หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มหาลัยเหมืองแร่

โพสท์โดย manokdee

กระทู้นี้ขอพูดถึงหนังเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วมันได้อะไรมากกว่าที่คุณคิดและอยากให้เด็กรุ่นใหม่มีโอกาสได้ดู เพราะมันสอนเกี่ยวกับความอดทน การใช้ชีวิต สร้างแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ที่ไม่มีใบปริญญามาประดับ ที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ได้รางวัลเกียรติยศมากมายหลายรางวัล

เรื่องมีอยู่ว่า เรื่องราวของเด็กหนุ่ม ชื่ออาจินอายุ22ปี เรื่องราวของเขาไม่สวยหรูเท่าไหร่ พอเรียนเข้าระดับมหาลัยก็โดนรีไทร์ในคณะวิศวะทั้งที่เรียนอยู่เพียง ปี2,เท่านั้น และโดนแฟนบอกเลิกอีก ซวยซ้ำซวยซ้อน จนทำให้พ่อของเขาส่งเขามาอยู่ที่จ.พังงาที่เหมืองแร่ โดยที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย เดินเข้ามาแบบตัวเปล่าๆ

มี0บาท กับวุฒิวิศวะปี2.เดินเข้ามาในเหมืองแบบคน ไร้จุดหมายปลายทาง เข้ามาแบบโง่ๆซื่อๆเซ่อๆเด๋อๆด๋าๆ เขาเดินเขามาสมัครงานที่เหมืองแร่ พร้อมยื่นวุฒิวิศวะปี2.ส่งให้นายใหญ่ชาวออสเตรเลียมิสเตอร์แซม และให้อาจินเข้ามาทำงาน โดยเป็นแค่กรรมกรถึงแม้จะเห็นวุฒิวิศวะปี2.ก็ตาม และการศึกษามหาวิทยาลัยเหมืองแร่ปี 1 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น อาจินก็เอาแต่ทำงานทำงานทำงานและเสียงหัวใจของเขาก็เรียกร้องจะกลับกรุงเทพฯอย่างเดียว ในเวลาต่อมาอาจินได้มาพบกับลุงแดงยามที่เฝ้าเหมืองแร่ที่นี่ลุงแดงก็ได้ถามอาจินว่าทำไมถึงมาทำงานที่นี่ สาวๆก็ไม่มี มีแต่เเร่กับการใช้แรงงาน อาจินตอบโต้ลุงแดงทันทีว่าตนมาทำงานเก็บตังค์เพื่อจะขอแฟนแต่งงาน หลังจากอาจินทำงานไปเรื่อยๆสักพักหนึ่ง มิสเตอร์แซมนายใหญ่ ก็ได้เห็นถึงความตั้งใจจริง ขยัน อดทน จึงได้พาอาจินไปที่เรือขุดเหมืองแร่และสอนให้เรียนรู้การสั่งซื้ออะไหล่ที่ใช้สำหรับขุดแร่ สิ่งสิ่งต่างๆให้อาจินได้เรียนรู้ และอยู่มาวันหนึ่งอาจินก็ได้เจอบททดสอบอันใหญ่หลวง เมื่อโฟแมนประจำเรือขุดได้ลาพักร้อน จึงทำให้อาจินได้ทำหน้าที่เป็นคนสั่งอะไหล่ทั้งหมดด้วยตัวเอง พออะไหล่มาถึง นั้นทุกอย่างนั้นกลายเป็นมั่วไปหมด สั่งของอย่างนึงกลับได้ของไม่ตรงตามที่สั่ง จึงทำให้ลูกน้องที่อยู่ด้วยถึงกับเซ็งสุดๆ จนกระทั่ง มิสเตอร์แซมต้องเดินมาปลอบเพื่อสิ่งต่างๆต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ นายใหญ่แซมเป็นคนใจกว้าง รักสนุก และเป็นกันเองกับทุกคนรวมถึงชาวบ้านด้วย นายใหญ่แซมมีน้องชายสองคนทำหน้าที่คุมแท่นเหมืองขุดแร่ ทั้งสองมีปากเสียงกันประจำแต่ก็เป็นจะเรื่องงานทั้งนั้น ทั้งสองทำงานหามรุ่งหามค่ำ และอาจินยกให้เป็นเทพบุตรของการทำงาน จึงทำให้อาจินนั้นได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากสองคนนี้มากมาย และเขาทั้งสอง จะสอนการทำงานให้อาจินได้เรียนรู้ด้วย และโฟแมนได้ลาพักร้อนกลับมา พี่คนนี้เขาเป็นผู้นำอย่างแท้จริง จน อาจินอยากได้เป็นแบบอย่าง ไม่ใช่แค่ความเป็นผู้นำเพียงอย่างเดียวแกพูดได้หลายภาษามาก การทำงานผ่านมาสักระยะ อาจินก็ได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพเพื่อนๆมากมาย ในร้านกาแฟของอาโก คือสิ่งจุดนัดพักผ่อนของทุกคนในเหมือง มีทุกอย่าง เหล้ายาปลาปิ้ง รวมถึงการพนัน และร้านกาแฟของอาโกก็ได้รักษาอาการโรคซึมเศร้าของอาจินได้เป็นปลิดทิ้ง จนอยู่มาวันนึงแซมได้เรียกอาจินให้มาพบ บอกว่าตอนนี้มีขโมยมาขโมยแร่ จึงอยากให้อาจินไปซุ่มดูและจับตัวมันมาให้ได้ และอาจินก็ได้ไปซุ่มดู จนได้รู้ว่าโจรนั้นคือใคร มันคือ โฟแมนนั่นเองแและลูกน้องในเหมืองนั่นเอง อาจินก็ได้ห้าม และเตือนหลายครั้ง แต่ทุกคนก็ไม่ฟังแล้วบอกว่าอาจินว่า

พวกตนทำงานมาตั้งนาน ขอเก็บนิดเก็บหน่อยจะเป็นไรไป อาจินถึงกับเซ็งถึงทุกคนที่กำลังขโมยแร่ไป ต่อมา อาจินก็มายื่นใบลาออกกับแซมทันที เพราะทนเห็นพฤติกรรมของทุกคนไม่ไหว แต่เรื่องกลับตาลปัตรไม่เป็นแบบนั้น นายใหญ่ถึงกับเอ่ยปากขึ้นเงินเดือนให้อาจิน จนอาจินถึงกับสับสนมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น และแซมได้มอบหน้าที่สำคัญให้กับอาจิน เป็นคนดูเเลที่เกี่ยวกับแผนที่แร่ทั้งหมด อาจินได้แต่มึนงงและสับสน จนกระทั่ง พบโฟแมนและลูกน้องในออฟฟิศและได้หัวเราะลั่นต่อหน้าอาจินที่ ยิ้มไม่ออก อาจินจึงได้รู้ความจริง ว่านี้คือบททดสอบ ของแซมว่าอยากรู้ความจริงว่าอาจินเป็นแบบไหน ต่อมาอาจินก็ได้ค้นพบว่า นี่คือสิ่งที่ตัวเองค้นพบแล้ว และได้อยู่ในที่ที่ผู้คนพึ่งพาได้เปรียบเสมือนครอบครัว และนั่นก็ทำให้อาจินจบการศึกษาปีที่1.

แล้วปีที่2.ในมหาลัยเหมืองเเร่ของอาจินก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในวันขึ้นปีใหม่ ทุกคนต่างพากันกลับบ้านหมด ยกเว้นอาจิน ทุกอย่างดูเงียบงัน และทุกอย่างก็ได้เริ่มต้นอีกครั้งในหน้าที่ ผู้ดูแลแผนที่เหมืองแร่ทั้งหมด และโชคชะตะก็นำพาให้เขาพบกับชายรูปร่างใหญ่ ผิวคล้ำ นั่นคือใข่ ใข่ได้รับเข้าทำงานและได้เป็นลูกน้องของอาจิน ชายผู้เป็นที่รักของทุกคนมอบรอยยิ้มให้ทุกคนได้ผ่อนคลายได้หายเครียด และมีความเป็นมิตรเป็นที่สุด

ในเวลาต่อมาอาจินและใข่ได้ออกตระเวนทำแผนที่เหมืองกันไปเรื่อยๆ จนอยู่มาวันหนึ่งใข่จำเป็นที่จะต้องย้ายหลักเขตที่ถูกเข้าของที่ดิน ข้างๆกินพื้นที่มา ขณะกำลังจะย้ายหลักเขต ก็ถูกลุงพยามจะเอาสปาต้ามาฟัน เพราะไม่ยอมให้ย้ายจึงทำให้อาจินต้องกลับไปปรึกษากับแซมว่าจะเอายังไงกันต่อไปดี แซมก็ได้ให้ปืนกับอาจินใว้ขู่เจ้าของที่ ในวันต่อมาอาจินกับใข่ก็สามารถย้ายหลักเขตมาจนได้ ด้วยการยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า ได้ทำให้ลุงล้มลงตกใจกลัวในที่สุด หลายวันต่อมาอาจินได้รับจดหมายจากแดนไกลเป็นการ์ดงานแต่งงานของแฟนเก่า ทำให้อาจินโศกเศร้า เสียใจเป็นอย่างมาก ในคืนนั้นอาจินจึงเมาไม่ได้สติและนอนตื่นขึ้นมาที่บ้านลุงแดง พบกับข้อความที่ลุงแดงเขียน "อดีตคือความฝัน ปัจจุบันต้องอดทน"ต่อมาทำให้อาจินและลุงแดงสนิทกันมากขึ้นอีกด้วย แล้ววันเดือนปีก็ผ่านพ้นไป จึงทำให้อาจินได้จบการศึกษาปีที่2.

แล้วปีการศึกษาปีที่3.ในเหมืองแร่ของอาจินก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง อาจินตั้งใจทำงานอย่างขยันแข็งขัน เพื่อพิสูตนให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ใช่คนเกียจคร้านสันหลังยาว และดื่มเหล้าจนเมามายทุกวัน เวลาเงินเดือนออกก็ไม่ได้สักบาท เอาไปใช้หนี้จนหมด และเหล้าก็คือสิ่งเดียวที่ทำให้อาจิน ลืม ทุกข์ โศก เศร้าที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้ราวเล่นมายากล เหล้ามันทำให้อาจิน และรุ่นพี่ในเหมืองความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นไปอีกมากมาย จนอยู่มาวันหนึ่งด้วยฤทธิ์น้ำเมาได้ล่วงเกินแซม ด้วยการจะเถียงแซมว่า "ระหว่างออฟฟิชกับคนงานอันไหนสำคัญกว่า"จนกระทั่งได้ล่วงเกินนายของตนไป และเช้าวันต่อมาอาจินก็ได้เข้าไปหาแซม เพื่อยื่นใบลาออกเพราะทนกับความเมาของตัวเองไม่ไหว แซมได้ยินจึงตอบว่า ถ้าจินลาออก ตนก็จะลาออกเหมือนกันเพราะเป็นผู้ใหญ่ชวนเด็กกินเหล้า และสุดท้ายอาจินก็ไม่ได้ออก และในคืนนั้น กับบรรดาลูกพี่ก็ได้ร่ำสุรากันแบบเมามายเช่นเดิม ในเวลาต่อมาอาจินและใข่ก็ได้ทำงานเหมือนเดิมและเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในวันนั้นได้เกิดเหตุฝนตกอย่างหนัก และน้ำหลากจึงทำให้อาจินและใข่ได้พากันเก็บข้่าวของที่นำมาสำรวจพื้นที่กันจ้าละหวั่น อาจินนั้นต้องข้ามน้ำเชี่ยวขลาก เพื่อที่จะเอารถมารับใข่ ในขณะที่กำลังข้ามไป อาจินได้โดนน้ำพัดใส่ แต่ก็รอดมาได้ และได้ทำไม้วัดในการทำงานบวม จนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งแซมรักไม้วัดนี้มากและทุกคนต่างก็ช่วยกัน ดัดงัดเพื่อให้ไม้นี้กลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ จนกระทั่งแซมได้เรียกให้อาจินเข้ามาคุยด้วยและบอกกับอาจินว่า "ดีแล้วที่รอดกลับมาได้" จึงทำให้อาจินซาบซึ้งสุดๆ จากคำพูดของแซม ได้ทำให้อาจินได้เรียนรู้ว่าการถนอมน้ำใจคน มันทำให้อาจิน ทำอะไรได้ใจเย็นลงมาก และการทำงานในปีที่3.ในมหาลัยเหมืองแร่ของอาจินก็ได้จบลง และการเรียนปีที่4.ปีการสุดท้ายในมหาลัยเหมืองแร่ของอาจินก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในวันวันหนึ่ง อาจินและแซมพร้อมด้วยหัวหน้าคนงานได้ประชุมกันเรื่อง

แผนที่ที่มีแร่มากที่สุดถึง6.01%ในจุดนั้นในแผนที่เป็นช่องแคบที่เล็กเกินไปแซมจึงไม่อยากให้เข้าไปในนั้น แซมและหัวหน้าคนงานจึงมีปากเสียงกันอย่างหนักแต่สุดท้าย ด้วยความที่แซมเป็นเจ้านายหัวหน้าคนงานจึงยอม และเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้ เรือดันเข้าไปติดตรงช่องแคบนั้นจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ทั้งนั้น และติดอยู่แบบนั้น3เดือน แต่แร่ กลับไม่มีเลยสักนิด ทำให้เงินในเสบียงนั้นร่อยหรอหมดลง จึงได้นำเอาขี้แร่หลังออฟฟิศ มาต่อชีวิตให้บริษัทจนกระทั่งหัวหน้าคนงานได้ลาออกไป และแล้วอาจินก็ได้พบว่า ช่องแคบที่บอกว่ามีแร่ถึง6.01%พอไปดูจริงๆแล้วมีเพียงแค่ 0.01%เท่านั้น แซมพอรู้เรื่องถึงกับทรุดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และในที่สุดอาจินและคนงานก็สามารถเอาเรือออกมาจากช่องแคบนั้นได้ บริษัทจึงรับโฟแมนคนใหม่มาดูแลแทน อาจินนั้นพยามจับผิดโฟแมนให้ได้เพราะทำงานเก่งไม่เท่าคนเก่าที่ลาออกไป วันหนึ่งอาจินได้ทำเข็มทิศตกลงไปในน้ำในขณะที่เครื่องจักรกำลังทำงาน โฟแมนก็ได้ห้ามใว้และสั่งให้คนงานหยุดเครื่องจักรใว้ และโฟแมนก็ลงไปงมหาด้วยตัวเอง งมหาอยู่นานสองนาน และก็ได้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับเข็มทิศ จึงทำให้วันนั้นโฟแมนคุมงานเอาชนะใจอาจิน และคนงานได้สำเร็จ และได้รับการยอมรับขึ้นเรื่อยๆในเวลาต่อมา ในเวลาต่อมาสถานการณ์เหมือนเริ่มจะดีขึ้น ทุกคนสามารถหาแร่ได้เยอะมากๆ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เรือขุดแร่ที่หาแร่มาได้เกิดพังชำรุด และแร่ที่หามาทั้งหมดก็ถล่มลงทุกๆคนพยายามกันช่วยนำแร่ที่กำลังจะจมลงช่วยกันดันขึ้นมาแต่ไม่สามารถเอาแร่มันขึ้นมาได้เลยและเรือขุดแร่ก็ชำรุดมากเกินกว่าจะซ่อมให้ใช้การได้ ทำให้บริษัทแม่ที่ปีนังสั่งให้บริษัทลูกที่ไทยยุติการขุดแร่ตั้งแต่บัดนั้น ทุกคนก็ต่างพากันเศร้าเสียใจไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น และในที่สุด อาจินและคนงานทุกๆคนที่อยู่ร่วมกันมาหลายปีก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของแต่ละคน ก่อนจะจากกันไปคนงานคนนึงได้ออกมาพูดขึ้นว่า"เอาผมไปฆ่าให้ตายที่ไหนผมก็รักคุณ" และทุกคนก็ได้แยกย้ายไปตามทางแต่อาจินก็ได้รออยู่เพื่อรอแซมออกใบทำงานให้อยู่ ต่อมาอาจินก็ได้มาหาแซม และแซมก็บอกกับอาจินว่า ใบรับรองการทำงานของอาจินจะต้องดีกว่าของใครอย่างแน่นอน วันสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันแซมได้ให้ของขวัญกับอาจินคือตั๋วบินกลับกรุงเทพฯ และอาจินขอกลับไปด้วยกับเงินเพียง 0 บาทพร้อมกับประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว(เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง)

โพสท์โดย: manokdee
อ้างอิงจาก: กาลครั้งหนึ่ง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
manokdee's profile


โพสท์โดย: manokdee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สมาคมโรงแรมกระบี่ ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือชาวเน็ตกระหน่ำวิจารณ์ น้ำปั่นแก้วละ 465 บาท คุ้มจริงไหม? ทำไมถึงแพงได้ขนาดนั้นขบวนเกี้ยวของหว่านหรงภาพเก่าหาดูยาก : แร้งประจำถิ่น ณ วัดสระเกศ เมื่อ คริสตศักราช 1905"โรซี่" แมวที่มีอายุมากที่สุดในอังกฤษเสียชีวิตแล้ว รวมอายุ 33 ปีถ้ำหินแกะสลักภูเขาเทียนที อายุ1600 ปีจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 41,431 คนแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมื่อหมูเด้ง ต้องไปแคสติ้งเป็นนักแสดงซูปเปอร์ฮีโร่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
จักรพรรดินีเสี้ยวเค่อหมิน จักรพรรดินีองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิงรถสองคันกับคนเกษียณ•สิบปีต่อมา.หมดไปกับ•!!!ตำนานเมืองลับแล
ตั้งกระทู้ใหม่