Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผมจะรักแล้วนะครับคุณพี่ฝ่ายช่าง [นิยาย]

เนื้อหาโดย monkeythink

นิยาย : ผมจะรักแล้วนะครับ คุณพี่ฝ่ายช่าง

เริ่มงานวันแรกก็เจอคนถูกใจ สูง หล่อ หน้าคม ดีกรีเป็นช่าง ยิ่งรู้จักก็ยิ่งดีต่อใจ แล้วแบบนี้จะห้ามใจไหวได้ไงกัน 🥰

👨‍🔧เริ่มงานวันแรก ฟีฟ่า ก็ได้เจอ ภูผา หนุ่มหน้าคม ผิวสีแทน สูงกำลังดีแถมดีกรีเป็นช่าง แค่เจอกันใจก็เต้นรัวแล้วหนุ่มฝ่ายช่างยังเข้ามาตีสนิทให้หัวใจเต้นแรงกว่ากลองไม่เว้นวัน เจอแบบนี้ใครจะไปอดใจไหว 💘

ฝากนิยายสักเรื่องไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยนะครับ

พร้อมแล้ว ไปอ่านกันได้เลย ❤

บทที่ 1

7.00 น.

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นรอบที่สามตามด้วยฝ่ามือคว้าเอามือถือตัวปัญหามานอนกอดไว้พร้อมกดเลื่อนการปลุกออกไปให้ปลุกอีกครั้งเป็นรอบที่สี่

บอกเลยว่าง่วงนอนเหลือเกิน...

ง่วงมากถึงมากที่สุด

ตื่น...

แต่ภาพใบหน้าของตัวเองก็ดันลอยเด่นมาในความฝันอันขาวสว่างพร้อมด้วยเสียงตะโกนอัดใส่หน้าทำเอาดวงตาที่ปิดสนิทถึงกับต้องเปิดพร้อมด้วยร่างกายที่เด้งขึ้นนั่งแบบอัตโนมัติ

กี่โมง...

คำถามแรกที่ถามตัวเองแล้วรีบความหามือถือขึ้นมาดูเวลาตามวิถีคนเมืองที่มีนาฬิกาแต่กลับดูเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ตโฟน ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเป็นเหมือนกัน

ใช่ไหมล่ะ

“เจ็ดโมง”

ไม่จริง...

รีบขยี้ตาให้มั่นใจว่าไม่ได้เมาขี้ตาหรืออยู่ในสภาพงัวเงียจนดวงตาเลอะเลือนแล้วดูเวลาผิดไปแถมหลังจากขยี้ตาเสร็จเวลาก็เดินผ่านจากเจ็ดโมงพอดิบพอดีกลายเป็นเจ็ดโมงหนึ่งนาที

พูดได้เต็มปากเลยล่ะครับว่าตอนนี้เวลาหนึ่งนาทีก็มีค่า

ถ้าไม่เป็นเพราะตื่นเต้นที่ได้งานประจำที่แรกหลังจากเรียนจบจนเมื่อคืนไม่เป็นอันหลับอันนอน ตอนนี้ผมคงมีเช้าอันสดใสต้อนรับวันแรกของการเริ่มงานแทนที่จะเป็นการกระโจนลงจากเตียงด้วยความเร่งรีบแบบนี้ เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่าลนลานที่แท้จริงก็วันนี้ล่ะ ยิ่งรีบก็เหมือนทุกอย่างยิ่งช้าไปหมดสวนทางกับเวลาที่เดินไปแบบไม่มีคำว่ารีรอ

เวลาทุกนาทีมีค่า

เข้าใจแล้วครับ เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงแกนกระดูกเลย

08.12 น.

ผมก้มดูนาฬิกาข้อมือหลังจากที่หยุดพักอยู่ในสวนหย่อมขนาดเล็กหน้าบริษัทพร้อมอาการเหนื่อยหอบจนหายใจไม่ปกติปนเปกับเหงื่อเม็ดเล็ก โชคดีที่เหลือเวลาให้พักร่างกายอีกสิบกว่านาทีก่อนถึงเวลานัดหมายรายงานตัวเพื่อเริ่มงาน

Society media & Republic

แหงนดูชื่อบริษัทอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มาผิดที่แล้วรีบสาวเท้าเดินตรงไปยังอาคารสูงตระหง่าน แต่บางอย่างก็เข้ามาดึงความสนใจ บิ๊กไบค์สีดำวาววิ่งผ่านหน้าไปแบบระยะประชิดแล้วพุ่งเข้าไปจอดตรงหน้าบริษัททำองศากับระยะสายตาแบบพอดิบพอดี เสื้อแจ็กเกตหนังสีดำบวกกับกางเกงทำงานเข้ารูปทำให้เจ้าของที่ลงมายืนข้างมอเตอร์ไซค์คู่กายดูเท่อย่างบอกไม่ถูก

ที่เหลือก็แค่ลุ้นตอนถอดหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ

หวังว่าจะหล่ออย่างที่คาดไว้นะ

แค่เห็นรูปร่างผมก็แอบจินตนาการไปถึงหน้าตาแล้วครับ

ใบหน้าคมเข้มเผยออกให้เห็นทันทีที่เจ้าตัวถอดหมวกเต็มใบ จมูกตั้งเด่นเป็นสันรับกับคิ้วดกดำ ผิวสีแทนยิ่งเพิ่มความคมเข้มให้กับใบหน้าและดวงตาสีดำคู่นั้น

พูดได้เต็มปากเลยล่ะครับว่าหล่อ หล่อชนิดที่ทำเอาผมเขินเพียงแค่ได้เห็นไปเลยล่ะ

แล้วจะเขินทำไมเนี่ย แต่หลายคนก็คงเป็นแบบเดียวกันใช่ไหมล่ะ ที่รู้สึกเขินเวลาเห็นใครสักคนทั้งที่ยังไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อ

รู้แค่ว่าหล่อ

คำเดียวสั้น ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องนิยามอะไรให้มากมาย

แย่ล่ะผมดันเผลอมองแทบไม่กะพริบตา รู้ตัวอีกทีสายตาคู่นั้นก็หันมามองสบกันทำเอาผมหลบสายตาคมเข้มคู่นั้นไม่ทัน แต่ก็คงไม่ทันแล้วจริง ๆ เมื่อหน้าหล่อส่งยิ้มบาง ๆ มาให้

ยิ้มบาง ๆ ที่ทำให้ผมเผลอยิ้มตอบกลับไป

แล้วผมจะยิ้มตอบกลับไปทำไมกันเนี่ย อยากจะตีปากตัวเองสักร้อยครั้ง

“แย่แล้ว” พึมพำกับตัวเองพลางใช้สมองคิดว่าวินาทีนี้คงต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น จะให้อีกฝ่ายรู้ว่าแอบมองอยู่ไม่ได้ และวิธีที่ดีที่สุดที่คิดได้ในตอนนี้คือการแกล้งหันไปมองทางอื่น

คิดได้อย่างนั้นก็รีบเบี่ยงใบหน้าไปด้านข้างพร้อมกับร่างกายที่หันตามไปแบบไม่มีพิรุธ

โป๊ก...

“โอ๊ย...”

จากความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ผมจึงได้ปัญหาเฉพาะส่วนหน้ากลับมาแทนเมื่อดันหันหน้าไปชนกับต้นไม้ข้างตัวเข้าอย่างจังแถมไม่วายยังเหลือบสายตาไปเห็นหนุ่มหน้าคมคนนั้นยืนยิ้มเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้

จะหัวเราะก็หัวเราะออกมาเลยสิครับจะกลั้นไว้ทำไม

น่าอายชะมัด

รู้สึกอายจนเลือดร้อนฉีดไปทั่วใบหน้า ดันมาทำเรื่องน่าอายตรงหน้าบริษัทตั้งแต่วันแรกแถมหมอนั่นยังเดินกลั้นขำเข้าไปในบริษัทแล้ว

เป็นพนักงานบริษัทนี้เหมือนกันสินะ

ความประทับใจแรกของเช้าวันนี้ดันกลายเป็นผมได้โชว์ตลกให้คนในบริษัทนี้ดูไปซะได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอาย สงสัยต้องหลบหน้าหมอนั่นสักพักให้พอลืมเรื่องเช้าวันนี้ไปก่อน

“เฮ้อ...” ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วรีบเดินเข้าไปในบริษัทเพราะอีกไม่กี่นาทีก็ถึงเวลานัดรายงานตัวแล้ว

หน้าห้องฝ่ายทรัพยากรมนุษย์

กึก

ฝ่าเท้าแทบหยุดให้ได้ม้วนตัวกลับเมื่อผู้ชายหน้าคมคนนั้นนั่งรออยู่ตรงหน้าห้องเป้าหมายเดียวกัน อย่าบอกนะว่ามาเริ่มงานวันนี้เหมือนกัน

‘นั่งห่าง ๆ ดีกว่า แค่เรื่องเมื่อกี้ก็น่าอายมากพอแล้ว’ ผมมองคนที่นั่งนิ่งไม่ได้สนใจการมาถึงของผมที่ทำตัวให้ลีบแบนที่สุดเพื่อไม่เป็นจุดสนใจแล้วเลือกหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ที่ห่างออกไปประมาณสองตัว จะเลื่อนเก้าอี้หนีก็ไม่ได้เพราะเก้าอี้ที่วางไว้รับแขกดันเป็นเก้าอี้สี่ตัวที่เชื่อมติดกันไว้ด้วยแท่งเหล็กสีดำ ไม่ทันที่ก้นจะได้แตะลงเก้าอี้ประตูห้องฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ก็เปิดออกพร้อมเสียงเรียก

“คุณเลิศฤทธิ์กับคุณหิมาลัยใช่ไหมคะ”

“ใช่ครับ” ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนของผมมันตลกขนาดไหน

“เชิญเข้ามาข้างในเลยค่ะ”

ผมรอให้อีกคนเดินนำเข้าไปก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ไม่รู้สิมันรู้สึกปลอดภัยจริง ๆ นะที่ได้เดินตามหลังแทนที่จะเดินนำหน้าเข้าไปแล้วให้ตาคมเข้มคู่นั้นจ้องมองผมจากข้างหลัง เข้าไปข้างในเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวยาวที่มีแค่สองตัวจึงเป็นการบังคับให้นั่งข้างกันไปโดยปริยาย

“เอกสารสัญญาจ้าง ระเบียบของบริษัทอยู่ในเอกสารชุดนี้อ่านให้เข้าใจก่อนลงชื่อในเอกสารนะคะ แล้วก็พี่ขอเอกสารส่วนตัวที่ให้เตรียมมาด้วยนะ”

“ครับ” ผมตอบพร้อมกับหมอนั่นจนเป็นเสียงประสานเลย จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงคนที่นั่งอยู่ข้างกัน

เสียงหล่อไม่แพ้หน้าตาเลยแฮะ

“เดี๋ยวพี่ไปทำบัตรพนักงานให้นะ มีอะไรเรียกถามได้เลยพี่นั่งอยู่ตรงนั้น” เจ้าตัวชี้ให้ดูโต๊ะทำงานของเธอ

“ครับผม” คนข้าง ๆ ผมส่งเสียงตอบ

เห็นผู้หญิงเข้าหน่อยทำเสียงหล่อเชียวนะ

ฝ่ายบุคคลเดินกลับไปที่โต๊ะของเธอแล้วตอนนี้จึงเหลือแค่ผมกับคนที่ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามสองต่อสอง

เป็นพนักงานใหม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรื่องเมื่อเช้าช่วยลืมมันไปด้วยเถอะไม่ได้อยากโชว์ตลกให้ใครดูตั้งแต่วันแรกแบบนี้หรอกนะ

ลืมมันไปเถอะ ไหว้ล่ะ

เห็นอีกฝ่ายเริ่มกรอกเอกสารแล้วผมก็เริ่มกรอกเอกสารของตัวเองบ้างพลางเหลือบมองใบหน้าคม ยิ่งได้เห็นใกล้แบบนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าหล่อจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดบนใบหน้าก็เข้ากันได้สัดส่วน ไม่ได้หล่อใสตาชั้นเดียว ผิวไม่ได้ขาวดุจหิมะ แต่หล่อคมเข้มแบบไทยสไตล์ที่ทำให้ผมเผลอมองแบบจริงจังอยู่หลายครั้ง

แพ้ทางผู้ชายสไตล์แบบนี้อยู่แล้วซะด้วยสิ

‘ชื่อก็เพราะนายหิมาลัย ทรรศเกียงไกร’ ผมแอบมองเอกสารที่อีกฝ่ายกำลังเขียน เผลอทำนิสัยไม่ดีเข้าจนได้ แต่ไหน ๆ ก็ทำแล้วงั้นขอแอบดูอายุด้วยเลยก็แล้วกัน สายตาเริ่มไปตรงข้อมูลวัน เดือน ปีเกิด

ตุบ

ปากกาวางลงพร้อมนายหิมาลัย ทรรศเกรียงไกร หันมามองเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมก้มลงกรอกเอกสารของตัวเองต่อได้อย่างแนบเนียน

“ฮึ่ม” อีกฝ่ายกระแอมเสียงในคอแถมยังส่งสายตาลอบมองมาบนเอกสารของผม

แอบมองมาก็แอบมองกลับครับ ไม่โกง ถึงผมจะเป็นคนที่แอบมองก่อนก็เถอะ

ตุบ

ปากกาวางลงเป็นครั้งที่สองพร้อมนายหิมาลัยที่หันมาตรงหน้าผมพร้อมยื่นมือเข้ามาด้วยความเร็ว ผมรีบหลับตาตามปฏิกิริยาของร่างกาย

อย่าต่อยผมเลย ผมผิดไปแล้ว แค่แอบดูข้อมูลเองอย่าใช้กำลังกันเลยครับ

ผิดไปแล้วครับ สำนึกผิดแล้วจริง ๆ

“หลับตาทำไมครับ” เสียงหล่อถาม

ผมลืมตาขึ้นมองอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มกระชากใจมาให้สลับกับฝ่ามือที่ยื่นมาตรงหน้า

“ผมชื่อภูผา อายุยี่สิบห้าปี ดูจากวันเกิดในเอกสารของคุณแล้วจะเรียกผมว่าพี่ก็ได้นะครับน้องเลิศฤทธิ์”

“ผ...ผมชื่อฟีฟ่าครับ” แนะนำตัวแบบเหงื่อชุ่มยิ่งกว่าตอนแนะนำตัวหน้าชั้นเรียน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องฟีฟ่า ชื่อน่ารักดีเนอะ”

ฝ่ามือหยาบกร้านผ่านการทำงานดึงมือเก้กังของผมไปจับไว้เป็นการทักทาย

“ทีนี้เราก็รู้จักกันแล้วนะ จะได้ไม่ต้องแอบดูพี่กรอกเอกสารอีกหรือมีอะไรที่อยากรู้อีกถามได้นะครับ” สายตาที่มองมานี่เป็นการหว่านเสน่ห์ไปในตัวชัด ๆ

“ไม่ได้แอบดูสักหน่อย” ผมพึมพำแล้วก้มหน้าลงกรอกเอกสารต่อด้วยความชาที่วิ่งเล่นอยู่ทั่วใบหน้า

ผู้ชายสมัยนี้ร้ายชะมัด ตอนนี้หัวใจผมยังเต้นแรงไม่หยุดเลย ไม่รู้ว่าที่เต้นแรงเป็นเพราะตกใจที่คิดไปเองว่าจะโดนต่อยเพราะความอยากรู้อยากเห็น หรือเป็นเพราะโดนจับมือ หรือเป็นเพราะได้คุยกัน หรืออาจเป็นเพราะได้เห็นยิ้มหล่อ ๆ กับสายตานั่น

ผมเริ่มแยกไม่ออกแล้วสิ

โว้ยยย

จะเป็นเพราะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ควรรีบกรอกเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้าให้เสร็จ

“ฟีฟ่า”

“หือ...”

“เป็นเด็กพูดจากับผู้ใหญ่ให้เพราะหน่อยสิครับ” เหมือนจะโดนดุนะแต่ยิ้มหล่อปิดท้ายคำพูดนี่มัน ตบหัวแล้วลูบหลังปลอบหรือไง

“ค...ครับพี่”

“เริ่มงานแผนกไหนหรอครับ”

“ฝ่ายประสานงานทั่วไปครับ เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานทั่วไป แล้วนาย...เอ่อ พี่ล่ะครับ”

“ฝ่ายช่างครับ”

หน้าคมเข้ม สูงยาว หน้าหล่อ ดีกรีเป็นช่าง

นี่มันสเปกชัด ๆ

“กรอกเอกสารกันเสร็จแล้วใช่ไหมครับ” เสียงดับฝันดังขึ้นขัดจังหวะ

“เสร็จแล้วครับ” ผมตอบเป็นเสียงประสานกับช่างคนใหม่ แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าใจตรงกัน ไม่อยากหันไปมองยิ้มอ่อนของคนข้างกันเลยสักนิดกลัวจะเผลอยิ้มตาม

“ถ้าอย่างนั้นส่วนต่อไปจะแนะนำให้รู้จักกับกฎระเบียบของบริษัทคร่าว ๆ ก่อนเข้าไปที่แผนกกันนะคะ ที่นี่ไม่มีอะไรมาก พนักงานเราไม่ได้เยอะมากทำงานไปสักอาทิตย์เดี๋ยวก็รู้จักกันทั้งบริษัท...”

เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงที่ผมต้องนั่งข้างหนุ่มหน้าคมที่ดูท่าทางจะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายจนดูเป็นตัวของตัวเอง ผมก็เข้าง่ายนะครับ หมายถึงนิสัยเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะครับอย่าเพิ่งคิดไปไกล เวลาของการอบรมผ่านไปต่อด้วยการทัวร์บริษัทก่อนจะส่งเข้าแผนกเป็นขั้นตอนสุดท้าย เราสองคนเดินตามหลังฝ่ายบุคคลที่ยังแนะนำทุกสิ่งรอบตัวจนผมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร อะไรอยู่ตรงไหน ยิ่งหน้าตาของคนที่บังเอิญเดินสวนกันแล้วได้กลายเป็นตัวละครให้ฝ่ายบุคคลแนะนำให้รู้จักพูดตรงนี้เลยครับจำไม่ได้ ในที่สุดเราก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานของฝ่ายผมเป็นที่เรียบร้อยแอบมองผ่านกระจกใสเข้าไปในห้องขนาดไม่ใหญ่มากนักและดูเหมือนอีกสองคนในห้องจะให้ความสนใจหันกลับมามองด้วยสิ ผมจึงทำได้แต่ส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรไปให้อย่างน้อยก็เป็นการผูกสัมพันธ์ก่อนเข้าไปอย่างเต็มตัว

“ตรงนี้เป็นห้องทำงานของฝ่ายประสานงานทั่วไปหรือในบริษัทจะเรียกว่าแอดมินนะคะ ส่วนตรงนั้นเป็นห้องของฝ่ายช่างซ่อมบำรุง”

ผมนี่รีบมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปยังห้องทำงานฝ่ายช่างเลยครับ แล้วบุพเพก็ช่างอาละวาดให้ห้องทำงานเราสองคนมีเพียงห้องทำงานของฝ่ายมัลติมีเดียคั่นไว้ตรงกลาง

ห้องทำงานใกล้กันขนาดนี้เราคงได้เจอกันบ่อยสินะ

การทำงานที่ได้แอบมองคนงานดีตรงสเปกเป็นของแถมแบบนี้ถือว่าคุ้มค่าแก่การมาทำงานแล้วล่ะครับ

 

ไว้เจอกันใหม่บทต่อไปนะครับ

เนื้อหาโดย: MyTopic
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
monkeythink's profile


โพสท์โดย: monkeythink
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Dexter Suttipong
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
5 ราศีที่ดวงความรักโดดเด่นในเดือนเมษายน 2568 ทั้งคนโสดและคนมีคู่ มีโอกาสเจอเรื่องหัวใจพิเศษ ๆเพราะคาดหวัง จึงผิดหวัง จะจัดการรับมือกับความผิดหวังอย่างไร?รีวิวหนังสือ ป่านนี้เขานั่งกินไอติมสบายใจเฉิบไปแล้วสัตว์เลี้ยงบอกนิสัยเจ้าของ เลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดบ่งบอกบุคลิกภาพเจ้าของได้5 ราศีการเงินปังสุดในเดือนเมษายน 2568 – กระเป๋าตุงแบบไม่ทันตั้งตัว!ไม่ดูไม่ได้แล้ว! ซีรีส์วายที่กำลังจะออนแอร์ ที่คนดูพูดถึงมากที่สุดตอนนี้ 2025เพชรสังเคราะห์จีน ทำมูลค่าเพชรแท้ทั่วโลกดิ่ง คุณสมบัติทางกายภาพและเคมีเทียบเพชรจริงทำไม? สงกรานต์​ถึงกำหนดเป็น​เดือนเมษายนชุด ฉก.เมืองทอง จับหนุ่มค้ายา 9 หมื่นเม็ด ชวดเที่ยวสงกรานต์กับแฟนสาวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถูกหนุ่มยิงเจ็บ โต้ถูกใส่ร้าย เชื่อยิงหวังฆ่าให้ตายทำไมชาวไทยถึงมักจะเห็นผี แต่หลายๆประเทศในโลกทำไมไม่เจอผีซีรีส์ The Last of Us Season 2 ฉายตอนแรกแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
5 ราศีการเงินปังสุดในเดือนเมษายน 2568 – กระเป๋าตุงแบบไม่ทันตั้งตัว!รีวิวหนังสือ ป่านนี้เขานั่งกินไอติมสบายใจเฉิบไปแล้วชุด ฉก.เมืองทอง จับหนุ่มค้ายา 9 หมื่นเม็ด ชวดเที่ยวสงกรานต์กับแฟนสาวเปิดค่าตัว"โตโน่ ภาคิน"เห็นเรทราคาแล้วต้องร้องว้าวเลยทำไม? สงกรานต์​ถึงกำหนดเป็น​เดือนเมษายน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
5สิ่งที่ชาวต่างชาติมักประหลาดใจในเรื่องมารยาทอันดีงามของคนไทยกลอน เพื่อนเก่า“Mindset ประหลาดของคนไทย ที่ทำให้เราแพ้ชาวบ้าน” ความจริงที่อาจไม่อยากได้ยิน แต่ควรฟังกลอนลิซ่า ไป โคชิลล่า
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง