น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีประโยชน์มากมาย
น้ำมันมะพร้าว
ผลิตโดยใช้น้ำกะทิสด ณ อุณหภูมิ 5-0 องศา สามารถทำให้เป็นน้ำมันมะพร้าวได้ภายใน 15 นาที ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็นโดยการเหวี่ยงแยก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในขณะนี้โดยไม่ผ่านความร้อนทุกขั้นตอน การผลิตจึงทำให้สารอาหารที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าวคงสภาพเดิมมากที่สุด ทำให้เป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยยังคงความสด และคุณสมบัติตามธรรมชาติไว้ได้ครบถ้วน
จุดเด่นของ..น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์100%
- สีใสเหมือนน้ำ
- มีกลิ่นหอมของมะพร้าวตามธรรมชาติ
- ไม่เหม็นหืน
- ไม่เหม็นเปรี้ยว
- ไม่มีการเติมสารแต่งกลิ่นหรือสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ
1.1 ช่วยลดคลอเรสเตอรอลชนิดเลวหรือ LDL และเพิ่มคลอเรสเตอรอลชนิดดีหรือ HDLช่วยให้สุขภาพของร่างกายและหัวใจดีขึ้น
1.2 เปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย
1.3 เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหาร อาหารจะถูกเผาผลาญเป็นพลังงานหมดอย่างรวดเร็ว ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกาย
1.4 ช่วยลดน้ำหนัก โดยการนำไขมันที่ร่างกายสะสมไว้ในส่วนต่างๆ ออกมาใช้เป็นพลังงาน จึงช่วยลดความอ้วนได้สมกับคำกล่าวที่ว่า"กินของอ้วนแต่กลับดูผอม: EAT FAT - LOOK THIN"
- ประโยชน์ต่อผิวพรรณ
2.1 ผิวดูอ่อนวัย ทำให้ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระหรือฝ้า แต่ชุ่มชื้นและเนียนปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่น
2.2 ผิวแลดูนุ่มและเนียน ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้นเพราะถูกแดดและลม น้ำมัน มะพร้าวมีสารที่ช่วยคงความชุ่มชื้น
2.3 ช่วยลดการเกิดฝ้าและกระ อนุมูลอิสระเป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้าและกระ วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำ หน้าที่ขัดขวางปฏิกริยาออกซิเดชั่นอนุมูลอิสระเหล่านั้นและยังใช้ทากันแดดได้ดีอีกด้วย
- ประโยชน์ต่อเส้นผม
3.1 ช่วยปรับสภาพเส้นผม ช่วยให้ผมนุ่มดำเป็นเงางาม เพราะมีวิตามินอีช่วยเสริมสร้างการเจริญของเส้นผม
3.2 ช่วยดูแลสุขภาพของหนังศรีษะ มีสารปฏิชีวนะทำลายเชื้อโรค ช่วยลดการเกิดรังแค
3.3 ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี มีคุณสมบัติยึดเกาะกับโปรตีนของเส้นผมได้ดี จึงช่วย ลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนของเส้นผม
- ประโยชน์ต่อการทำสปา
4.1 ใช้นวดตัวในการบำบัด เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย
4.2 ใช้เป็นน้ำมันสำหรับการนวดคลายเส้นได้ดี
วิธีการใช้
- สุขภาพภายใน
1.1 รับประทานตามตารางแนะนำการบริโภค ก่อนอาหารประมาณ 15 -30 นาที แล้วตามด้วยน้ำอุ่น 1-2 แก้ว ทุกครั้ง
1.2 สามารถผสมในเครื่องดื่ม อาทิเช่น กาแฟ โอวัลติน และอื่นๆ ได้ตามต้องการ
คำแนะนำ :
* สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทาน เพียง 1 ช้อนโต๊ะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
* มื้อเย็นควรรับประทานก่อนเวลา 18.00 น.
* ไม่แนะนำให้รับประทานก่อนเข้านอน
* แบ่งรับประทานมื้อละ 1 ช้อนโต๊ะ และไม่ควรเกิน 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
* ออกกำลังกายควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสม**
** ลดการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมให้มากที่สุด อาทิ ข้าวขัดขาว ขนมปังขัดขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน น้ำอัดลม และกลุ่มผลไม้ที่ให้ความหวาน อาทิ ทุเรียน ขนุน ละมุด ผลไม้ตากแห้ง ผลไม้กวน ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้กระป๋อง
อ้างอิงจาก:Diary