ผักกูด ต้านโรคอัลไซเมอร์
ผักกูด เป็นเฟิร์นท้องถิ่น ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบได้ทั่วทุกภูมิภาคที่มีอากาศชื้น
ยอดอ่อนเป็นส่วนที่ถูกนำมาบริโภคเนื่องจากมีรสชาดจืดอมหวาน และเนื้อสัมผัสกรอบจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารหลายชนิด
ได้แก่ แกงจืด แกงเลียง แกงป่า เป็นต้น ไม่เพียงรสชาติที่ดีแต่ผักกูดยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายหลายชนิด
อาทิเช่น วิตามินอี วิตามินบีสอง ธาตุเหล็ก และพฤกษเคมี สารเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายรวมไปถึงระบบประสาท
ซึ่งอาจนำไปสู่การต้านทานโรคที่ไม่พึ่งประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค
ผักกูดที่ส่งผลต่อการยับยั้งโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทในมนุษย์ยังมีอย่างจำกัด ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าการบริโภคผักกูด
จะสามารถช่วยลดอาการผิดปกติทางระบบประสาทได้หรือไม่
ความสนใจดังกล่าวนำมาสู่การทำวิจัยวิทยานิพนธ์ของ นายฐานิศร์ ขุนแก้ว นักศึกษาปริญญาโทสาขาพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย
โดยมีผู้ร่วมวิจัยคือ นางสาววรวีร์ อินทชาติ นักปฏิบัติการวิจัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และมี ผศ.ดร.ปิยะ เต็มวิริยะนุกูล และคณะ
เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากผักกูดในการยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ที่ทำให้เกิดอาการความจำเสื่อม
โดยใช้แมลงหวี่เป็นแบบจำลองในการศึกษา โดยการกระตุ้นให้แมลงหวี่เกิดภาวะความจำเสื่อมด้วยการใส่โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในมนุษย์เข้าไป
โปรตีนเหล่านี้จะแสดงออกอย่างจำเพาะที่สมองของแมลงหวี่ และเลียนแบบการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในมนุษย์ จากผลทดสอบ พบว่า
หลังจากได้รับสารสกัดผักกูดที่ความเข้มข้น 250 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรเป็นระยะเวลา 1 เดือน ปริมาณของอะมัยลอยด์ เบต้า 42
ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์สมองตาย และนำไปสู่ภาวะความจำเสื่อมนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
โดยมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับยาโดนีพีซิล (Donepezil) ที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ ผลงานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ
Scientific Report เป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสารสกัดผักกูดในการต้านโรคอัลไซเมอร์ในแมลงหวี่
อนาคตจะมีการศึกษาผลของสารสกัดผักกูดในสัตว์ทดลองอื่นและในมนุษย์ต่อไปเพื่อศึกษาปริมาณที่เหมาะสมของสารสกัดที่ปลอดภัยและให้ประสิทธิผลในคน