โค้กผลิดครั้งแรกมันคือยานะไม่ได้กินเหมือนทุกวันนี้
ก่อนจะเข้าเรื่องขอพูดถึงเรื่องการกินของคนต่างชาติสะหน่อย
คือคนต่างชาติส่วนใหญ่จะเน้นอาหารไปทางเนื้อสัตว์ต่าง ไม่ว่าจะเป็นแพะ หมู ไก่ กวาง กระต่าย เป็ดป่า หรือไก่งวง เป็นอาหารที่ต่างชาติกินกันมานานไม่ได้เน้นข้าวแบบคนเอเชียอย่างบ้านเรา เขาจึงไม่ค่อยสนใจบริโภคผักสักเท่าไหร่ จึงมีปัญหาในการย่อยอาหาร จนมีร้านขายยาคิดค้นยาช่วยย่อยอาหารขึ้นมา นั้นคือพระเอกของเรา โค้กนั้นเอง
ในปี 1888 Dr. John S. Pemberton ได้ขายสิทธิบัตรสูตร Coca-Cola ให้กับนักธุรกิจที่ชื่อ Asa Griggs Candler เพื่อนำสูตรของเขามาผลิตเป็นเครื่องดื่มอัดลมภายใต้แบรนด์ Coca-Cola หรือโค้กที่คนไทยเรียกกันออกจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน
ในเวลานั้นเทรนด์ฮิตติดร้านขายยาคือ การมีตู้โซดาจำหน่ายเครื่องดื่มให้กับลูกค้าอยู่หน้าร้าน (เหมือนกับประเทศไทยในอดีตที่ร้านขายยามีน้ำเก๊กฮวยและจับเลี้ยงขาย) และ Caleb ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับร้านยาของเขาด้วยการพัฒนาสูตรเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบจากน้ำคาร์บอเนต ผลโคลา และวานิลลา มีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารนั้นเอง ใครที่กินแล้วอาหารไม่ย่อยแน่นท้องในสมัยนั้นมักมองหาโค้กหรือบางคนซื้อติดบ้านใว้กันเลยทีเดียว จะกินพร้อมอาหารหรือหลังจากทานอาหารแล้วแต่ความชอบของคนในยุคนั้นแต่ปัจใจหลักที่คนทานโค้กในสัมยนั้นเพราะ มันทำให้ย่อยอาหารเกิดความอยากอาหาร
จากข้อมูลที่กล่าวมา โค้กมีสารที่ช่วยย่อยอาหารเพราะเหตุนี้เราจึงไม่ควรทานน้ำอัดลมต่างไม่ใช่แค่โค้กนะครับมันจะไปกัดผนังลำไส้ทำให้เกิดโรคกระเพราะอาหารได้ในเวลาต่อมา เพราะมันมีสารต่างที่ช่วยให้เราย่อยอาหารได้ดีผสมอยู่