เทคนิคง่ายๆ...ในการลดคอเรสเตอรอลและไขมันในเลือด
หลายคนไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตนเองได้ ทำให้มีคอเรสเตอรอลและไขมันในเลือดในปริมาณที่สูงเกินมาตรฐาน พยายามแล้วพยายามอีกในการปฏิบัติตนในลด ละ เลิกอาหารเพื่อลดปริมาณคอเรสเตอรอล แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินเพื่อสุขภาพและการปฏิบัติตนเพื่อมีสุขอนามัยที่ดี ซึ่งเมื่อเราเข้าใจจริงๆแล้วเราจะสามารถลดไขมันในเลือดลงได้และที่สำคัญคือการลดน้ำหนัก ลดความอ้วนของเรานั่นเอง
โดยทั่วไป เมื่อเราไปเจาะเลือดเพื่อหาปริมาณไขมันในเลือดผลที่ออกมาจะมีอยู่ 4 ตัวหลักๆคือคอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันดี(HDL)และไขมันเลว(LDL) ซึ่งตัวการหลักที่ทำให้เราเกิดปัญหาและเราต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือสองตัวแรก คือคอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ โดยปกติเราเคยมีความเข้าใจฝังในหัวเสมอว่าการลดคอเรสเตอรอล ต้องลดไข่แดง ต้องลดนั่น ลดนี่ มันเป็นเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ส่วนสาระจริงๆนั้นก็คือ เราจะทำอย่างไรที่จะไม่ทำให้หลอดเลือดเรานั้นเกิดอักเสบและสิ่งที่ทำให้หลอดเลือดของเรานั้นเกิดการอักเสบตัวการสำคัญก็คือ “น้ำตาล” การทานอาหารที่มีน้ำตาล การทานของจุกๆจิกๆทั้งวัน ทำให้หลอดเลือดของเราเกิดการอักเสบได้ค่อนข้างง่ายและทำให้อ้วนขึ้น นั่นหมายถึงโรคต่างๆจะตามมาอีกมาก เช่น ความดัน เบาหวาน หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากน้ำตาลเหล่านั้นเมื่อเราใช้ไปไม่หมด มันจะเปลี่ยนไปเป็นไขมัน(ไตรกลีเซอไรด์) ซึ่งเป็นไขมันสะสม เมื่อทานมากก็สะสมมากเมื่อใช้ไม่หมด และเมื่อเราตรวจเลือดแล้วไตรกลีเซอไรด์สูง สันนิษฐานได้เลยว่าหลอดเลือดของเรานั้นอักเสบแน่ๆในระดับหนึ่งแม้ว่าคอเรสเตอรอลของเราจะไม่สูงก็ตาม มีหลายกรณีที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจทั้งที่คอเรสเตอรอลไม่สูงเลย ดังนั้นไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีคอเรสเตอรอลสูงจะไม่มีความเสี่ยงเพราะว่าความเสี่ยงจริงๆคือสิ่งต่างๆที่เป็นพฤติกรรมเดิมๆย้ำๆที่ทำให้หลอดเลือดของเราเกิดอักเสบเราก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเหล่านั้น
ดังนั้นเราไม่ต้องไปกังวลว่าจะทำอย่างไรให้คอเรสเตอรอลนั้นลดลง แต่ต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดได้ ดังนี้
1.ลดอาหารทุกชนิดที่เป็นน้ำตาล
2.ลดอาหารประเภทแป้งให้มากที่สุด
3.เลิกพฤติกรรมกินจุกๆจิกๆ เพื่อให้ร่างกายนำไขมันมาใช้บ้าง(ไม่ใช่ใช้แต่น้ำตาลกับแป้ง)
เมื่อเราหยุดพฤติกรรมสามข้อนี้มากและมากขึ้น ร่างกายเราก็จะได้มีเวลานำไขมันเก่าที่สะสมไว้มาใช้มากขึ้นเช่นกัน และนั่นหมายถึงการลดความเสี่ยงจากหลอดเลือดอักเสบและลดไตรกลีเซอไรด์นั่นเอง
อ้างอิงจาก: https://pixabay.com/th/photos/อาหาร-ข้าวผัด-อาหารไทย,
https://pixabay.com/th/photos/อาหาร