได้ตัดสินใจจะบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อ แม่ เมื่อนางผ่อน แม่ของเขาขอร้องแกมอ้อนวอนโดยแฝงความนัยเพื่อจะได้ห่างไกลจากวงจรอุบาท ที่คมเดินเหยียบย่ำอยู่ในขณะนี้ ประกอบกับอายุเลยบวชมาหลายขวบปีแล้ว...
ขบวนแห่นาคใกล้จะถึงวัดแล้วเหลือระยะทางไม่ถึงห้าร้อยเมตรถ้าสังเกตุดี ๆ ตรงพุ่มไม้ข้างทางจะมีชายฉกรรณ์สองคน ในชุดไอ้โม่งคลุมหน้าสนทนากันเบา ๆ " ท่านสั่งว่าให้ตัดตอนออกไปซะ ในเมื่อมันคิดจะถอนตัวออก มันรู้เรื่องเรามากเกินไปแล้ว"...?