7 อันดับ น้ำดื่มที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
น้ำดื่มเป็นของเหลวที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของมนุษย์ โดยปกติแล้วจะมาจากแหล่งน้ำจืด เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ หรืออ่างเก็บน้ำใต้ดิน และผ่านการบำบัดเพื่อขจัดสิ่งเจือปนและสารปนเปื้อนก่อนบริโภค การดื่มน้ำมีประโยชน์หลายอย่างในร่างกาย รวมถึงการให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ ช่วยย่อยอาหาร ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดและปลอดภัยในปริมาณที่เพียงพอทุกวันเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี
เรามารู้จักกับ 7 อันดับ “น้ำดื่มที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
1. Bling H2O ราคา 4,280 บาท
น้ำดื่มที่ได้รับการยอมรับว่าแพงที่สุดในโลก น้ำดื่มขวดนี้ไม่มีความพิเศษด้านที่มาเหมือนขวดที่กล่าวมาแล้ว ความพิเศษของมันอยู่ที่ตัวขวดประดับด้วย
คริสตอล ชวารอฟกี้ และจุกไม้ก๊อกแท้ พร้อมด้วยสโลแกนที่ว่า “ขวดน้ำที่คุณถือ แล้วแสดงความเป็นตัวคุณเอง ”
2. 420 Volcanic ลิตรละ 3,150 บาท
มาจากนิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งธรรมชาติงดงาม น้ำขวดนี้มาจากภูเขาไฟ Tai Tapu โดยเป็นน้ำใต้ดินที่ผ่านการกรองจากหินภูเขาไฟ แล้วฝังตัวลึกลงไป 200 เมตร
3. Berg ลิตรละ 1,890 บาท
มาจากแคนาดา มาจากธารน้ำแข็งโบราณที่กรีนแลนด์แตกตัว แล้วลอยข้ามมหาสมุทรมาให้ทางแคนาดาละลายใส่ขวด ธารน้ำแข็งแห่งนี้อายุถึง 15,000 ปี ต้องไปสกัดตอนที่ยังไม่เกยฝึ่ง ซึ่งยากมาก
4. Mahalo Deep Sea Water ลิตรละ 1,764 บาท
มาจากฮาวาย อเมริกา ความเด่นของน้ำนี้ เป็นน้ำจืดจากใต้ทะเลไม่ใช่ใต้ดิน น้ำชนิดนี้เกิดจากภูเขาน้ำแข็งที่ละลายตัวลงไปในทะเลแล้วด้วยความหนาแน่นที่ต่างกันมาก น้ำจืดชนิดนี้ไม่ปนกับน้ำทะล แต่นอนก้นอยู่ใต้ทะเลแทน
5. OGO ลิตรละ 1,512 บาท
มาจากเนเธอแลนด์ น้ำดื่มนี้ ได้รับการรับรองว่ามีปริมาณออกซิเจนตามธรรมชาติสูงมากกว่าน้ำดื่มทั่วไป ดื่มแล้วให้ความสดชื่นมากๆ OGO มาจากคำว่า Oxigen To Go นั่นเอง
6. Finé ลิตรละ 1,312.29 บาท
เหมาะสำหรับอาหารประเภทซูชิ รสชาติออกหวานนิดๆ น้ำดื่มขวดนี้สูบมาจากใต้ภูเขาไฟฟูจิ 600 เมตร โดยแหล่งน้ำนี้จะมีบางส่วนเป็นน้ำพุร้อนอีกด้วย เชื่อกันว่าในน้ำขวดนี้อุดมไปด้วยซิลิกา ซึ่งช่วยเรื่องความงามของผม เล็บ และช่วยร่างกายสร้างคลอลาเจน ชลอความแก่ชราด้วย
7. Iskilde ลิตรละ 567 บาท
จากเดนมาร์ก เป็นน้ำแร่ที่เพิ่งค้นพบใหม่ที่เขตสงวน Messo สะอาดและบริสุทธิ์มาก วิธีการได้น้ำขวดนี้มา ต้องเจาะลงไปใต้ดิน 50 เมตร เหมาะที่จะใช้กินร่วมกับสเต็ก บรรจุในขวดขนาด 1 ลิตร