หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แปลกแต่จริง "ผ้าก็อชหนังปลานิล"

โพสท์โดย Gnapbio

 

                ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ในสังคมออนไลน์มีการแชร์ข่าวและข้อมูลการใช้หนังปลานิลมาแปะบนร่างกายรักษาแผลผู้ป่วยไฟไหม้

การันตีให้ผลเยี่ยม จนเป็นที่ฮือฮาอยู่ระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันก็มีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่คอนเทนต์ลวงหลอกเรียกยอดไลก์ยอดแชร์เพียงเท่านั้น

 

            ย้อนความกลับไป เรื่องราวหนนั้นมีต้นตอมาจากประเทศบราซิล และเป็นเหตุการณ์จริงที่แพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งนำหนังปลานิลมารักษาแผลไฟไหม้

   

         แนวคิดนี้เกิดจากการที่ทีมแพทย์ต้องการหาทางออกให้กับผู้ป่วยที่ประสบเหตุถูกไฟไหม้ผิวหนัง จึงทดลองปลูกถ่ายผิวหนังจากวัสดุหลายประเภท ซึ่งในทางการแพทย์เคยพัฒนาการนำผิวหนังของมนุษย์ หมู และแม้แต่กบมาใช้จนสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้เป็นที่นิยมนักในบราซิล เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่นเรื่องราคา บวกกับผู้ป่วยประเภทนี้ส่วนใหญ่มีฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน จึงต้องมองหาทางเลือกอื่นๆ มาทดแทน จนบทสรุปมาตกที่หนังปลานิล

 

          การที่หนังปลานิลเหมาะที่จะใช้รักษาแผลไฟไหม้และปลูกถ่ายผิวใหม่ เพราะว่ามันมีโครงการผิว (morphology) เหมือนผิวมนุษย์  มีไมโครไบโอต้าที่ไม่ติดเชื้อ (ใช้สร้างผิวใหม่)   มีคอลลาเจนชนิดที่ 1  ในปริมาณสูง (ที่ผิว ผม กระดูก อวัยวะภายในเราต้องใช้) 
มีความชุ่มชื้นสูงที่สามารถเก็บความชื้นได้ดีแทนผ้าพันแผลที่ปกติใช้ เช่น ผ้าพันแผลพาราฟินก็อซ ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยแทบทุกวัน          หรือ 2-3 วัน แล้วมันทรมานมาก ๆ กว่าคนไข้จะหายก็ใช้เวลานานแล้วก็เปลืองทรัพยากรเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ ซึ่ง ถ้าใช้ผิวปลานิลจะพันทิ้งไว้ได้นาน ๆ ถึง 5 วัน หรือจนหายไมต้องเปลี่ยนเลย คือลดความเจ็บปวดไปกว่า 50% แล้วราคาถูก มีความยืดหยุ่นและทนทานในตัวช่วยปกป้องแผล ลดแผลเป็น

 

               เนื่องจากหนังปลานิล วัสดุชีวภาพที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่คล้ายคลึงกับผิวหนังมนุษย์ และมีปริมาณคอลลาเจนสูง ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่นและการสมานแผล               

               รวมถึงยังสามารถป้องกันการสูญเสียความชื้นและโปรตีนบนบาดแผลได้ และยังยึดเกาะแผลได้ดี ช่วยป้องกันเชื้อโรคจากภายนอก ทำให้แผลหายเร็วขึ้น

และนวัตกรรมชีวภาพนี้ก็ไม่ได้ใช้กับแค่คนเท่านั้น ยังถูกนำมาต่อยอดรักษาสัตว์ที่โดนไฟป่าเล่นงาน ไม่ว่าจะเป็นเหตุไฟป่าใน Pantanal ของบราซิล ที่สหรัฐอเมริกา หรือโคอาลาที่ออสเตรเลียก็ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งข้อดีอีกอย่างคือ การนำวัสดุชีวภาพมาใช้จะช่วยลดอันตรายเวลาสัตว์รู้สึกรำคาญเผลอกัดและกลืนเข้าไป ถ้าเป็นผ้าก๊อซก็อาจก่อให้เกิดอันตรายอื่นๆ กับสัตว์ได้อีกทอดหนึ่ง

              อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็มีข้อยกเว้นว่า มันไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน เนื่องจากพบอาการแพ้ในผู้ป่วยที่มีโรคอื่นแทรกซ้อนอยู่เหมือนกัน

               แต่ถึงจะมีข้อจำกัดกับผู้ป่วยบางประเภท รายงานการวิจัยก็ค่อนข้างให้ความเห็นไปในทางบวก คือ สามารถใช้แทนการพันผ้าก๊อซชุบพาราฟินได้อย่างไม่น้อยหน้า อีกทั้งเมื่อเทียบราคาแล้วยังถูกกว่า รวมถึงมีความยั่งยืนกว่าในแง่การผลิต ซึ่งงานวิจัยก็หวังเห็นถึงการนำหนังปลานิลไปใช้เชิงพาณิชย์ได้ และใช้ในทางการแพทย์ต่อไป

 

ลักษณะแผลที่ใช้

  1. บาดแผลไฟไหม้เป็นแผลที่น่ากลัว เพราะแผลพวกนี้ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ขาดน้ำ เสี่ยงต่อการอักเสบ และเกิดแผลเป็น ถ้าแผลใหญ่จะน่ากลัว ต้องมีการทำแผลบ่อยๆ และถ้าติดเชื้อก็ต้องใช้ยา

ถ้าแผลลึกและใหญ่พอ แม้ไม่ตายจากไฟไหม้ก็จะตายจากติดเชื้ออยู่ดี

  1. ในการพัฒนาการรักษา มีตั้งแต่การใช้น้ำผึ้ง ยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ ก็อซ ใบตอง หนังคน หนังหมู แผ่นเงิน

ซึ่งปัจจัยที่มีปัญหาคือ

          - ถ้ารักษาแผลได้ดี มักแพง

          - ถ้าราคาถูก มักรักษาได้ผลไม่ดี หรือได้ผลดีแต่เจ็บ

 

  1. เราพบกันว่า หากใช้วัสดุใส่แผลที่มีคอลลาเจนที่เหมาะสม จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ... ซึ่งแพง

มีการใช้หนังหมู(มีคอลลาเจนที่เหมาะสม) ในการปิดแผล แต่ก็แพง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะมนุษย์และหมูคล้ายคลึงกัน

 

  1. 15ปีก่อน เริ่มมีงานวิจัยเอาผิวหนังปลามาสกัดคอลลาเจน แล้วเอาไปทำวัสดุปิดแผล

ก็ทำๆกันมาหลายๆประเทศ

 

 

  1. เมื่อ 2 ปีก่อน นักวิจัยจีนเอาหนังปลานิลมาสกัดคอลลาเจน จากนั้นเอาไปทำแผ่นปิดแผลให้หนู ปรากฎว่าหนูหายเร็วขึ้น

ตอนนั้นก็มีความหวังว่าจะมีการพัฒนาเข้าสู่มนุษย์ ... แต่น่าจะใช้เวลานาน เพราะว่าการจะวิจัยอะไรพวกนั้นต้องผ่านขั้นตอนเยอะแยะมากมาย

 

  1. ทีนี้หมอที่บราซิลได้ข่าวงานวิจัยที่ว่า ก็เลยทดลอง

          - ไปกระชังปลานิล

         - ให้ตัดหนังปลา(ซึ่งปกติเป็นของเหลือทิ้ง) ส่งไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

          - ส่งหนังปลาฆ่าเชื้อแบคทีเรียส่งไปฉายรังสีเพื่อฆ่าไวรัส

         - บรรจุหนังปลาฆ่าเชื้อใส่ภาชนะสะอาด เก็บแช่เย็นอยู่ได้ 2 ปี ไม่มีกลิ่นปลา

         - พอมีคนไข้ไฟไหม้ก็เอาหนังปลาแบบที่ยังเห็นเกล็ดๆนี่แหละ แปะ แทนผ้าพันแผล

          ปรากฎว่าลดอาการอักเสบ ลดเจ็บปวด แผลหายเร็วขึ้น ไม่มีแผลเป็น แถมยังถูกกว่าการใช้ยา SilverSulfa ที่ใช้กันปกติอีก

ทำแผลก็ดึงออกได้ไม่เจ็บมากเท่าผ้าพันแผล  แถมใช้หนังปลาเพียวๆ ไม่ต้องไปสกัดทำเป็นแผ่นให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่ากระโดดแซงโค้งจีนข้ามขั้นไปทำการวิจัยในมนุษย์ได้ในขั้นตอนเดียว

 

          สุดท้าย ถึงบทสรุปจะมองเห็นอนาคตของวัสดุทางเลือก แต่เราไม่แนะนำให้ใครทำตามหรือเอาอย่าง การรักษานี้เป็นเรื่องที่ต้องทำโดยแพทย์ และหนังปลาที่ใช้ต้องผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐานหลายขั้นตอนก่อน

ไม่ใช่จู่ๆ เดินไปซื้อปลาจากตลาดแล้วแล่มาแปะเอง – อย่าหาทำโดยเด็ดขาด!

โพสท์โดย: Gnapbio
อ้างอิงจาก: https://starfm.teroradio.com/news/20420
:http://realmetro.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Gnapbio's profile


โพสท์โดย: Gnapbio
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: เป็ดปักกิ่ง, นางเบิร์ด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพจดังเปิดภาพพระสงฆ์ ควงแขนผู้ชาย ชาว เน็ตวิจารณ์ยับ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
วิธีล้างผักให้สะอาดปราศจากสารพิษตกค้างจริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสีย
ตั้งกระทู้ใหม่