เมนูสุดอร่อยกับอาหารที่แพงที่สุดในโลก
มีอาหารมากมายในโลกใบนี้ที่จะให้เราลิ้มลองจนแทบนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว แต่กับอาหาร 5 อันดับต่อไปนี้ที่ถือว่าเป็นอาหารที่แพงที่สุดในโลกก็ว่าได้ มาดูกันเลยว่าอาหารที่ว่ามีอะไรบ้าง?
1. Bluefin tuna
อันดับ 1 ตลอดกาล ต้องยกให้ Bluefin Tuna หรือ Hon Maguro ปลาที่ขึ้นชื่อว่ามีราคาสูงที่สุดในโลก โดย Blue fin จะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลลึก นับว่าเป็นที่นิยมของคนในญี่ปุ่น และนับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญตัวหนึ่ง โดยเนื้อชนิดนี้ จะมีไขมันแทรกตัวที่เยอะ คล้ายกับเนื้อวากิว ให้พลังงานที่น้อย แต่มีรสชาติที่ดี เนื้อชุ่มฉ่ำและมีสารอาหารมากมาย
*ปัจจัยที่ทำให้มีราคาสูง เพราะว่าจำนวนปลาชนิดนี้ กับความต้องการของคนไม่เพียงพอ จึงทำให้ขาดตลาดเรื่อยๆ
เมื่อปี 2020 มีชาวประมงได้ค้นพบ Blue Fin ที่มีน้ำหนักตัวถึง 600 ปอนด์ ซึ่ง 1 ปอนด์ มีค่าถึง 5,000 หรือราวๆ 1,215,450 ดังนั้น ตัวนี้จึงมีค่าสูงถึง 1.8 ล้านบาท นั่นเอง
2. Caviar (คาเวียร์)
คาเวียร์สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า ไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งวัตถุดิบ อาหารชนิดนี้หลายคน ยังเข้าใจผิดเพราะแทีจริงแลัว เดิมทีมันไม่ได้มาจากปลาคาเวียร์อย่างที่คนเคยเข้าใจกัน แต่มาจากไข่ปลาสเตอร์เจียนโดยจะมาจากทะเลสาบแคสเปีย ใน อาเซอร์ไบจาน,อิหร่าน และรัสเซีย โดยคาเวียร์ที่มีราคาแพงที่สุดก็คือ Strottarga Bianco หรือ สเตอร์เจียนเผือก ที่มีมูลค่าสูงถึง 37,000ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,215,450 บาท
3. Swallow's Nest Soup (ซุปรังนก)
ซุปรังนก เป็นหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน โดยสิ่งที่ทำให้แพงก็คือ รังนกนางแอ่น ซึ่งสามารถพบได้ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ รังนกชนิดนี้จะมีราคาที่สูงอย่างมากสูงถึง 5,000-6,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 197,592 บาท
4. Wagyu beef (เนื้อวากิว)
เนื้อวากิว นับว่าเป็นเนื้อจากญี่ปุ่นฝันที่หลายๆคน ว่าต้องได้รับประทานให้ได้ ด้วยรสสัมผัสที่นุ่มละมุน นุ่มลิ้น กินกี่ครั้งก็ยังฟิน ถึงแม้จะมีความอร่อย จนเกินห้ามใจ แต่กลับมีราคาที่สูง กว่าเนื้อวัวแบบอื่นๆโดยเฉพาะ American wagyu beef เป็นเนื้อที่มาจากอเมริกา มีเนื้อที่นุ่มกว่าเป็นอย่างมาก หวาน ชุ่มฉ่ำ และหอมลงตัว ในปี 2002 เนื้อชนิดนี้มีราคาสูงถึง 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ13,140,000 บาทเลยทีเดียว
5. White truffles (เห็ดทรัฟเวิลขาว)
เห็ดที่ได้ขึ้นชื่อว่า แพงที่สุดในโลก มักจะพบได้ในฤดูหนาว ช่วงเดือน พฤศจิกายนจนบางครั้งลากยาวไปจนถึงเดือน กุมภาพันธ์ และ ไวท์ทรัฟเฟิลที่มีราคาสูงที่สุด จะมา "เพียดมองต์ และ อัลบา"ในประเทศ อิตาลี ไม่สามารถปลูกได้เอง ต้องหาตามธรรมชาติเท่านั้น โดย ราคาจะสูงจนมีมูลค่าเหมือนเพชร 6,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 197,000-328,5000 บาท
*เป็นอย่างไรบ้างครับอาหารน่าทานเลยทีเดืยวแต่คงมีเงินซื้อกินเป็นแน่เพราะตอนนี้จนเหลือเกิน